Kitchen & Home Pet Club

Wiggly Buddies ไอศกรีมสานสัมพันธ์ของทาสกับน้องหมา


เมื่อเทรนด์ Pet Humanization หรือพฤติกรรมการเลี้ยงสัตว์เลี้ยงไว้เป็นเพื่อนจนเกิดบรรดาทาสของสัตว์เลี้ยงแสนรักมากมาย ส่งผลให้ธุรกิจเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงเติบโตขึ้นตามไปด้วย

ผู้ร่วมก่อตั้งแบรนด์ Wiggly Buddies

ทำให้ใครหลายคนผุดไอเดียขายผลิตภัณฑ์สำหรับสัตว์เลี้ยงที่น่าสนใจเกิดขึ้นตามมา หนึ่งในนั้นคือแบรนด์ไอศกรีมสุนัข Wiggly Buddies-Doggie Ice Cream ของคุณนัทกัญฐณา จันทวิบูลย์ และสองพาร์ตเนอร์ที่เชี่ยวชาญด้านแบรนดิงและงานดีไซน์ คุณบอน-สารัช จันทวิบูลย์ และคุณโอ-พีรกันต์ สมบัติเลิศตระกูล ที่ผลักดันนำแบรนด์ Wiggly Buddies คว้ารางวัล  Design Excellence Award (DEmark) ปี 2023 กลุ่มสินค้าไลฟ์สไตล์และแฟชั่น และรางวัล Good Design Award (GMark) ปี 2023 ที่ประเทศญี่ปุ่น

ไอศกรีมน้องหมาที่ทำจากใจ    

จากวัยรุ่นสร้างตัวที่ผ่านการทำธุรกิจมาหลากหลาย มีล้มบ้าง ประสบความสำเร็จบ้าง กลายเป็นประสบการณ์บ่มเพาะมุมมองการทำงานที่เติบโตขึ้นจนกระทั่งได้มาจับธุรกิจที่ถูกทางเพราะมาจากความชื่นชอบที่ส่วนหนึ่งเธอก็เป็นทาสสัตว์เลี้ยง ซึ่งมีเจ้าทาร์ตไข่ สุนัขพันธุ์คอร์กี้มาเป็นแรงบันดาลใจจนเกิดเป็นแบรนด์ Wiggly Buddies    

“เมื่อก่อนเราไม่มีความรู้เรื่องการทำธุรกิจเท่าไร อาศัยเห็นคนอื่นเขาทำแล้วดีก็อยากลองทำบ้าง สุดท้ายจริตของเราไม่ตรงกับโปรดักต์ที่ทำ เลยไม่ประสบความสำเร็จสักเท่าไร จนมาถึงธุรกิจนี้ เนื่องจากนัทเลี้ยงน้องหมา เวลาพาเขาไปเดินห้าง ไปตาม Pet Friendly ทำให้เรามองเห็นว่าตลาดสัตว์เลี้ยงโตขึ้นทุกปีๆ ละ 10% เหมือนเทรนด์คนที่จะมีครอบครัวมีลูกน้อยลงเรื่อยๆ สวนทางกับการเลี้ยงสัตว์เลี้ยงไว้เป็นเพื่อนที่เพิ่มจำนวนมากขึ้น เลยเป็นโอกาสที่นัทมองเห็นช่องทาง จริงๆ ก็ไม่ได้คิดว่าจะมาไกลขนาดนี้ 

ส่วนของแท่งไอศกรีมเป็น Edible Dental Stick ที่สามารถให้น้องหมากินได้

“ทุกครั้งที่ทำธุรกิจเราทำด้วยความทุ่มเทมาตลอด พอทำมาหลายอย่างทำให้รู้ว่าจริงๆ แล้วอีกอย่างหนึ่งที่ทำให้ประสบความสำเร็จคือการมีพาร์ตเนอร์ที่ดีที่เข้ามาเติมเต็มในสิ่งที่เราขาดด้วย โดยในทีมของเรานัทจะดูเรื่องการตลาดและการขาย ส่วนพาร์ตเนอร์แต่ละคนก็ทำงานที่แตกต่างกัน อีกคนหนึ่งทำเกี่ยวกับแบรนดิง อีกคนก็เป็นดีไซเนอร์ทำเกี่ยวกับดีไซน์ ส่วนที่ทำให้โปรดักต์เราได้รางวัลก็มาจากทางพาร์ตเนอร์ที่ช่วยสร้างสรรค์ในการทำไอติมน้องหมาให้ออกมาดูแปลก ดูสวย สร้างความแตกต่างจากไอศกรีมทั่วๆ ไป นอกจากนี้เราก็มีพาร์ตเนอร์อีกท่านหนึ่งที่ช่วยดูเรื่องหลังบ้าน เงินทุน บัญชีต่างๆ ด้วย”

ความท้าทายในการทำ Wiggly Buddies

ด้วยการเริ่มต้นอยากทำโปรดักต์และมองในตลาดว่ายังมีอะไรที่ไม่ค่อยมีขาย จะเห็นว่าขนม อาหารสัตว์ต่างๆ มีเยอะแล้วในตลาดเมื่อเดินเข้ามา Pet Shop ถ้าเราไปสู้ก็มีการแข่งขันสูง ยิ่งมีเจ้าใหญ่อยู่แล้วยิ่งสู้ยาก จึงเป็นที่มาของโปรดักต์ไอศกรีมที่ยังไม่ค่อยมีใครทำ เพราะธุรกิจเกี่ยวกับความเย็นถือเป็นธุรกิจที่ยาก ความยากคือการรักษาอุณหภูมิและการขนส่ง เวลาขายในช่องทางออนไลน์ค่าส่งไอติมขั้นต่ำคือ 150 บาท ถ้าลูกค้าซื้อไอติม 1 ชิ้น ราคา 129 บาท แต่ค่าส่ง 150 บาท มันก็มีความยากตรงนี้

ก่อนที่เราเริ่มธุรกิจก็มีการรีเสิร์ชมาว่าถ้าเราจะลงธุรกิจนี้มีชาเลนจ์อะไรบ้าง อย่างแรกคือค่าขนส่งที่สูงกว่าปกติ 3 เท่า สองคือตู้แช่ เราต้องมีตู้แช่ของตัวเอง ขั้นต่ำในการลงทุนคือตู้ละหลักหมื่นบาท เพราะเราไม่สามารถนำไอศกรีมไปขายตู้คนอื่นได้ จากการเปิดตัวออกบูทครั้งแรกก็มีคนสนใจเป็นจำนวนมาก ทั้งๆ ที่เรายังไม่ได้โปรโมตอะไรเลย มีแค่ช่องทางเฟซบุ๊ก ไอจีของแบรนด์เท่านั้นคนก็หลั่งไหลเข้ามา เป็นครั้งแรกที่เปิดตัวของก็ขายหมดตู้แช่ จุดดึงดูดที่ทำให้ลูกค้าสนใจคือดีไซน์ของไอศกรีมที่เป็นรูปกระดูก และแพ็กเกจจิงที่ถือว่าเป็นของใหม่และแปลกด้วย จากนั้นเราก็เพิ่มกำลังการผลิต เพิ่มช่องทางจำหน่าย ขยายตลาด ซึ่งปัจจุบันมีฐานลูกค้าที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

สานสัมพันธ์ด้วย Wiggly Buddies

ทำไมจึงทำไอศกรีมแบบแท่งเป็นคำถามที่คุณนัทบอกกับเราว่า “เพราะอยากให้คนเลี้ยงได้ใกล้ชิดกับน้องหมามากขึ้น การกินไอศกรีมแท่งอย่างไอศกรีมของ Wiggly Buddies ที่ถูกออกแบบมาให้เหมาะแก่การป้อนด้วยมือของเราเองทำให้สามารถเสริมสร้างความสัมพันธ์และความเชื่อใจระหว่างเรากับน้องหมา อีกทั้งยังช่วยฝึกเรื่องพฤติกรรมให้น้องเชื่อฟังเราง่ายขึ้น ช่วยแก้นิสัยกินเร็วที่อาจส่งผลต่อท้องของน้องได้ ลดอาการหวงสิ่งของ ทำให้คุ้นชินกับเจ้าของ และนี่ถือเป็นจุดเด่นและคอนเซ็ปต์ของแบรนด์”

ดังนั้น Wiggly Buddies จึงไม่ได้เป็นเพียงไอศกรีมสำหรับสุนัขเท่านั้น แต่ยังนำเสนอรูปแบบใหม่ของการสื่อสารระหว่างสัตว์เลี้ยงกับเจ้าของอีกด้วย

ไอศกรีมที่ผลิตจากวัตถุดิบ Human Grade

ไอศกรีมของเรามีความพรีเมียมด้วยส่วนผสมต่างๆ ที่เป็น Human Grade วัตถุดิบแบบเดียวกับคนกิน มีส่วนผสมของนมแพะเพราะสุนัขกินนมวัวไม่ได้ ประกอบกับการทำไอศกรีมที่เป็นรูปทรง ทุกอย่างเป็นแฮนด์เมด เพราะเครื่องจักรก็มีข้อจำกัด ซึ่งก็ตรงกับความต้องการที่เราอยากให้โปรดักต์มีความสวยและแตกต่าง โดยทุกโปรดักต์ที่ผลิตออกมาจะคำนึงถึงประโยชน์เป็นหลัก และจากประสบการณ์ที่เลี้ยงน้องหมาเราจะรู้ว่าในทุกๆ ครั้งที่เขากินเราอยากให้เขาเสริมอะไรบ้าง และมาจากพาร์ตเนอร์ที่เลี้ยงน้องหมาเหมือนกัน เราก็จะคุยกันในกลุ่มว่าลูกเรามีปัญหาด้านไหนบ้างแล้วนำข้อมูลเหล่านี้มาพัฒนาเป็นโปรดักต์ของเรา สิ่งที่เห็นได้ชัดที่สุดคือทุกๆ ครั้งที่น้องกินไอศกรีมน้องจะมีความสุข

Wiggly Buddies มีทั้งหมด 4 รสชาติ คือ รสวากิว ไข่แดง และโอ๊ต ช่วยในเรื่องให้พลังงาน, รสโยเกิร์ต และบรอกโคลีที่ช่วยเรื่องการเพิ่มไฟเบอร์ ระบบขับถ่าย, รสแซลมอน ออยล์ ฟักทอง และแครอต ช่วยเรื่องสุขภาพขนและผิวหนัง, รสมิกซ์เบอร์รีซอร์เบต์ สำหรับน้องหมาที่ไม่ชอบกินนมหรือแพ้นมแพะ ซึ่งเป็นการรวมตระกูลเบอร์รีที่มีความหวานจากผลไม้ คล้ายๆ ผลไม้แช่แข็ง ปริมาณการกินที่แนะนำคือ 1 แท่งต่อวัน เพราะน้องหมาจะต้องกินอาหารที่เป็นมื้อหลักด้วย ปัจจุบันเราได้ออกสินค้าใหม่คือไอศกรีมขนาดเล็กรูปกระดูก มินิไบท์ ไอศกรีม วางเป็นท็อปปิงบนอาหารของน้องหมา เป็นการมิกซ์เข้ากับมื้ออาหารให้ชวนกินง่ายขึ้น

Wiggly Buddies รางวัลแห่งการสานสัมพันธ์ของคนและสัตว์

ก้าวต่อไปของ Wiggly Buddies เรายังคงคอนเซ็ปต์ Bonding กับน้องหมาอยู่ โปรดักต์ที่เราทำหลักๆ เราจะคำนึงถึงว่าจะทำอย่างไรให้เรากับน้องหมาสนิทกัน รักกันมากขึ้น เน้นการส่งต่อความรักให้ถึงกัน ไม่ว่าจะเป็นไอศกรีมหรือของกินอื่นๆ ในอนาคตเราอาจจะมีโปรดักต์ใหม่ๆ เพิ่มขึ้นมา แต่ที่เราไม่ทิ้งคือคอนเซ็ปต์การสร้างปฏิสัมพันธ์และความสุขให้กับน้องหมา เพราะชื่อแบรนด์ Wiggly มาจากความหมายคือการกระดิกหาง ซึ่งเป็นการแสดงออกถึงความดีใจ ส่วน Buddies คือทั้งคนเลี้ยงและน้องหมาที่เป็นบัดดี้กัน ดังนั้นถ้าคิดถึงความรักระหว่างคนกับน้องหมาก็อยากให้นึกถึงแบรนด์เรา ทุกครั้งที่เราอยากให้รางวัลน้อง อยากให้น้องมีความสุข ไอศกรีมนี่แหละถือเป็นตัวเลือกแรกๆ ที่อยากให้ทุกคนนึกถึง

Wiggly Buddies มีจำหน่ายทางช่องทางออนไลน์ และหาซื้อได้ที่ Pet Shop, สระว่ายน้ำสัตว์เลี้ยง และ Pet Friendly Cafe & Restaurant ทั่วประเทศ สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Facebook : Wiggly Buddies Instagram : wigglybuddies


You Might Also Like...