หัวปลี (Banana Blossom / Banana Flower) ดอกของต้นกล้วยที่เราเห็นเสิร์ฟเป็นเครื่องเคียงกับจานผัดไทย หรือเอามาทำยำ แกง อยู่ทั่วไปนั้น ทราบกันไหมว่ามีประโยชน์มากมาย ไม่ได้จำกัดอยู่แค่อาหารบำรุงน้ำนมของแม่ลูกอ่อนเท่านั้น เพราะหัวปลีมีประโยชน์หลายอย่าง เช่น บำรุงเลือด ป้องกันโลหิตจาง ช่วยขับน้ำนม บำรุงสุขภาพหัวใจและกระดูก ลดน้ำตาลในเลือด และมีสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยต้านการอักเสบ นอกจากนี้ยังอุดมไปด้วยไฟเบอร์ช่วยเรื่องระบบขับถ่าย เพราะหัวปลีสดปริมาณ 100 กรัม มีใยอาหาร 4–7 กรัม และให้พลังงานประมาณ 40–60 kcal ช่วยให้อิ่มนาน แต่อะไรที่มากไปก็ไม่ดีนะ ดังนั้นควรรับประทานอาหารให้หลากหลายหมุนเวียนกันไป

สำหรับการนำหัวปลีมาปรุงนั้น ถ้าไม่ได้ทานสดเป็นเครื่องเคียงแล้ว เมนูแกงพื้นบ้านอย่างแกงหัวปลีต้มกะทิกับปลาย่างเป็นอีกเมนูที่ทำไม่ยากเลย โดยเริ่มจากนำหัวปลีไปย่างง ระหว่างนั้นก็นำเนื้อปลาช่อนตากแห้งมาต้มให้นิ่ม ก่อนนำไปปรุงอาหาร สำหรับใครที่เป็นสายสุขภาพก็สามารถลดปริมาณกะทิลงและเพิ่มปริมาณน้ำมากขึ้น หรือเลือกใช้กะทิทางเลือกอย่างกะทิธัญพืชแทนได้

หัวปลีต้มกะทิกับปลาย่าง
ส่วนผสม
หัวปลี ขนาดกลาง 1 หัว
ปลาช่อนย่าง ขนาด 200 กรัม 1 ตัว
น้ำกะทิ 2 ½ ถ้วย
ใบมะกรูด 5 ใบ
ตะไคร้ 2-3 ต้น
ข่า 1 หัว
น้ำเปล่า 2 ½ ถ้วย
น้ำมะขามเปียก
น้ำปลา
พริกขี้หนู
น้ำพริกเผา
วิธีทำ
1. เทน้ำใส่หม้อขนาดใหญ่ ใส่ข่าและตะไคร้ซอยเป็นแว่นลงไป ตามด้วยใบมะกรูดฉีก ตั้งไฟให้น้ำร้อน แกะเอาแต่เนื้อปลาช่อนย่างใส่ลงไปต้มไฟกลางไปจนเนื้อปลานิ่ม
2. ระหว่างที่ต้มเนื้อปลาให้นำหัวปลีไปเผาแล้ววางพักไว้จนเย็น ลอกกาบด้านนอกออกจนเจอส่วนที่เป็นสีขาว ผ่าครึ่ง หั่นเป็นชิ้นเตรียมไว้
3. มื่อปลาย่างนิ่มเทน้ำกะทิใส่ลงไปตามด้วยหัวปลี ตั้งไฟให้เดือดแล้วลดเป็นไฟอ่อน ปรุงรสด้วยน้ำมะขามเปียก น้ำพริกเผา พริกขี้หนูซอย และน้ำปลา ชิมรสตามชอบ
เคล็ดลับ
ถ้าใครไม่สะดวกที่จะเผาหัวปลีสามารถใช้วิธีอบที่อุณหภูมิ 200 องศาเซลเซียส ประมาณ 20 นาที แทนได้




