Cooking Lifestyle & Cooking

14 เมนูเบเกอรี่ทำง่าย ของหวานแสนอร่อยเยียวยาใจ


เพราะของหวานแสนอร่อยจะช่วยเยียวยาใจ เราก็ไม่พลาดรวม 14 เมนูเบเกอรี่ทำง่ายมาฝาก จะมีเมนูอะไรน่าสนใจบ้างนั้น ตามมาดูกันเลย

Chocolate Strawberry Cap

อร่อยกับแป้งช็อกโกแลตอบกรอบ เพิ่มความหวานด้วยครีมมาสคาร์โปนและรสเปรี้ยวอมหวานของสตอร์เบอร์รี่

ส่วนผสม Chocolate Strawberry Cap (สำหรับ 6 ชิ้น)

  • แป้งสาลี 30 กรัม
  • ไข่ขาว 1 ฟอง
  • น้ำตาลทราย(1) 60 กรัม
  • เนยละลาย 30 กรัม
  • กลิ่นวนิลา ½ ช้อนชา
  • สตรอว์เบอรี 8-10 ผล
  • น้ำตาลทราย(2) 1-2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำส้ม 3-4 ช้อนโต๊ะ
  • มาสคาร์โปน 1 ถ้วย
  • วิปปิงครีม ½  ถ้วย
  • น้ำตาลไอซิ่ง 3 ช้อนโต๊ะ
  • กลินวนิลลา ½ ช้อนชา

ขั้นตอนการทำ Chocolate Strawberry Cap

  1. ร่อนแป้งเค้กกับผงโกโก้เข้าด้วยกัน ตีไข่ขาว กับน้ำตาลทรายและกลิ่นวนิลลาจนเริ่มขึ้นฟู ใส่ส่วนผสมแป้ง และ เนยละลายลงไปคนเบาๆให้เข้ากัน
  2. เปิดเตาอบเตรียมไว้ที่ 180 องศาเซลเซียส ตักส่วนแป้ง 1-2 ช้อนโต๊ะหยอดลงบนกระดาษไขหรือ แผ่นซิลิโคนวนช้อนเป็นวงกลมเพื่อให้แป้งแผ่นออกเป็นแผ่นบางๆ นำไปอบประมาณ 8-10นาที ยกออกมาเอาแผ่นคุกกี้ที่ยังร้อนวางลงไปบนถ้วยที่วางคว่ำไว้เพื่อให้แป้งเป็นทรงถ้วย พักไว้จนเย็น
  3. นำสตอร์เบอรี่มาหั่นเป็นชิ้นเล็ก ผสมกับน้ำตาลทราย(2)และ น้ำส้มแช่เย็นไว้ ผสมมาสคาร์โปน วิปปิงครีม น้ำตาลอซิ่งและกลิ่นวนิลลาในชามผสมใช้หัวตีตะกร้อเดินเครื่องไปจนส่วนผสมขึ้นฟู
  4. เสิร์ฟโดยบีบครีมมาสคาร์โปนลงในถ้วยคุกกี้ ตักส่วนผสมสตรอว์เบรีลงไป 1-2 ช้อนโต๊ะ

เคล็ดลับความอร่อย 
สำหรับสตรอว์เบอรีนั้นสามารถผสมเหล้าผลไม้ และ ผิวส้มขูดไปผสมเพื่อเพิ่มกลิ่นและรสชาติได้

⚫️⚪️⚫️

Chocolate Pasta with Vanilla & Raspberry Sauce

เส้นพาสต้าที่เสิร์ฟเป็นขนมคู่กับซอสวนิลา  ราสเบอร์รี่ และผลไม้สดตามชอบ

ส่วนผสม

  • แป้งสาลี(1) 1 ½ ถ้วย
  • ผงโกโก้ ¼ ถ้วย
  • ไข่ไก่ 1 ฟอง
  • น้ำตาลไอซิ่ง ¼ ถ้วย
  • น้ำตาลทราย(1) ½ ถ้วย
  • แป้งสาลี(2) 1 ช้อนโต๊ะ
  • แป้งข้าวโพด 1 ช้อนโต๊ะ
  • นมสด 1 ถ้วย
  • ไข่แดง 4 ฟอง
  • กลิ่นวนิลา 2 ช้อนชา
  • ราสป์เบอร์รีแช่แข็ง 1 ถ้วย
  • น้ำตาลทราย(2) 1 ถ้วย
  • น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ
  • แครนเบอร์รี่แห้ง และ ถั่วตามชอบ

ขั้นตอนการทำ

  1. ทำเส้นพาสต้าโดนร่อนแป้งสาลีกับผงโกโก้เข้าด้วยกันใส่ไข่ไก่ลงไปนวดให้เข้ากันห่อพลาสติกพักไว้  20 นาที นำไปรีดด้วยเครื่องทำพาสต้า
  2. นำซอสราสป์เบอร์รีโดยผสมราสป์เบอร์รีน้ำตาลทราย(2)กับน้ำมะนาวต้มไฟอ่อนคนเป็นระยะไปจนกลายราสป์เบอร์รีเละเป็นซอสพักไว้
  3. ทำวนิลาซอสโดยต้มนมให้พออุ่นระหว่างนั้นให้ตีไข่แดงกับน้ำตาลทราย(1) แป้งสาลี(2) และ แป้งข้าวโพดด้วยตะกร้อมือจนส่วนผสมเข้ากันเทนมอุ่นลงไปผสมคนให้เข้ากันเทกลับลงไปในหม้อตั้งไฟคนไปเรื่อยๆจนส่วนผสมข้น พักไว้
  4. ต้มเส้นพาสต้าในสุกนำไปแช่ในน้ำเย็นจนหายร้อน ตักขึ้นให้สะเด็ดน้ำแล้วใส่จานราดด้วยวนิลา และ ราสป์เบอร์รีซอส แต่งด้วยผลไม้สด และ ถั่วตามชอบ

เคล็ดลับความอร่อย
สามารถนำเส้นพาสต้าไปผัดกับเนยเค็มเพื่อเพิ่มรสชาติและความหอมให้กับเส้นได้

⚫️⚪️⚫️

Chocolate Peppermint Pie

พายช็อกโกแลต 2 รส ด้วยรสมิ้นต์หอมๆหวานๆจากช็อกโกแลตขาว ตัดรสด้วยช็อกโกแลตดำด้านบน

ส่วนผสม

  • แป้งอเนกประสงค์ 2 ถ้วย
  • ผงโกโก้ 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาลไอซิ่ง ¼ ถ้วย
  • เนยเค็ม 120 กรัม
  • ไข่แดง 1 ¼ ฟอง
  • น้ำเย็น 2-3 ช้อนโต๊ะ
  •  ช็อกโกแลตขาว 2 ถ้วย
  • วิปปิงครีม(1) ½ ถ้วย
  • กลิ่นเปปเปอร์มิ้นท์ ½ -1 ช้อนชา
  • ดาร์กช็อกโกแลต 1 ถ้วย
  • วิปปิงครีม(2) ¼ ถ้วย

ขั้นตอนการทำ

  1. ทำแป้งฐานโดยผสมแป้งอเนกปรัสงค์ ผงโกโก้   น้ำตาลทราย   เนยเค็ม   เนยขาว และ ไข่แดง  ในเครื่องปั่นสับ เดินเครื่องไปจนสวนผสมเข้ากันนำออกนวดผสมน้ำ 1-2 ช้อนโต๊ะจนเนียน  ห่อด้วยพลาสติกนำไปแช่เย็น 20 นาที
  2. นำแป้งที่แช่เย็นแล้วมาคลึงเป็นแผ่นให้หนาประมาณ 5 – 7 มิลลิเมตรนำไปกรูในถาดพายนำไปแช่เย็น 30 นาที – 1 ชั่วโมง แล้วนำไปอบที่อุรหภูมิ 150 องศาเซลเซียสประมาณ 3- 45 นาทีหรือ จนสุกนำไปพักไว้จนเย็น
  3. ผสมกลิ่นเปปเปอร์มิ้นท์ กับวิปปิงครีม(1)แล้วนำไปอุ่นให้ร้อนเทลงไปบนช็อกโกแลตขาวคนไปจนละลายเป็นเนื้อเดียวกันเทใส่แป้งพายที่เย็นแล้วนำไปแช่เย็นให้เซ็ตตัว
  4. อุ่นวิปงครีม(2)ให้ร้อนเทลงไปบนดาร์กช็อกโกแลตคนให้ละลายเททับลงไปบนส่วนผสมช็อกโกแลตขาวที่เซ็ตตัวแล้วนำไปแช่เย็นจนกว่าจะเสิร์ฟ

เคล็ดลับดีๆไม่มีเม้ม
แต่งหน้าพายง่ายๆด้วยการนำลูกอมรสมิ้นต์ (ที่อาจจะเหลือจากงานปีใหม่)มาทุกให้แตกแล้วโรยหน้าตอนที่ดาร์กช็อกโกแลตยังไม่เซ็ตตัว

⚫️⚪️⚫️

Chocolate Cake with Raspberry Frosting

เค้กช็อกโกแลตผสมรสกาแฟ  สลับชั้นด้วยครีมราสเบอร์รี่

ส่วนผสม

  • แป้งอเนกประสงค์ 2 ถ้วย
  • น้ำตาลทราย 2 ถ้วย
  • ผงโกโก้ ½ ถ้วย
  • เบกกิ้งโซดา 2 ช้อนชา
  • ผงฟู 1 ช้อนชา
  • เกลือ ¼ ช้อนชา
  • ไข่ไก่ 2 ฟอง
  • กาแฟดำ ½ ถ้วย
  • นมสด 1 ถ้วย
  • น้ำมันพืช ½ ถ้วย
  • น้ำส้มสายชุ 2 ช้อนชา
  • น้ำตาลไอซิ่ง 2 ถ้วย
  • เนยเค็ม 120 กรัม
  • ครีมชีส 115 กรัม
  • ราสป์เบอร์รี 1 ถ้วย
  • กลิ่นวนิลลา ¼ ช้อนชา

ขั้นตอนการทำ

  1. เปิดเตาอบไว้ที่อุณหภุมิ 170 องศาเซลเซียส ร่อน แป้เงอเนกประสงค์ ผงโกโก้ เบกกิ่งโซดา ผงฟู เกลือ เขาด้วยกันใส่น้ำตาลทรายลงไปคนให้เข้ากัน
  2. ผสมไข่ไก่ กาแฟดำ นมสด น้ำมันพืช และ น้ำส้มสายชูคนให้เข้ากันเทลงไปผสมกับส่วนผสมแห้งคนให้ส่วนผสมเนียนเข้าด้วยกันเทใส่พิมพ์ นำไปอบประมาณ 30 -45 นาที หรือจนเค็กสุกนำออกมาวางพักให้เย็น
  3. ทำRaspberry Frosting  นำราสป์เบอร์รีสดไปบดให้ละเอียดพักไว้ ผสมน้ำตาลไอซิ่ง เนยเค็ม ครีมชีส และ กลิ่นวนิลลาเข้าด้วยกันตีด้วยหัวตีใบไม้จนส่วนผสมขึ้นฟู ใส่ราสป์เบอร์รีบดลงไปเดินเครื่องให้ส่วนผสมเข้ากัน
  4. นำเค้กที่เย็นตัวแล้วมาผ่าครึ่งตามขวางทาRaspberry Frosting ลงไปวางทับด้วยเค้กอีกชิ้น

เคล็ดลับความอร่อย
ถ้าใช้ราสป์เบอร์รีแช่แข็งให้เอาออกมาพักไว้จนน้ำแข็งละลายจนหมดไม่มีความเย็นแล้วถึงจะนำไปบดผสมกับส่วนผสมเนย หรือ จะใช้ราสป์เบอร์รีแทนก็ได้

⚫️⚪️⚫️

Chocolate & Rum Cake

เค้กช็อกโกแลตที่มีรสของกาแฟและกลิ่นหอมของเหล้ารัม

ส่วนผสม

  • แป้งเค้ก 3 ถ้วย
  • เบ็กกิ้งโซดา 1 ช้อนชา
  • ผงฟู 1 ช้อนชา
  • เกลือ ½ ช้อนชา
  • เนยเค็ม 340 กรัม
  • นมสด 1 ½ ถ้วย
  • กาแฟ 1 ถ้วย
  • เหล้ารัม ½ ถ้วย
  • ผงโกโก้ 1 ½ ถ้วย
  • น้ำตาลทรายแดง(1) 1 ¾ ถ้วย
  • น้ำตาลทราย ½ ถ้วย
  • ไข่ไก่ 3 ฟอง
  • กลิ่นวนิลลา 2 ช้อนชา
  • น้ำตาลทรายแดง(2) 1 ถ้วย
  • วิปปิงครีม ½ ถ้วย
  • เหล้ารัม ½ ถ้วย
  • เนยเค็ม 2 ช้อนโต๊ะ

ขั้นตอนการทำ

  1. เปิดเตาอบไว้ที่อุณหภูมิ 160 องศาเซลเซียสร่อนแป้งเค้ก เบ็กกิ้งโซดา ผงฟู และเกลือเข้าด้วยกันเตรียมไว้
  2. ผสมเนยเค็ม นมสด กาแฟ เหล้ารัม ผงโกโก้ น้ำตาลทรายแด(1) และน้ำตาลทรายในหม้อตั้งไฟอ่อนคนไปเรื่อยจนส่วนผสมเนียนเป็นเนื้อเดียวกันยกลงวางพักให้หายร้อน ใส่ไข่ไก่ และ กลิ่นวนิลลาลงไปคนให้เข้ากัน
  3. เทส่วนผสมโกโก้ลงไปผสมกับส่วนผสมแป้งคนพอเข้ากันเทใส่พิมพ์ที่เตรียมไว้นำไปอบ 50 – 60 นาที หรือ จนสุก นำออกมาวางพักไว้
  4. ทำGlaze โดย ผสมน้ำตาลทรายแดง(2) และวิปปิงครีมต้มไฟอ่อนไปจนน้ำตาลละลายและมีลักษณะข้น ใส่เนยลงไปคนให้ละลายตามด้วยเหล้ารัมคนจนเนียนนำไปราดบนขนมเค้ก

เคล็ดลับความอร่อย
สามารถนำGlazeไปราดขนมเค้กที่ยังอุ่นอยู่ในพิมพ์โดยใช้ไม้จิ้มฟันจิ้มเค้กให้ทั่วแล้วตัก Glazeราดลงไปพักให้ 5- 10 นาทีแล้วทำซ้ำ พักจนเค้กเย็นแล้วค่อยแกะออกจากพิมพ์

⚫️⚪️⚫️

Fudge Cocoa Brownie

บราวนีแบบง่ายๆแต่เต็มแน่นด้วยรสชาติของโกโก้

ส่วนผสม

  • แป้งเค้ก ½ ถ้วย
  • ผงโกโก้ ½ ถ้วย
  • เกลือ ¼ ช้อนชา
  • เนยละลาย 2/3 ถ้วย
  • น้ำมันพืช 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาลทราย 1 1/8 ถ้วย
  • ไข่ไก่ 2 ฟอง
  • กลิ่นวนิลลา 2 ช้อนชา 

ขั้นตอนการทำ

  1. เปิดเตาอบเตรียมไว้ที่ 170 องศาเซลเซียส  นำแป้เค้ก ผงโกโก้ และ เกลือ ร่อนเข้าด้วยกัน
  2. ผสมเนยละลาย น้ำมันพืชและน้ำตาลทรายใช้หัวตีตะกร้อความเร็วปานกลางเดินเครื่องไปจนน้ำตาลเริ่มละลาย ใส่ไข่ไก่ และ กลิ่นวนิลลาลงไปเดินเครื่องต่อไปจนส่วนผสมเนียมและมีสีอ่อนลง (ประมาณ 3-4 นาที) ปิดเครื่อง
  3. ใส่ส่วนผสมแป้งลงไปคนเบาๆให้เข้ากันเทใส่พิมพ์ที่เตรียมไว้แล้วนำไปอบประมาณ 20 -25 นาที หรือไม้จิ้มฟันที่จิ้มลงไปไม่มีเนื้อเค้กเหลวๆติดเอาออกมามาวางพักไว้ให้เย็น

เคล็ดลับความอร่อย
สามารถเพิ่มถั่ว ผลไม้แห้ง และ ช็อกโกแลตชิปลงไปผสมหรือ โรยหน้าตัวขนมได้

⚫️⚪️⚫️

Orange Chocolate Ball Cake

การจับคู่ของสองสหาย ส้มและช็อกโกแลตที่ไม่เคยทำให้ผิดหวัง

ส่วนผสม

  • แป้งเค้ก 1 ½ ถ้วย
  • น้ำตาลทราย 1 1/3 ถ้วย
  • เบ็กกิ้งโซดา ½ ช้อนชา
  • ผงฟู 1 ช้อนชา
  • เกลือ ½ ช้อนชา
  • ผงโกโก้ 2/3 ถ้วย
  • นมสด 2/3 ถ้วย
  • ไข่ไก่ 2 ฟอง
  • น้ำมันพืช 1/3 ถ้วย
  • น้ำร้อน 1/3 ถ้วย
  • ส้มอบแห้งสับละเอียด ½ ถ้วย

ขั้นตอนการทำ

  • เปิดเตาอบเตรียมไว้ที่ 170 องศาเซลเซียส ร่อนแป้งอเนกประสงค์ เบ็กกิ้งโซดา  ผงฟู        ผงโกโก้และ เกลือ เข้าด้วย แล้วนำไปผสมกับน้ำตาลทรายและส้มอบแห้งคนให้เข้ากัน
  • ผสมไข่ไก่ นมสด น้ำมันพืช ในชามผสมแล้วใช้ตะกร้อมือคนให้เข้ากันแล้วค่อยๆเทลงไปผสมแป้งคนเบาๆให้เข้ากัน เทน้ำร้อนลงไปคนให้เข้ากัน
  • ตักใส่พิมพ์ทรงลูกบอลที่เตรียมไว้ประมาณ 1/2 พิมพ์ นำไปอบประมาณ 15-20 นาทีหรือจนสุก เอาออกมาวางพักไว้ให้เย็น

เคล็ดลับความอร่อย
ตกแต่งเพิ่มได้แกะขนมเค้กออกจากพิมพ์ตอนที่ยังร้อนแล้วนำไปคลุกกับน้ำตาลทรายละเอียดหรือ พักไว้ให้เย็นแล้วค่อยโรยด้วยช็อกโกแลต

⚫️⚪️⚫️

Chocolate Pie

พายรสเข้มข้นจากดาร์กช็อกโกแลต

ส่วนผสม

  • เนยเค็ม (1) 150 กรัม
  • แป้งอเนกประสงค์ 2 ถ้วย
  • เกลือ 1 ช้อนชา
  • ไข่แดง 1 ฟอง
  • น้ำเย็น 5 ช้อนโต๊ะ
  • ดาร์กช็อกโกแลต 60 กรัม
  • เนยเค็ม (2) 110 กรัม
  • ไข่ไก่ 4 ฟอง
  • น้ำตาลทราย 1 ½ ถ้วย
  • กลินวนิลา 1 ช้อนชา
  • น้ำเชื่อมข้าวโพด 3 ช้อนโต๊ะ

ขั้นตอนการทำ

  1. ทำเปลือกพายโดยนำเนยเค็ม(1) แช่เย็นมาหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ ผสมกับแป้งอเนกประสงค์ ไข่แดงใส่ลงในเครื่องปั่นสับเดินเครื่องไปจนส่วนผสมเนียน เทใส่ชามผสมนวดให้เข้ากันโดยค่อยๆใส่น้ำเย็นลงไปที่ละช้อน จนแป้งจับตัวเป็นก้อนหุ้มด้วยพลาสติกแช่เย็น 20 -30 นาที
  2. นำแป้งพายมาคลึงให้บางไม่เกิน 0.5 เซ็นติเมตรกรุในพิมพ์นำไปแช่เย็นไว้  เปิดเตาอบเตรียมไว้ที่ 180 องศาเซลเซียส
  3. ละลายช็อกโกแลตกับเนยเค็ม(2) พักให้เย็น  ผสมน้ำตาลทราย ไข่ไก่ กลิ่นวนิลา น้ำเชื่อมข้าวโพดในชามผสมคนให้เข้ากัน  และเทส่วนผสมช็อกโกแลตลงไปคนให้เป็นเนื้อเดียวกัน
  4. เทส่วนผสมช็อกโกแลตลงในเปลือกพายแล้วนำไปอบประมาณ 40 -50 นาที หรือจนไส้พายตรงกลางไม่ขยับเมื่อลองเขย่าดู

เคล็ดลับความอร่อย
สามารถใส่ถั่ว หรือ ผลไม้แห้งลงไปผสมในใส่พายได้ตามชอบ

⚫️⚪️⚫️

Rose Cookie

คุกกี้เนยเนื้อกรอบกำลังดีรสหวานอ่อนๆเจือกลิ่นหอมของกุหลาบ

ส่วนผสม

  • แป้งอเนกประสงค์ 2 1/3 ถ้วย
  • เนยเค็ม 227 กรัม
  • น้ำตาลทราย 2/3 ถ้วย
  • น้ำกุหลาบ 1 ช้อนชา
  • ผงกลีบกุหลาบแห้ง 3 ช้อนโต๊ะ
  • สีผสมอาหารสีชมพู

ขั้นตอนการทำ

  1. ผสมแป้งอเนกประสงค์ กับผงกุหลาบเข้าด้วยกัน
  2. ตีเนยเค็มกับน้ำตาลทรายจนขึ้นฟู ใส่น้ำกุหลาบลงไปตามส่วนผสมแป้งคนให้เข้ากัน
  3. ตักส่วนผสมคุกกี้ลงบนพลาสติกแล็ปห่อให้แน่นแล้วนำไปแช่เย็นอย่างต่ำ 2 ชั่วโมง
  4. เปิดเตาอบเตรียมไว้ที่ 160 องศาเซลเซียส  นำแป้งคุกกี้ออกมาคลึ่งให้บาง ตัดเป็นทรงตามชอบเรียงบนถาดอบ
  5. นำไปอบประมาณ 15 – 20 นาทีจนขอบเริ่มเป็นสีน้ำตาลอ่อนๆ นำออกวางผึ้งไว้ให้เย็น

เคล็ดลับความอร่อย
สามารถใช้กลีบกุหลาบสดแบบปลอดสารแทนได้ โดยสับเป็นชิ้นเล็กๆ หรือ นำไปปั่นกับน้ำตาลทรายแทน

⚫️⚪️⚫️

Pistachio & Rose Meringue

เมอแรงก์กลิ่นกุหลาบเพิ่มรสสัมผัสด้วยถั่วพิตาชิโอ

ส่วนผสม

  • ไข่ขาว 4 ฟอง
  • น้ำตาลทราย ½ ถ้วย
  • น้ำตาลไอซิ่ง 1 ถ้วย
  • น้ำกุหลาบ 1 ช้อนชา
  • ถั่วพิตาชิโอหยับหยาบ 1/3 ถ้วย
  • ผงกลีบกุหลาบแห้ง 3 ช้อนโต๊ะ

ขั้นตอนการทำ

  1. เปิดเตาอบไว้ที่อุณหภูมิ  110 องศาเซลเซียส ปูถาดอบด้วยกระดาษไขทาด้วยเนยขาว
  2.  เทไข่ขาวลงในชามผสม ใช้หัวตีตะกร้อตีด้วยความเร็วสูงจนไข่ขาวเริ่มเป็นฟองค่อยๆตักน้ำตาลทรายใส่ลงไปที่ละช้อนจนหมด ตามด้วยน้ำตาลไอซิ่งใส่ที่ละช้อนหมด
  3. ใส่น้ำกุหลาบลงไป เดินเครื่องไปเรื่อยๆจนไข่ขาวตั้งหยอดแข็งและมีความมันวาวในเนื้อ
  4. แบ่งถั่วพิตาชิโอ และ ผงกุหลาบไว้ 1/3 สำหรับตกแต่งแล้วเทที่เรื่องลงไปผสมกับเมอแรงก์ตะล่อมเบาๆให้เข้ากัน
  5. ใช้ช้อนตัดเมอแรงก์หยอดลงไปบนถาดอบประมาณ 1 – 1 ½ ช้อนโต๊ะ ต่อชิ้นโรยด้วยถั่วพิตาชิโอและผงกุหลาบ  นำไปอบประมาณ  1 – 1. 30 ชั่วโมง หรือ จนสุก นำออกมาผึ่งไว้ให้เย็นแล้วเก็บลงกล่องสูญญากาศ

เคล็ดลับความอร่อย
สามารถใส่สีผสมอาหารลงไปผสมพร้อมน้ำกุหลาบได้ถ้าต้องการ

⚫️⚪️⚫️

Semolina cake with Rose syrup

เค้กซาโมรินาที่เพิ่มรสหวานและกลิ่นหอมๆด้วยน้ำเชื่อมกุหลาบ

ส่วนผสม

  • แป้งซาโมรินา 1 ถ้วย
  • ผงกลีบกุหลาบแห้งบด 2 ช้อนโต๊ะ
  • ไข่ไก่ 2 ฟอง
  • โยเกิร์ต ½ ถ้วย
  • น้ำตาลทราย 1/3 ถ้วย
  • นมสด 2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำเชื่อมกุหลาบ 2 ช้อนโต๊ะ
  • เนยละลาย 1/3 ถ้วย

น้ำเชื่อมสำหรับราดเค้ก

  • น้ำอุ่น ¼ ถ้วย
  • น้ำผึ้ง ¼ ถ้วย
  • น้ำเชื่อมกุหลาบ 1/3 ถ้วย
  • น้ำเลมอน 1 ช้อนชา
  • น้ำกุหลาบ 1 ช้อนชา

ขั้นตอนการทำ

  1. เปิดเตาอบเตรียมไว้ที่อุณหภูมิ 170 องศาเซลเซียส
  2. ตีไข่ไก่ กับ น้ำตาลทรายและเนยละลายด้วยหัวตีตะกร้อจนน้ำตาลทรายละลายใส่แป้งซาโมรินา ผงกลีบกุหลาบ โยเกริ์ต นมสด และ น้ำเชื่อกุหลาบลงไป คนให้เข้ากัน เทใส่พิมพ์ที่เตรียมไว้ นำไปอบประมาณ 45 นาที หรือจนสุก
  3. ทำน้ำเชื่อมสำหรับราดเค้กโดยเทส่วนผสมทุกตัวลงในหม้อขนาดเล็กตั้งไฟอ่อนคนไปจนส่วนผสมเนียนเป็นเนื้อเดียวกัน
  4. นำเค้กที่สุกแล้วออกจากเตาอบ เทน้ำเชื่อมกุหลาบที่เตรียมไว้ลงไปบนเค้กที่ยังร้อนอยู่โดยพยายามเทให้ทั่วชิ้นเค้กลงพักไว้จนเค้กเย็น

เคล็ดลับดีๆไม่มีเม้ม
ทำน้ำเชื่อมกุหลาบโดยใส่ดอกกุหลาบแห้ง 6-8 ดอกในน้ำร้อน 1 ถ้วยปิดฝาทิ้งไว้ 10 – 15 นาที ใส่น้ำตาลทราย 1 ถ้วยลงไปนำไปตั้งไฟอ่อนคนไปเรื่อยๆจนน้ำตาลละลายและเหนียวเล็กน้อยยกลงกรองเอากุหลาบออกใส่น้ำกุหลาบลงไป 1 ช้อนชาคนให้เข้ากัน

⚫️⚪️⚫️

Rose Jam Cake

เค้กแยมที่เพิ่มลูกเล่นลงไปเล็กน้อยให้น่าทานและหอมยิ่งขึ้น

ส่วนผสม

  • แป้งเค้ก 250 กรัม
  • ผงฟู 1 ช้อนชา
  • น้ำตาลทราย 300 กรัม
  • เกลือ 1/8 ช้อนชา
  • น้ำมันดอกทานตะวัน 120 มิลลิลิตร
  • ไข่ไก่ 4 ฟอง
  • นมสด 200 มิลลิลิตร
  • น้ำกุหลาบ 2 ช้อนชา
  • ผงกลีบกุหลาบ 2 ช้อนโต๊ะ
  • แยมกุหลาบ 3 ถ้วย
  • น้ำตาลไอซิ่ง 100 กรัม
  • ครีมชีส 175 กรัม
  • มาสคาร์โปเนชีส 250 กรัม
  • วิปปิงครีม 250 กรัม
  • น้ำกุหลาบ 1 ช้อนชา
  • น้ำเชื่อมกุหลาบ ¼ ถ้วย

ขั้นตอนการทำ

  1. เปิดเตาอบเตรียมไว้ที่อุณหภูมิ 170 องศาเซลเซียส  แยกไข่แดง และ ไข่ขาวออกจากกัน
  2. ในชามผสมใส่น้ำมันดอกทานตะวัน ไข่แดง น้ำตาลทราย นมสด น้ำกุหลาบ ผงกลีบกุหลาบลงไปคนให้เข้ากัน แล้วร่อนแป้งเค้ก ผงฟู และ เกลือ ใส่ลงไป คนให้เข้ากันพักไว้
  3. ตีไข่ขาวด้วยหัวตะกร้อด้วยความเร็วสูงจนตั้งยอด นำไปผสมกับส่วนผสมแป้งเค้กโดยค่อยๆตะล่อนด้วยพายยางจนส่วนผสมเข้ากัน เทใส่พิมพ์แล้วนำไปอบประมาณ 45 นาที – 1 ชั่วโมงหรือ จนสุก นำออกมาวางพักไว้ให้เย็น
  4. ตีวิปปิงครีมจนตั้งยอดแข็งเตรียมไว้ ผสมน้ำตาลไอซิ่ง ครีมชีส  มาสคาร์โปเนชีส น้ำกุหลาบให้เข้าเป็นเนื้อเดียวกัน แล้วนำไปผสมกับวิปครีมที่ตีไว้คนให้เข้ากัน
  5. นำเค้กทีเย็นแล้วมาตัดแบ่งแค้กออกเป็น 3 ชิ้นทาน้ำเชื่อมกุหลาบที่เค้กชิ้นแรกให้ทั่วชิ้น ปาดส่วนผสมครีมให้ทั่วตามด้วยแยมกุหลาบ วางเค้กชิ้นที่ 2 ลงไปปาดด้วยครีมและแยมวางเค้กชิ้นสุกท้ายลงไป ทาด้วยน้ำเชื่อมกุหลาบด้านบนตกแต่งตามชอบ

เคล็ดลับความอร่อย
ถ้าหาแยมกุหลาบไม่ได้สามารถใช้แยมชนิดอื่นได้ตามชอบ

⚫️⚪️⚫️

Vanilla mousse with Raspberry insert

มูสวานิลลาสอดไส้ราสป์เบอร์รี

ส่วนผสม

  • นมสด 100 มิลลิลิตร
  • น้ำตาลทราย(1) 30 กรัม
  • ฝักวานิลลา 1 ฝัก
  • ไข่แดง 20 กรัม
  • ผงเจลาติน 4 กรัม
  • วิปปิงครีม 140 มิลลิลิตร
  • ราสป์เบอร์รีแช่แข็ง 80 กรัม
  • น้ำเปล่า 20 มิลลิลิตร
  • น้ำตาลทราย(2) 30 กรัม
  • น้ำมะนาว 5 มิลลิลิตร
  • กลูโคส 15 กรัม                                                     
  • เมอแรงก์สำหรับตกแต่ง
  • Chocolate Coating สีชมพู

ขั้นตอนการทำ

  1. ทำซอสราสป์เบอร์รี่ โดยเทราสป์เบอร์รีแช่แข็ง น้ำ น้ำตาลทราย(2) น้ำมะนาว และ กลูโคสใส่หม้อต้มไปจนน้ำตาลละลายนำไปปั่นและกรอง เทใส่พิมพ์ขนาดเล็กกว่าพิม์ของมูสนำไปแช่แข็งจนเซ็ตตัว
  2.  เอาเจลาตินไปแช่น้ำเตรียมไว้ ตีไข่แดงกับน้ำตาลทราย(1)ให้เข้ากันขูดเอาเม็ดจากฝักวานิลลาใส่ลงไป ต้มนมสดให้ร้อนเทลงไปผสมกับส่วนผสมไข่แดงคนให้เข้ากันเทกลับลงหม้อต้มไฟอ่อนคนไปเรื่อยๆจนส่วนผสมข้นยกลงใส่เจลาตินลงไปคนให้เข้ากันพักไว้
  3. ตีวิปปิงครีมจนขึ้น แบ่งออกมา 1/3 ส่วนใส่ลงในส่วนผสมมูสเพื่อลดความร้อนคนให้เข้ากันแล้วใส่วิปครีมที่เหลือลงไป หยดใส่พิมพ์ โดยใส่ซอสราสป์เบอร์รีแช่แข็งลงไปตรงกลางนำไปแช่เย็นจนเซ็ตตัว
  4. มูสมาประกอบกันแล้วเคลือบด้วย Chocolate coating แต่งด้วยเมอแรงก์

เคล็ดลับความอร่อย
ทำเมอแรงก์เองได้ง่ายๆด้วยการนำไข่ขาว 75 กรัมตีกับน้ำตาลทราย 45 กรัม ใส่สีผสมอาหารตามชอบตีจนตั้งยอดนำไปยอดเป็นรูปร่างตามต้องการอบที่อุณหภูมิ 95 -100  องศาเซลเซียส 2 ชั่วโมง

⚫️⚪️⚫️

Strawberry and yogurt mousse with Strawberry gel

มูสโยเกิร์ตที่มีมูสและเจลสตรอว์เบอร์รีมาช่วยเสริม

ส่วนผสม

  • กรีกโยเกิร์ต 150 กรัม
  • ผงโยเกิร์ต 5 กรัม
  • วิปปิงครีม(1) 250 กรัม
  • เจลาตินแผ่น(1) 6 กรัม
  • ไข่แดง 38 กรัม
  • น้ำตาลทราย(1) 38 กรัม
  • นมสด 50 มิลลิลิตร
  • สตรอว์เบอร์รีแช่แข็ง 100 กรัม
  • น้ำตาลทราย(2) 70 กรัม
  • วิปปิงครีม(2) 64 กรัม
  • เจลาตินแผ่น(2) 4 กรัม
  • น้ำเลมอน 10 กรัม
  • สตรอว์เบอร์รีบด 100 กรัม
  • น้ำปล่า 50 กรัม
  • น้ำตาลทราย(3) 50 กรัม
  • ผงวุ้น 1 กรัม

ขั้นตอนการท

  1. นำมูสโยเกิร์ตโดยนำเจลาตินแผ่นไปแช่น้ำไว้  ต้มนมให้ร้อนระหว่างนั้นตีไข่แดงกับน้ำตาลเข้าด้วยกัน เทนมร้อนลงผสมคนให้เข้ากันแล้วเทใส่หม้อตั้งไฟอ่อนไปจนส่วนผสมข้นใส่เจลาติน กรีกโยเกิร์ต และ โยเกิร์ตผงลงไปพักไว้ให้เย็น ตีวิปปิงครีมจนขึ้นแล้วผสมเข้าด้วยกันเทใส่พิมพ์นำไปแช่เย็น
  2. ทำสตรอว์เบอร์รีเจลโดยต้มสตรอว์เบอร์รีบด น้ำเปล่า น้ำตาลทราย(3) และผงวุ้นจนเดือดเทใส่ถาดนำไปแช่เย็นจนได้ทีแล้วนำมาปั่นจนมีลักษณะแหมือนเจล
  3. ทำมูสสตรอว์เบอร์รี โดยนำเจลาตินไปแช่น้ำ แบ่งน้ำตาลทราย(1)ต้มกับสตรอว์เบอร์รีแช่แข็งกับน้ำมะนาวใส่น้ำเล็กน้อยต้มไปจนนิ่มแล้วนำยีผ่านตะแกรงใส่เจลาตินลงไปตั้งไฟอ่อนคนให้ละลายยกลงมาพักไว้ ตีวิปปิงครีมจนขึ้นนำไปผสมกับส่วนผสมสตรอว์เบอร์รี
  4. มูสโยเกิร์ตออกจากพิมพ์เสิร์ฟคู่กับมูสสตรอว์เบอร์รี และ สตรอว์เบอร์รีเจล

เคล็ดลับดีๆไม่มีเม้ม
สามารถเคลือบมูสโยเกิร์ต์ด้วย Glaze  สูตรเดียวกับ Lemon cheesecake mousse แต่ใช้สีผสมอาหารสีชมพูแทน

⚫️⚪️⚫️


You Might Also Like...