Lifestyle & Cooking News & Event

กะเทาะเปลือกเบื้องหลังไข่ไก่ “Cage free” การเดินทางจากเล้าไก่สู่จานอาหาร


หากพูดถึงวัตถุดิบในการทำอาหารไม่ว่าจะอาหารคาวหรือของหวาน เชื่อว่าทุกคนต้องนึกถึง “ไข่ไก่” เป็นอันดับต้น ๆ อย่างแน่นอน เพราะ ไข่ไก่ ถือเป็นหนึ่งในวัตถุดิบยอดนิยมที่ถูกนำมาใช้ปรุงเป็นอาหารได้หลากหลายเมนูตั้งแต่เมนูง่าย ๆ ไปจนถึงเมนูระดับไฟน์ไดนิ่งของผู้คนแทบทุกเชื้อชาติ รวมถึงร้านอาหารทั่วโลก แสดงให้เห็นว่าไข่ไก่นั้นมีความสำคัญในห่วงโซ่อาหารของมนุษยชาติเป็นอย่างมาก ยิ่งปัจจุบันที่ผู้บริโภค เริ่มหันมาใส่ใจและให้ความสำคัญกับประเด็นเรื่องความยั่งยืนมากขึ้น ทำให้อุตสาหกรรมผลิตอาหาร หรือภาคธุรกิจที่มีความเกี่ยวข้องกับอาหาร ต้องหันมาตอบสนองความต้องการเพื่อรองรับกลุ่มลูกค้าเหล่านี้เพิ่มขึ้นด้วย

เช่นเดียวกับ “เดอะ คอฟฟี่ คลับ” (The Coffee Club) ร้านออลเดย์ไดนิ่งสัญชาติออสเตรเลีย ซึ่งเป็นอีกหนึ่งร้านอาหารที่ตระหนักถึงประเด็นความยั่งยืนดังกล่าวเป็นอย่างดี จึงให้ความสำคัญกับการสร้างความยั่งยืนของการดำเนินธุรกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการคัดเลือกวัตดุดิบหลักอย่าง “ไข่ไก่” ที่เป็นหัวใจสำคัญของเมนูอาหารเช้าซิกเนเจอร์ประจำร้าน ด้วยการใช้ไข่ไก่จากแหล่งผลิตที่ไม่ใช้กรงขัง (Cage Free Eggs) ที่เป็นอีกหนึ่งไข่ไก่ที่มาตอบสนองตามหลัก Animal Welfare ในด้านสวัสดิภาพของสัตว์แล้ว ยังตอบโจทย์สังคมด้วยการสร้างความสุข รอยยิ้มให้แต่ละวันในการรับประทานอาหารมีความสุขจากวัตถุดิบคุณภาพ ที่พร้อมมอบสุขภาพที่ดีแก่ลูกค้าทุกคน

Happy Chicken: จุดเริ่มต้นของความอร่อยจากแม่ไก่อารมณ์ดี

ด้วยความที่ไก่เป็นสัตว์ที่ฉลาดและขี้สงสัย การเลี้ยงไก่ให้มีสุขภาพกายและใจที่ดีต้องทำให้ไก่สามารถใช้ชีวิตได้ใกล้เคียงกับธรรมชาติมากที่สุด โดยการเลี้ยงแม่ไก่แบบ Cage Free หรือการเลี้ยงแม่ไก่แบบปล่อยอิสระโดยไม่มีการกักขังในกรงในโรงเรือนระบบปิดที่มีการรักษามาตรฐานคุณภาพความสะอาดอย่างเข้มงวดเพื่อให้ได้สภาพแวดล้อมปราศจากเชื้อโรค พร้อมด้วยการเสริมสภาพแวดล้อมทางกายภาพ เช่น คอนเกาะ หรือพื้นทรายสำหรับไซร้ขน ทำให้แม่ไก่มีอิสระในการเคลื่อนไหวและสามารถแสดงพฤติกรรมได้ตามธรรมชาติ ซึ่งจะส่งผลให้แม่ไก่ที่เลี้ยงแบบไม่ใช้กรงขังมีอารมณ์ที่สดใส และสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง

Happy Eggs: ผลผลิตของความใส่ใจ สู่วัตถุดิบสุดพิเศษ

เมื่อแม่ไก่มีความสุข และมีสุขภาพแข็งแรง ก็จะออกไข่มาโดยธรรมชาติ ซึ่งไข่ไก่จากแหล่งผลิตที่ไม่ใช้กรงขังนั้นนอกจากจะสะอาดแล้ว ยังมีสารอาหารสูงกว่าไข่ไก่ทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นเบต้าแคโรทีน วิตามินอี และโอเมก้า 3 เมื่อนำไปประกอบอาหารจะเห็นว่า ไข่แดงมีสีสด และมีกลิ่นคาวน้อยกว่าปกติ เป็นเมนูไข่ที่ให้ทั้งความสุขและดีต่อสุขภาพ อีกทั้งไข่ทั้งหมดได้รับการตรวจสอบคุณภาพให้ได้ตามมาตรฐานที่กำหนด และส่งตรงเข้าสู่ครัวร้านอาหาร ซึ่งไข่ทุกฟองสามารถตรวจสอบแหล่งที่มา กรรมวิธีในการผลิต รวมไปถึงวันเดือนปีที่ผลิตของไข่ไก่แต่ละล็อตได้อีกด้วย ถือเป็นอีกหนึ่งความพิเศษและเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ร้านอาหารสามารถสร้างความมั่นใจถึงมาตรฐานวัตถุดิบระดับพรีเมียมของทางร้านให้แก่ลูกค้าไปอีกขั้น

Happy Breakfast Happy Life: ความยั่งยืนที่ใส่ใจตั้งแต่ต้นทางวัตถุดิบจนถึงปลายทางคือเมนูอาหารเช้าจากไข่ไก่ไม่ใช้กรงขังเพื่อรอยยิ้มของลูกค้าทุกคน

และในที่สุดไข่ไก่จากแหล่งผลิตที่ไม่ใช้กรงขัง (Cage Free Eggs) ก็ได้เดินทางมาสู่ร้านอาหารที่เลือกใช้ไข่ไก่ทางเลือกนี้ โดยไข่ไก่จากแม่ไก่อารมณ์ดีเหล่านี้ที่ได้ถูกนำมาส่ง ณ ร้าน เดอะ คอฟฟี่ คลับ แต่ละฟองก็จะถูกนำไปปรุงเป็นอาหารเช้า เมนูไข่หลากหลายที่สร้างร้อยยิ้ม ให้ความอร่อยและหอมมัน ช่วยชูความอร่อยให้มื้อสุดพิเศษต้อนรับวันใหม่แบบสดใหม่ในทุก ๆ วัน ไม่ว่าจะเป็นเมนูยอดฮิตตลอดกาลอย่าง “The Big Breakfast” หรือเมนู “Overload Croissant” ตลอดจนเมนู “Egg Benedict” และอีกหลากหลายเมนูอาหารจากไข่ไก่ที่ทั้งอร่อย และดีต่อสุขภาพจากวัตถุดิบที่คัดสรรมาเป็นอย่างดี  นอกจากความอร่อยแล้ว ผู้บริโภคยังจะได้ความสุขใจจากการได้เป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนธุรกิจอาหารที่ดำเนินธุรกิจโดยใส่ใจสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน และเป็นหนึ่งในผู้ร่วมผลักดันการสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีกว่าให้แม่พันธุ์ไก่ไข่ เพื่อให้เราได้กินไข่ที่มีคุณภาพ จากแม่ไก่ที่มีความสุข เรียกได้ว่า สุขใจทั้งผู้ให้ อิ่มใจทั้งผู้ที่ได้รับประทานกันเลยทีเดียว

นางนงชนก สถานานนท์ ผู้จัดการทั่วไป เดอะ คอฟฟี่ คลับ ภายใต้การดำเนินงานของบริษัท เดอะ ไมเนอร์ ฟู้ด กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ได้เปิดเผยว่า “ในแต่ละปี ร้านเดอะ คอฟฟี่ คลับ มีการใช้ไข่ไก่มากถึงกว่า 1.7 ล้านฟอง ทางร้านเล็งเห็นว่าเราสามารถเป็นผู้บุกเบิกในการสร้างมาตรฐานใหม่ที่ยั่งยืนให้แก่อุตสาหกรรมร้านอาหาร ทำให้ เดอะ คอฟฟี่ คลับ มีการเลือกใช้ไข่ไก่จากแหล่งผลิตที่ไม่ใช้กรงขังเพื่อให้ลูกค้าของเราได้รับประทานเมนูอาหารเช้าโดยมีไข่เป็นส่วนประกอบหลักที่มีคุณภาพสูงและใส่ใจต่อสุขภาพลูกค้าและแม่ไก่ โดยเริ่มต้นให้บริการในสาขากรุงเทพและพัทยารวม 21 สาขา พร้อมตั้งเป้าให้ร้านเดอะ คอฟฟี่ คลับ ทั่วประเทศ เปลี่ยนมาใช้ไข่ไก่จากแหล่งผลิตที่ไม่ใช้กรงขังทั้งหมด อันสอดคล้องกับแนวทางการดำเนินธุรกิจของเครือไมเนอร์ ฟู้ด ที่ได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนาอย่างยั่งยืน และมุ่งมั่นเป็นองค์กรที่รับผิดชอบต่อสังคม”

นางชมพรรณ กุลนิเทศ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายพัฒนาเพื่อความยั่งยืน บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ไมเนอร์ เชื่อมั่นว่า การพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพระยะยาวขององค์กรควบคู่ไปกับของผู้มีส่วนได้เสียอย่างต่อเนื่อง เป็นส่วนสำคัญที่จะสร้างให้องค์กรสามารถเติบโตได้อย่างเข้มแข็งและยั่งยืน ดังนั้น ไมเนอร์ ฟู้ด จึงมุ่งเน้นในการยกระดับการบริหารจัดการซัพพลายเชนเพื่อจัดซื้อสินค้าและบริการอย่างยั่งยืน ผ่านการนำเสนอสินค้าและบริการที่ได้คุณภาพและคำนึงถึงความปลอดภัยของลูกค้าและมีทางเลือกเพื่อสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีของลูกค้า พร้อมกับการมีส่วนร่วมกับลูกค้าผ่านช่องทางที่หลากหลาย โดย “ไข่” คือส่วนประกอบหลักในหลากหลายเมนูภายใต้แบรนด์ร้านอาหารของไมเนอร์ ฟู้ด เพื่อเป็นการส่งมอบวัตถุดิบที่มีคุณภาพและมีความปลอดภัย เราจึงเดินหน้าในการจัดหาผลิตภัณฑ์ไข่ไก่ทั้งหมดจากแหล่งผลิตที่ไม่ใช้กรงขัง (Cage free Eggs) สำหรับทุกแบรนด์ร้านอาหารในเครือภายในปี 2570 โดยมีเดอะ คอฟฟี่ คลับ ทั้งในประเทศไทยและออสเตรเลีย เป็นผู้นำของความมริเริ่มนี้ ซึ่งการหันมาใช้ไข่ไก่ดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของพันธกิจที่จะช่วยสามารถสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสวัสดิภาพของสัตว์และส่งเสริมการสร้างห่วงโซ่คุณค่าอย่างยั่งยืนทั้งในระดับท้องถิ่นและระดับโลกต่อไป”

ทั้งหมดนี้คือผลผลิตจากแม่ไก่อารมณ์ดี สู่เมนูไข่สร้างยิ้ม ที่พร้อมต้อนรับลูกค้าทุกคนให้แฮปปี้ไปกับมื้ออาหารสุดพิเศษโมเมนต์ดี ๆ ที่มีได้ทุกวันทุกโอกาสที่ เดอะ คอฟฟี่ คลับ


You Might Also Like...