การ รีโนเวทบ้าน นับเป็นความท้าทายอย่างหนึ่งของสถาปนิกที่จะจัดการเนรมิตสถานที่นั้นซึ่งดูเก่าและทรุดโทรมให้กลับมามีชีวิตชีวาขึ้นอีกครั้ง แต่ถ้าเป็นเจ้าของบ้านคิดจะเปลี่ยนแปลงตึกเก่าสองชั้นให้กลายเป็นห้องครัวสำหรับทำเบเกอรีดูบ้างล่ะ เราว่านั่นอาจเป็นโจทย์ยากและท้าทายหนักยิ่งกว่า
คุณตาล – ศรัณยา กฤษณวงษ์หงษ์
แต่สำหรับคุณตาล – ศรัณยา กฤษณวงษ์หงษ์ เจ้าของบ้านและเจ้าของ คาเฟ่ Lastberry ย่านติวานนท์ การรีโนเวทอาคารเก่าสภาพโทรมตึกนี้กลับกลายเป็นเรื่องสนุกมากกว่า เพราะเธออยากมีห้องครัวใหญ่ๆ ที่สามารถรองรับการทำงาน สร้างสรรค์เมนูรวมถึงเป็นพื้นที่ทดลองทำขนมสูตรใหม่ๆ นั่นเอง
คุณตาลเล่าให้เราฟังว่าก่อนเปิดคาเฟ่เธอทำธุรกิจส่วนตัวของครอบครัว ประจวบเหมาะกับในละแวกที่อยู่นั้นไม่มีร้านกาแฟไว้เป็นจุดนัดลูกค้าหรือเพื่อนๆ เธอจึงตัดสินใจเปิดร้านเป็นแบบเนเบอร์ฮูดคาเฟ่
“ตอนแรกตาลตั้งใจขายกาแฟอย่างเดียว เลือกรสชาติกาแฟในแบบที่ชอบ แต่เปิดไปสักระยะก็เริ่มมีลูกค้าถามถึงเค้กกันเยอะ ก็เลยรับเค้กจากเบเกอรีมายด์มาขายก่อน จากนั้นก็ไปเรียนทำขนมขั้นพื้นฐานกับเขาเพื่อนำมาต่อยอดให้เป็นขนมสูตรของเราเอง
ช่วงแรกตาลทำขนมโดยใช้พื้นที่หลังร้านซึ่งมีเนื้อที่อยู่ประมาณ 1.20 เมตรเท่านั้นเอง มีอุปกรณ์ทำขนมครบก็จริงแต่ลำบากมาก เพราะพื้นที่แคบเวลาใช้งานทีต้องเอาอุปกรณ์ออกมาจากกล่อง จนเราเกิดความคิดที่อยากเริ่มผลิตขนมจริงจังมากขึ้น
เมื่อคุณตาลตัดสินใจทำขนมเพื่อเป็นอาชีพแบบเต็มตัว ครัวหลังร้านซึ่งมีเนื้อที่แคบจึงไม่ตอบโจทย์อีกต่อไป เธอจึงเริ่มมองหาสถานที่สำหรับทำเบเกอรีโดยเฉพาะ โชคดีที่ที่บ้านของเธอมีตึกปล่อยเช่าอยู่ถัดจากคาเฟ่ไม่ไกลนัก ดังนั้นจึงใช้อาคารเก่ามาปรับปรุงพื้นที่ภายในใหม่
“พอดีตึกที่เราปล่อยเช่าเค้าย้ายออกไปว่างอยู่ประมาณ 2-3 เดือน ไม่มีคนมาเช่าต่อ ตาลเลยตัดสินใจว่าเช่าตึกของที่บ้านทำห้องครัวดีกว่า คิดไว้ว่าจะให้ที่นี่เป็นทั้งออฟฟิศและเป็นครัวสำหรับผลิตขนมส่งขายที่ร้านเรา”
มุมโซฟาไว้นั่งพักผ่อนมีโต๊ะสำหรับนั่งคุยงาน
คุณตาลอธิบายถึงลักษณะของตึกสองชั้นนี้ว่าเป็นตึกเก่าที่ดูทรุดโทรมมากมีสภาพไม่ต่างจากฉากในภาพยนตร์เรื่องบุปผาราตรี แต่บรรยากาศที่เราเห็นในตอนนี้แทบจะไม่เหลือเค้าความหลอนที่ว่านั่นเลยสักนิด กลับกลายเป็น ห้องครัวสไตล์โมเดิร์นสีขาว ตกแต่งข้าวของเครื่องใช้แนววินเทจให้อารมณ์ย้อนยุคแถมยังมีกลิ่นเบเกอรีหอมๆ ลอยเตะจมูกอีกต่างหาก
ใช้พื้นที่ใต้บันไดได้เป็นประโยชน์ด้วยการติดตั้งชั้นโปร่งสำหรับเก็บวัตถุดิบ
ด้วยความสงสัยเราจึงอยากรู้ไอเดียและแนวคิดเกี่ยวกับการรีโนเวท เพราะทราบมาว่าเธอเป็นคนออกแบบห้องครัวเองทั้งหมด
ไอส์แลนด์ตรงกับตำแหน่งคานจึงเลือกติดโคมไฟเพื่อให้แสงส่องมายังเคาน์เตอร์ทอป
“ตาลหาภาพตัวอย่างจาก Pinterest เยอะมาก ชอบแบบไหนก็เซฟเก็บไว้ อยากได้ครัวที่มีดีไซน์สวยและใช้งานได้จริง สภาพเดิมของตึกโทรมมากถ้าจะรีโนเวทให้ทันสมัยไปเลยก็ไม่ใช่สไตล์ที่เราอยากได้ ตาลเลยเลือกรีโนเวทเพียงครึ่งเดียว บางอย่างที่ยังใช้งานได้ก็คงไว้ เพราะฉะนั้นสไตล์โดยรวมของห้องครัวให้อารมณ์กึ่งโมเดิร์นกึ่งวินเทจ เป็นการผสมผสานระหว่างของเก่าและของใหม่ให้ดูกลมกลืนกัน
การเดินไฟลอยสามารถแก้ไขง่ายเมื่อเกิดปัญหา และยังดูสวยงามในแบบลอฟต์
ส่วนรายละเอียดต่างๆ ที่ตาลให้ความสำคัญอีกอย่างก็คือ การเจาะหน้าต่างเพิ่ม เพราะเราอยากได้แสงธรรมชาติส่องเข้ามาด้านในให้มากกว่าเดิม เอาเหล็กดัดที่หน้าต่างออก เก็บบานประตูไว้เหมือนเดิมแล้วทาสีใหม่ ฝ้าคงไว้แบบเดิม ส่วนไฟเราเลือกเดินลอยเพราะดีไซน์ในยุคสมัยนี้เค้านิยมเดินลอยกันหมด ซึ่งการเดินลอยสามารถทำให้ดูสวยได้ เพียงแค่เราต้องเดินให้ไลน์สวยเท่านั้นเอง ที่สำคัญแก้ไขง่ายเมื่อเกิดปัญหา นอกจากนี้ระบบไฟฟ้าในครัวตาลทำปลั๊กไฟที่รองรับเตาอบกำลังไฟสูงๆ เอาไว้เฉพาะ ดังนั้นจึงใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าพร้อมกันได้หลายตัวภายในเวลาเดียวกันโดยไม่ต้องกังวลเลย”
เพิ่มฟังก์ชันบนไอส์แลนด์มีที่นั่งสอดขาสำหรับนั่งทำงานได้ด้วย
เลือกใช้เวิร์คทอปสเตนเลสนอกจากจะคงทนแข็งแรงแล้วยังทำความสะอาดง่าย
การติดตั้งตำแหน่งดวงไฟเป็นองค์ประกอบหนึ่งที่สำคัญมากในการทำห้องครัว เนื่องจากต้องอาศัยแสงสว่างขณะปรุงอาหารแล้วยังช่วยเพิ่มความปลอดภัย คุณตาลจึงกำหนดตำแหน่งการติดตั้งดวงไฟ แสงไฟรวมถึงเลือกประเภทของหลอดไฟเพื่อความเหมาะสมและตรงกับการใช้งาน “ตาลพอจะมีหัวด้านดีไซน์มาบ้าง แล้วเราเป็นคนใช้ครัวจึงรู้ว่าไฟในแต่ละจุดควรติดตั้งตรงไหนบ้าง โทนแสงต้องมีลักษณะยังไง
อย่างไอส์แลนด์เป็นฟังก์ชันเสริมที่จำเป็นในห้องครัว แต่ตำแหน่งเกิดอยู่ตรงกับใต้คานพอดี แสงสว่างจากไฟดาวน์ไลท์ก็สว่างไม่พอ และให้ความรู้สึกวอร์มเพื่อสร้างบรรยากาศเท่านั้น ซึ่งพื้นที่ใช้งานส่วนนี้ต้องได้แสงสว่างเต็มที่ ทางเลือกสุดท้ายเราจึงต้องใช้ไฟโคมไฟระย้าห้อยลงมา แล้วดีไซน์โคมไฟสีดำก็ยังเข้ากันกับบันไดเก่าที่เราไม่ได้ปรับเปลี่ยนอะไร”
โซนทำขนมแบ่งพื้นที่ใช้งานออกเป็นไอส์แลนด์ และชุดครัวติดผนัง
ฟังก์ชันในห้องครัวแบ่งออกเป็น 3 ส่วน ประกอบด้วยโซนแรกเป็นพื้นที่ทำงานนอกจากมีโต๊ะเก้าอี้สำหรับนั่งคุยงานร่วมกันกับทีมงานแล้วมุมหนึ่งยังมีโซฟาไว้นั่งพักผ่อนระหว่างรอทำขนม ถัดไปเป็นโซนสำหรับเตรียมวัตถุดิบต่างๆ แบ่งเป็นชั้นโปร่งสำหรับเก็บวัตถุดิบ ซึ่งคุณตาลบอกว่าชั้นวางของตรงนี้เหมือนซูเปอร์มาร์เก็ตใช้อะไรก็สามารถหยิบได้เลย ใช้งานสะดวกเพราะนอกจากจะเก็บไว้เป็นหมวดหมู่แล้วยังทราบอีกว่ามีของเหลือในสต็อคเพียงพอสำหรับการทำขนมหรือไม่
ตกแต่งผนังด้วยกระเบื้องสีขาวไม่เพียงเพิ่มความสวยงาม แต่ยังใช้ประโยชน์เป็นที่ติดสูตรขนมหรือโน้ตสำคัญๆ เตือนความจำได้
ลิ้นชักใต้ไอส์แลนด์สามารถเก็บของใช้ในครัวได้เยอะ ทำให้ห้องครัวดูเป็นระเบียบ
ถัดมาเป็นไอส์แลนด์เป็นพื้นที่สำหรับทำขนมและจัดเตรียมสามารถใช้งานได้พร้อมกันหลายคน เพราะเดินได้รอบพื้นที่ ด้านล่างยังมีลิ้นชักจัดเก็บภาชนะใบใหญ่ โดยอีกฝั่งเว้นพื้นที่ไว้สำหรับนั่งสอดขาทำงานมีเก้าอี้สตูลสีขาวที่เข้ากันกับหน้าบานชุดครัว ถัดจากไอส์แลนด์เป็นเคาน์เตอร์ชิดผนังมีเครื่องตี และไมโครเวฟวางบนเคาน์เตอร์ทอป
เพิ่มรถเข็นไว้สำหรับเก็บของที่หยิบใช้งานบ่อย สะดวกในการเคลื่อนย้าย
ลิ้นชักเก็บอุปกรณ์สำหรับแพ็คขนมโดยเฉพาะ ใช้งานสะดวกแล้วยังเป็นระเบียบ
โซนสุดท้ายที่อยู่ด้านในเป็นพื้นที่สำหรับอบ วางเตาเท่านั้น ซึ่งคุณตาลบอกว่าพื้นที่บริเวณนี้ไม่ได้ใช้งานมากเพียงแค่เดินดูขนมที่อยู่ภายในเตาจึงมีเพียงแค่โต๊ะ ไม่ได้เน้นฟังก์ชันใช้งานเท่าไหร่นัก
การรีโนเวทตึกเก่าเกิดขึ้นจากแนวคิดของเจ้าของบ้านผสมผสานกับสไตล์ที่ชอบ กลายเป็นพื้นที่แห่งความสุขที่คุณตาลค่อยๆบรรจงสร้างและชุบชีวิตให้กลับมีบรรยากาศขึ้นอีกครั้ง นับเป็นห้องครัวสวยที่มีแรงดึงดูดให้เธอมีพลังใจในการคิดค้นขนมสูตรใหม่ๆ ได้ไม่รู้จบ
เจ้าของ : คุณตาล – ศรัณยา กฤษณวงษ์หงษ์
พื้นที่ใช้งานครัว 15 ตารางเมตร
