ในวันที่อากาศเย็นสบาย เราออกเดินทางไปยัง Dream Cottage Boutique Resort Khaoyai บ้านหลังสีขาวโดดเด่นที่มีดีไซน์แบบอังกฤษ ร่มรื่นไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่สีเขียวชอุ่มสลับกับสีสันสดใสของดอกไม้นานาชนิด ลมเย็นๆ พัดใบไม้พลิ้วไหวไปมาเหมือนเป็นการกล่าวทักทายผู้มาเยือน หลังจากมาถึงและเดินเล่นลัดเลาะชมสวนรอบบ้านได้สักพัก ก็ได้เวลาที่เราจะพาทุกคนไปชมครัววินเทจแสนอบอุ่นภายในบ้านกันแล้ว
ที่นี่เป็นทั้งบ้านและรีสอร์ตของครอบครัวคุณพิษณุ หิรัญเรืองรอง “Dream Cottage ในตอนแรกเราสร้างไว้เพื่อต้อนรับเพื่อนๆ เวลามาเที่ยวพักผ่อน คุณพ่อก็ไม่ได้ตั้งใจว่าจะทำเป็นรีสอร์ตแบบเต็มตัว บรรยากาศโดยรอบเลยให้ความรู้สึกเหมือนเป็นบ้านมากกว่า โดยคุณพ่อกับคุณแม่เป็นคนช่วยกันออกแบบเองทั้งหมดว่าอยากได้บ้านแบบไหน สไตล์อะไร ด้วยความที่ทั้งสองท่านชอบเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศ เวลาไปเห็นสถานที่ต่างๆ ก็จะนำแบบมาปรับใช้กับบ้านเรา”
ตัวบ้านออกแบบสไตล์อิงลิช คอตเทจ เลือกใช้โทนสีขาวเป็นหลัก ให้ความรู้สึกเรียบง่ายสบายๆ แต่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวไม่ว่าจะเป็นหลังคาทรงจั่ว ดีไซน์ของประตูและหน้าต่างกระจกบานลูกฟัก ตลอดจนของตกแต่งต่างๆ ที่สะท้อนให้เห็นถึงความใส่ใจและสไตล์ที่เจ้าของบ้านชื่นชอบได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังร่มรื่นไปด้วยต้นไม้ใหญ่ มีสวนและบ่อน้ำเล็กๆ หน้าบ้านที่ถูกจัดไว้อย่างสวยงาม
แม้ว่าที่นี่จะมีส่วนของบ้านและรีสอร์ตอยู่ด้วยกัน แต่การจัดสรรพื้นที่ไว้อย่างเป็นสัดส่วนช่วยให้ทุกอย่างดูลงตัว เงียบสงบ และไม่วุ่นวาย “เราให้ความสำคัญกับความเป็นส่วนตัว เพราะอยากให้ทุกคนรู้สึกเหมือนได้มาพักผ่อนจริงๆ อย่างที่บอกว่าตอนแรกเราตั้งใจสร้างไว้รองรับเพื่อนๆ บรรยากาศจึงอบอุ่นเป็นกันเอง มีบ้านของเรา 1 หลัง กับส่วนของห้องพักประมาณ 18 ห้อง ในส่วนของด้านหลังจะมีแปลงผักออร์แกนิกที่เราปลูกไว้ทานเอง และใช้ทำอาหารให้กับแขกที่มาพักด้วย” คุณพิษณุเล่าให้เราฟังเพิ่มเติม
กำหนดพื้นที่ส่วนเตรียม ส่วนปรุง และส่วนล้างให้ใช้งานได้ต่อเนื่องกัน
เพิ่มลูกเล่นให้ชุดครัวดูสวยมีมิติด้วยการเพนต์ลวดลายหน้าบาน
ออกแบบเพิ่มพื้นที่จัดเก็บใต้เคาน์เตอร์ให้มีลิ้นชักและช่องสำหรับใส่ของ
เมื่อเดินเข้ามาจะเจอกับห้องโถงขนาดใหญ่ที่ออกแบบให้ต่อเนื่องกันกับส่วนอื่นๆ ของบ้าน มีโซฟาเข้าชุดที่ถูกจัดแจงไว้เป็นเป็นมุมนั่งเล่น 2-3 มุม ด้านหนึ่งเป็นห้องครัวปิดที่เปิดหน้าต่างบานใหญ่เอาไว้ เสมือนเชื้อเชิญให้ผู้คนทักทายและมองเห็นกันได้ตลอดเวลา ถัดไปอีกด้านหนึ่งเป็นมุมสำหรับให้แขกที่มาพักได้นั่งทานอาหารเช้า อีกทั้งยังมีบาร์กาแฟที่ถูกออกแบบไว้อย่างสวยงามและใข้งานได้คล่องตัว ในวันที่เราเดินทางไปเป็นช่วงที่ไม่ได้เปิดให้เข้าพัก พื้นที่ทั้งหมดจึงกลายเป็นลิฟวิงรูมขนาดใหญ่ของครอบครัว
บริเวณเหนืออ่างล้างจานดีไซน์ให้มีสำหรับวางจาน สามารถใช้งานได้อย่างต่อเนื่องกัน
ติดตั้งปลั๊กไฟบริเวณไอส์แลนด์เพื่อความสะดวกคล่องตัว
“คุณแม่จะเป็นคนตกแต่งบ้านเองทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นการเลือกเฟอร์นิเจอร์หรือของตกแต่งต่างๆ ส่วนใหญ่จะเป็นของสะสมที่คุณแม่ซื้อเก็บไว้จากต่างประเทศหรือบางชิ้นก็เป็นของที่มีอยู่แล้ว คุณแม่เป็นคนชอบเที่ยว ชอบถ่ายรูป เวลาเห็นอะไรที่ไหนสวยก็จะถ่ายเก็บไว้เป็นไอเดียแต่งบ้าน อย่างรายละเอียดของประตู หน้าต่างก็จะมีมุมโค้งให้ดูสวยงาม ผ้าม่านจะเลือกใช้เป็นผ้าลูกไม้มองแล้วสบายตา เพิ่มลูกเล่นให้ผนังด้วยการก่ออิฐแล้วทาสีขาวทับเพื่อให้ดูมีเท็กซ์เจอร์สวยงาม
ที่เราใช้สีขาวเป็นหลักเพราะเป็นโทนสีที่หาของแต่งบ้านมาแมตช์ได้ง่าย เฟอร์นิเจอร์แต่งบ้านจะมีความวินเทจ ดูคลาสสิก ซึ่งส่วนใหญ่คุณแม่จะเลือกใช้ของแบรนด์ Fantasia นอกจากจะเป็นแบรนด์ที่คุณแม่รู้จักมานาน อีกทั้งยังเป็นสไตล์ที่คุณแม่ชื่นชอบและดูกลมกลืนไปกับบ้าน เมื่อมีโอกาสได้แต่งบ้านของตัวเองคุณแม่จึงตัดสินใจได้ไม่ยาก”
นอกจากเฟอร์นิเจอร์แล้ว คุณแม่ยังเลือกดีไซน์ชุดครัววินเทจของแบรนด์ Fantasia เพื่อให้เข้ากันกับสไตล์การแต่งบ้าน “ห้องครัวเราออกแบบให้มีหน้าต่างบานเลื่อนขนาดใหญ่ ให้ความรู้สึกเหมือนเป็นครัวเปิด มองเห็นกันได้ และสามารถเปิด-ปิดได้เมื่อต้องการใช้งานได้ เวลามีแขกมาพักบริเวณด้านหน้าห้องครัวจะถูกจัดให้เป็นมุมขนมที่คุณแม่ทำไว้ให้ทานกันได้ตลอด 24 ชั่วโมง โดยส่วนตัวคุณแม่เป็นคนชอบทำขนมกับอาหารอยู่แล้ว มื้อเช้าคุณแม่ก็เป็นคนทำเองแต่จะทำครัวไทยที่แยกออกไปด้านหลัง”
ด้านข้างไอส์แลนด์ออกแบบให้มีช่องสำหรับใส่ของหรือวางของตกแต่งได้ด้วย
เลือกใช้ผ้าม่านลูกไม้แทนการใช้ผ้าม่านทึบช่วยให้ครัวดูโปร่ง ไม่อึดอัด และเข้ากับสไตล์การแต่งครัว
“ห้องครัวนี้จะใช้ทำขนมและเบเกอรี่อย่างเดียว ออกแบบให้มีไอส์แลนด์ขนาดใหญ่ไว้เตรียมของและวางอุปกรณ์ต่างๆ หน้าบานเลือกใช้เป็นโทนสีอ่อนๆ อย่างสีครีม เพนต์ลายดอกไม้ให้ดูสวยงาม ส่วนผนังในห้องครัวจะต่างไปจากส่วนอื่นของบ้านคือเป็นสีอิฐ ช่วยสร้างบรรยากาศให้ห้องครัวดูอบอุ่นและสวยงามมากขึ้น ถ้าเป็นสีขาวทั้งหมดอาจจะดูเรียบจนเกินไป”
ด้านหน้าไอส์แลนด์สามารถนั่งทานอาหารมื้อเบาๆ และเป็นมุมนั่งเล่นในครัวได้อีกด้วย
การใช้งานในครัวสามารถแบ่งออกเป็ 2 ส่วน คือฟังก์ชันใช้งานหลักที่กำหนดให้อยู่ในส่วนเคาน์เตอร์ด้านหลัง บิลต์อินและติดตั้งอุปกรณ์ต่างๆ เป็นพื้นที่ส่วนปรุงและส่วนล้าง ออกแบบให้มีช่องหน้าต่างเหนืออ่างล้างจานสำหรับเปิดระบายอากาศ มองออกไปเห็นวิวของสวนด้านนอก ไอส์แลนด์กลางห้องครัวสามารถใช้งานได้อย่างอเนกประสงค์ ดีไซน์ให้มีช่องและลิ้นชักสำหรับใส่ของเพื่อเพิ่มพื้นที่จัดเก็บ ด้านหน้าออกแบบให้สามารถนั่งเล่นหรือนั่งทานข้าวได้ในตัว ส่วนเคาน์เตอร์ด้านหน้าออกแบบให้เป็นช่องสำหรับใส่ของทั้งหมด ด้านบนสามารถวางของได้เต็มพื้นที่ ตอบโจทย์ในการทำขนมของคุณแม่เพื่อเตรียมไว้สำหรับแขกที่มาเข้าพักได้อย่างลงตัว
ออกแบบให้มีตู้แขวนสำหรับจัดเก็บอุปกรณ์ และบิลต์อินเครื่องใช้ไฟฟ้าให้ดูเรียบร้อยสวยงาม
นอกจากเรื่องของฟังก์ชันการใช้งานแล้ว รายละเอียดต่างๆ ของดีไซน์ยังมีความประณีตสวยงาม อย่างการเพ้นต์หน้าบานที่มีความต่อเนื่องกัน ออกแบบให้มีความหลากหลายทั้งส่วนของหน้าบานทึบและหน้าบานกระจกที่ผสมผสานกันทำให้ชุดครัวดูมีลูกเล่น อีกทั้งของตกแต่ง อุปกรณ์ครัวที่มีรูปทรงน่ารักและสีสันสดใส ยังช่วยสร้างความมีชีวิตชีวาให้ครัวนี้ดูสวยงามน่าใช้งานมากจนเราแอบจินตนาการไปว่าในวันที่คุณแม่ทำขนมที่นี่จะต้องอบอวลไปด้วยกลิ่นหอมอย่างแน่นอน คงไม่มีอะไรมีความสุขไปกว่าการได้ทำสิ่งที่ชอบในห้องครัวที่ใช่อีกแล้วล่ะ