เราได้มีโอกาสพบเจอกับศิลปินรุ่นใหม่ไฟแรงที่มีผลงานจัดแสดงหลายครั้ง จนล่าสุดได้ไปจัดแสดงงานไกลถึงประเทศสิงคโปร์ คุณเถียน ศุภมาส ทวีโชติภัทร์ เจ้าของภาพวาดสไตล์ดาร์กแต่หวาน วันนี้เราได้มาพบกับเธอภายในบ้านขนาดกำลังอบอุ่นของคุณยาย ที่อาศัยสืบต่อกันมาถึงสามรุ่น ตั้งแต่คุณยาย คุณแม่ จนถึงลูกสาว ในย่านกลางเมืองอย่างสุขุมวิท เพื่อพูดคุยถึงผลงาน แรงบันดาลใจ ของสะสมชุดถ้วยชากาแฟ และเครื่องแก้วมากมายที่ตกทอดมาตั้งแต่รุ่นคุณตาและคุณยายจนถึงปัจจุบัน
ชุดน้ำชาสีเหลืองซึ่งเป็นชุดโปรดของคุณตาอายุถึงประมาณ 100 ปีแล้ว
ห้องสไตล์หลุยส์และบรรดาของสะสมเครื่องแก้วและคริสตัลของคุณยาย
จุดเริ่มต้นการวาดภาพของศิลปินสาวคนนี้เริ่มต้นจากบุคคลในครอบครัวอย่างคุณตากับคุณยายซึ่งเป็นคนไต้หวันนั่นเอง “คุณตาเป็นคนชอบวาดภาพแนวบ้าน วิวทิวทัศน์ และเคยได้รางวัลด้วย แต่ท่านไม่เคยได้ทำเป็นอาชีพเลย แต่ว่าด้วยความชอบทำให้คุณตากับคุณยายสอนเราวาดภาพมาตั้งแต่เด็กๆ วิธีการสอนของคุณตาก็คือท่านจะวาดให้ดูเลย แล้วเราก็วาดรูปข้างๆ กัน ไม่ใช่การมาบอกว่าต้องวาดตรงนี้แบบนี้แบบนั้น แต่เป็นการทำให้เราซึมซับไปเรื่อยๆ ว่าวาดแบบนี้จะสวยกว่า”
บรรดาชุดถ้วยชา และภาพวาดของคุณเถียน
บรรดาชุดถ้วยกระเบื้องของคุณตาที่บางชิ้นซื้อไว้ตั้งแต่ตอนคุณตาเป็นทหารไปประจำการที่ญี่ปุ่น บางชิ้นจึงถือเป็นของเก่าหายาก
นับจากการเริ่มต้นที่มาจากคุณตาคุณยาย ภาพวาดของเธอก็ได้ถูกพัฒนามาสู่แนวทางที่มีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง ซึ่งคุณเถียนบอกว่า “อาจเพราะบ้านที่อาศัยอยู่เป็นโทนมืด เลยส่งผลต่องาน ทำให้เราชอบที่จะเลือกใช้สีโทนมืด แนวดาร์กๆ และเอิร์ธโทน ส่วนคอนเซ็ปต์ก็มักจะมาจากหนังสือวรรณกรรมอย่างฮันเซลกับเกรเทล สะท้อนถึงสังคมที่ยากแท้หยั่งถึง บางอย่างอาจจะสวย ดูดี แต่ก็แฝงความน่ากลัวไว้ด้วยเหมือนกัน”
แม้หลังจากคุณตาจะจากไป แต่ของสะสมของคุณตาได้กลายมาเป็นเสมือนตัวแทนที่ทำให้นึกถึงคุณตาได้อยู่เสมอ “ของสะสมของคุณตาอาจไม่ได้เข้ามาอยู่ในผลงานของเราโดยตรง แต่ทุกครั้งที่มองของสะสมของคุณตา มันทำให้เราคิดถึงคุณตาทุกครั้ง และเถียนยังคงจำได้เป็นอย่างดีว่าคุณตาบอกให้เถียนเดินในเส้นทางนี้ คือคุณตาอยากให้เราวาดรูปมาก จนถึงขนาดที่ว่าแม้วันที่คุณตาเสีย ท่านก็ยังเป็นห่วงว่า เราจะเดินต่อในเส้นทางการวาดภาพไหม เลยกลายเป็นสิ่งเตือนในเราเสมอว่าเราต้องทำให้ได้ เพราะเป็นอาชีพที่คุณตาคุณยายรักมากแต่ไม่มีโอกาสได้ทำ ทุกครั้งที่เราท้อใจ เวลาเรามองไปที่ของสะสมพวกนี้ มันทำให้เราคิดถึงคุณตามากขึ้น ซึ่งสำหรับเราเป็นของสะสมที่คุณค่าทางจิตใจมากกว่าราคาอีกนะ”
แต่ก่อนที่จะมาถึงจุดที่ได้เป็นศิลปินวาดภาพเต็มตัวอย่างที่คุณตาเคยหวังอยากให้เป็น ชีวิตการทำงานของศิลปินวาดภาพคนนี้ก็ต้องผ่านอะไรมาเยอะเหมือนกัน “จริงๆ ก่อนมาวาดภาพอย่างเดียวแบบทุกวันนี้ เราทำอะไรมาเยอะมาก คือเคยทำงานพร้อมกันถึง 6 อาชีพ ทั้งเมกอัพอาร์ตทิสต์ ช่างบอดี้เพนต์ อาจารย์สอนวาดรูป 3 แห่งพร้อมกัน เพราะเราไม่เคยคิดเลยว่าการวาดรูปอย่างเดียวจะเป็นอาชีพได้ เราเลยทำหมดทุกอย่าง ซึ่งรายได้มันดีนะ แต่เรากลับรู้สึกว่ามันไม่ใช่ จนเมื่อ 2-3 ปีที่ผ่านมานี่เอง เราถึงได้เข้าใจว่า การวาดภาพนี่แหละ คือความสุขที่หาจากที่ไหนไม่ได้แล้ว เราไม่จำเป็นต้องไปเที่ยวนอกบ้าน หรือไปซื้อของอะไรเยอะแยะ เราก็มีความสุข”
หัวกะโหลกคริสตัลของคุณเถียน ที่เป็นแรงบันดาลใจให้ภาพวาดบางคอลเล็กชัน
สุดท้ายในฐานะคนที่เป็นศิลปินสร้างผลงาน คิดว่าอะไรเป็นเหตุผลสำคัญที่คนจะเลือกเก็บของสะสมบางอย่างไว้ในบ้าน “จริงๆ เมื่อเราลองมองกลับด้านมาเป็นคนสะสมแล้ว เราพบว่าการที่จะเก็บของสะสมหรือภาพวาดอะไรก็ตามไว้ในบ้านเรา ไม่ใช่แค่ดูสวยหรือเทคนิคดีเท่านั้น แต่ต้องมีความงาม ความสบายตา และที่สำคัญคือต้องมีส่วนเกี่ยวข้อง มีความหมายกับเราถึงอยากเก็บมันไว้”
บทความจากคอลัมน์ “Decollector” นิตยสาร @Kitchen ฉบับที่ 122 ประจำเดือนตุลาคม 2559