เซรามิกนับเป็นหนึ่งในเครื่องครัวที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย ผลิตภัณฑ์จากเซรามิกมีมากมายหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็น จาน ชาม แก้วน้ำ รวมไปถึงยังออกแบบให้เป็นอุปกรณ์ตกแต่งบ้าน และอื่นๆ อีกมากมาย ด้วยคุณสมบัติของเซรามิกที่มีความคงทน มีสีสัน และลวดลายที่สวยงาม ทำให้เซรามิกยังคงเป็นภาชนะคู่ครัว ที่หลายๆ บ้าน ยังคงเลือกใช้กันมาจนถึงทุกวันนี้
คำว่า “เซรามิก” มีรากศัพท์ภาษากรีก เรียกว่า ” Keramos” ซึ่งมีความหมายว่าไฟ หรือความร้อน เป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้จากการนำดินมาปั้นขึ้นรูปด้วยวิธีการต่างๆ เช่น การหล่อด้วยแม่พิมพ์ หรือการปั้นด้วยมือ จากนั้นไปเคลือบ หรือไม่เคลือบก่อนจะนำไปเผาด้วยอุณหภูมิ สูง-ต่ำ ขึ้นอยู่กับประเภทของดิน และเทคนิค โดยระหว่างนั้นอาจมีขั้นตอนของการตกแต่งพื้นผิวเขียนลาย หรือลงสีเพิ่มเติม ไปตามรูปแบบของการดีไซน์จนกลายเป็นชิ้นงานที่สมบูรณ์
โดยทั่วไปภาชนะเซรามิกที่เรานำมาใช้กันนั้น สามารถจำแนกออกเป็น 4 ประเภทหลักๆ ได้แก่
” สโตนแวร์ ” ( Stoneware ) เป็นเซรามิกที่ทำจากเนื้อดินขาว ผสมกับหินฟันม้า และทรายเซรามิก คล้ายเซรามิกทั่วไป แต่เบาและเปราะกว่า เป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่มีความหลากหลายในการเลือกใช้งาน ไม่ว่าจะเป็น งานปั้น, งานหล่อ, งานอัดปั๊ม เหมาะกับผลิตภัณฑ์สำหรับปรุงอาหาร Cookware ลักษณะเด่นของผลิตภัณฑ์สโตนแวร์มักจะชิ้นหนา และหนัก เน้นความแข็งแรงทนทาน เช่น เครื่องสังคโลก และโอ่งมังกร
” พอร์ชแลนด์ ” (Porcelain) เนื้อเซรามิกสีขาวเคลือบผิวมัน โปร่งแสง มีความแข็งแกร่งเหมือนแก้ว ไม่ดูดซึมน้ำ เมื่อเคาะแล้วจะมีเสียงดังกังวาน เนื้อผลิตภัณฑ์เหมือนกับสโตนแวร์ แต่มีขั้นตอนการผลิตที่ยุ่งยากซับซ้อนกว่า มักพบในเครื่องใช้บนโต๊ะอาหาร เน้นโชว์ความขาว และโปร่งแสง รวมถึงมีความบางและน้ำหนักที่เบา เมื่อเอานิ้วแตะที่ผลิตภัณฑ์จะปรากฏแ สงเงาของนิ้วมือได้อย่างชัดเจน
“เอิร์ธเทนแวร์ ” ( Earhenware ) เซรามิกเคลือบผิวทึบแสง มีความพรุน ดูดซึมน้ำได้เนื้อละเอียด มีสีไม่ขาวมาก เช่น กระถางต้นไม้ กระเบื้องมุงหลังคา
” โบนไชน่า” (Bone China ) เครื่องปันดินเผาชั้นดี และมีราคาแพงที่สุด มีความขาว และเคลือบเป็นมันวาวมาก มีเนื้อละเอียดบางเบา และมีความโปร่งแสงมาก ตลอดจนมีความแข็งแกร่ง ซึ่งผลิตภัณฑ์ ประเภทนี้ ได้แก่ เครื่องถ้วยชาชนิดต่างๆ
ในการเลือกซื้อเซรามิก ควรคำนึงจากวัตถุประสงค์การใช้งานก่อนเป็นอันดับแรกว่าเราจะต้องการนำไปทำอะไร หากต้องการใช้บนโต๊ะอาหาร ( Tableware ) ก็ควรเลือกเซรามิกประเภท Porcelain แต่หากต้องการสินค้า ที่ใช้สำหรับการตกแต่ง ( Decorative Itis ) ก็ควรเลือกเซรามิกประเภท Stoneware ที่มีความทน และดูแลรักษาง่าย
จากนั้นก็ควรพิจารณาถึงความชื่นชอบในเทคนิคที่นำมาใช้ในการผลิตว่ามีรูปแบบ และลักษณะของงานนั้นเป็นงานฝีมือที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว หรือเป็นงานอุตสาหกรรมที่มีการใช้แม่พิมพ์ในการผลิต ซึ่งลักษณะของงานจะมีความประณีตแตกต่างกัน
นอกจากนี้ เรื่องของเทคนิคในการเคลือบ และตกแต่งลวดลายต่างๆ ที่สวยงาม ตลอดจน ประโยชน์ในการใช้งานที่เหมาะสมก็เป็น อีกหนึ่งปัจจัยที่ช่วยประกอบการตัดสินใจเลือกซื้อ ก่อนจะพิจารณาในรายละเอียดต่างๆ ได้แก่ จุดตำหนิของการแตกร้าว รูปลักษณะที่บิดเบี้ยว หรือเทคนิคของการเคลือบเสมอ แต่อย่างไรก็ตามในการเลือกซื้อเซรามิก ก็ขึ้นอยู่กับความพึงพอใจของผู้ซื้อเป็นสำคัญ
สำหรับในส่วนของการดูแลรักษาเซรามิก ให้ใหม่อยู่เสมอ ก็สามารถทำได้ง่ายๆ ด้วยวิธีการทำความสะอาดตามปกติ หรือถ้าหากใครอยากรู้ไอเดียดีดีในการดูแลเซรามิกให้อยู่กับเราไปนานๆ สามารถติดตามอ่านกันได้เลย กับวิธีแปลงโฉมเซรามิกแสนรักให้ดูสวยสดใสน่าใช้งาน ( ลิ้งค์ไปหน้าเว็บ Content : แปลงโฉมเซรามิกแสนรักให้ดูสวยสดใสน่าใช้งาน )
เนื้อหา / แฟ้มภาพ : จาก นิตยสาร @Kitchen
ขอบคุณเนื้อหาบางส่วนจาก : https://decorationlite.wordpress.com/, http://www.material.chula.ac.th/RADIO45/July/radio7-3.htm
