จุดเริ่มต้นการทำอาหารของเควส
เราเป็นคนชอบเล่นดนตรี วาดรูป ชอบงานศิลปะ แต่แม่แนะนำว่าเรียนด้านนี้อาจจะหางานยาก ลองไปเรียนธุรกิจดีไหม ก็เลยไปเรียน ช่วงพักเรานั่งดูยูทูปเห็นคลิปทำอาหารรู้สึกว่าน่าลองทำดีนะ ประกอบกับว่าตอนนั้นเราเด็ก เลยลองทำขนมจีบผู้หญิง เป็นจุดเริ่มต้นตั้งแต่นั้นมา มีความสุขและคิดว่ามันใช่มาก เราสามารถใส่ศิลปะลงไปบนจานได้ด้วย แล้วมันก็อร่อยด้วย
ตอนนั้นทำเล่นๆ ทุกวันเสาร์ เอาขนมไปให้เขา เปลี่ยนเมนูไปเรื่อยๆ ช่วงแรกเป็นขนม บราวนี่ พาย หลังๆ เริ่มเป็นอาหารคาว กลายเป็นความสุขอย่างหนึ่งที่เราได้ทำ แล้วก็ขอแม่ไปเรียนแบบจริงจัง แต่ด้วยความที่เราเป็นคนทำอะไรไม่จริงจัง เล่นดนตรีแป๊บๆ เดี๋ยวก็เลิก แม่ไม่เชื่อแต่เขาก็ไม่ห้าม เลยบอกว่าลองไปเรียนแค่คอร์สหนึ่งดูก่อนไหม พอไปเรียนเราชอบจริงๆ ทำคะแนนออกมาได้ดี แม่บอกว่างั้นไปเรียนให้จบเลยแล้วกันหลังจากนั้นค่อยว่ากัน
เริ่มเรียนจริงจัง
เราเรียนคอร์สอาหารฝรั่งเศสที่เลอกอดองเบลอทั้งหมด 3 ขั้น ไม่คิดว่าการเรียนทำอาหารเขาจะสอนตั้งแต่การหั่นผัก ทุกอย่างมีความเป๊ะ อะไรที่เราไม่เคยรู้ก็ได้รู้ลึกขึ้น สนุกตรงที่เขาสอน เขาทำให้ดู เราก็ได้มีโอกาสปฏิบัติตามที่เขาสอน มีเชฟมาชิมให้คะแนน พอได้รับคำชมเราก็ดีใจ เรียนทั้งหมด 9 เดือน กลับมาฝึกมือเองที่บ้าน หลังจากเรียนจบคิดว่าจะเปิดร้านดีไหม หรือลองไปสมัครงานที่ไหนดี แต่ก็ยังไม่ได้ทำ แล้วมาเจอรายการมาสเตอร์เชฟเขาเปิดรับสมัคร ซีซันแรกเห็นเพื่อน (แก้ว) ไปแข่ง ครั้งที่ 2 ยูริก็ไป คิดกับตัวเองว่า ทำไมเราไม่ไป อยากรู้ว่าเวลาเจอวัตถุดิบ ทำไมเขาถึงคิดออก แล้วถ้าเราไปอยู่จุดนั้นเราจะคิดออกไหม สุดท้ายเพื่อนก็พาไปเลย
เข้าสู่เวทีมาสเตอร์เชฟ
เควส ได้เข้าร่วมแข่งขันมาสเตอร์เชฟในซีซัน 3 เมื่อเข้ารอบลึกและได้เป็นจานที่ดีสุดหลายครั้ง เขาก็ได้ฉายาจากเพื่อนๆ ว่าเป็นเทพเควส “พอเข้ารอบลึกๆ ความมั่นใจเริ่มมา พูดกับตัวเองว่าเราจะกลัวอะไร เราก็ทำได้เหมือนกัน ส่วนฉายาได้มาเพราะเราได้เป็นจานที่ดีที่สุดหลายครั้ง ชนะหลายครั้ง ผู้ร่วมแข่งขันเขาก็จะเลือกเอาวัตถุดิบยากๆ มาให้เรา เขาก็จะพูดกันว่า เควสฆ่าไม่ตายบ้างอะไรบ้าง จริงๆ คำว่าเทพมันดีนะ แต่ตอนหลังๆ รู้สึกว่าเราไม่สามารถทำอะไรได้ดรอปไปกว่านี้อีกแล้ว พอทำดรอปปุ๊บคนก็จะอ้าวเป็นเทพไม่ใช่หรอ บางอย่างคิดไม่ออกคือคิดไม่ออกจริงๆ นะ มีความเครียดและกดดันในบางครั้ง”
ถึงแม้เควสจะพลาดโอกาสในการเป็นมาสเตอร์เชฟถึงสองครั้ง แต่เขาไม่เคยเสียใจเลย คิดว่าทุกอย่างคือประสบการณ์ “เรามองในสิ่งที่เราได้รับมากกว่าสิ่งที่เราไม่ได้ เพราะสุดท้ายแล้วการแข่งขันมันไม่ใช่ตลอดทั้งชีวิต ทุกอย่างคือการเรียนรู้ ทั้งคำแนะนำของกรรมการ และจากเพื่อนๆ ที่เข้าร่วมแข่ง เรียกว่าเป็นเวทีที่ครบรสจริงๆ”
เควสเลือกเมนูทาโก้ต้มยำกุ้งที่ผสมผสานระหว่างอาหารไทยและเม็กซิกันเข้าด้วยกัน สามารถทำตามได้ไม่ยาก จะทำแป้งทาโก้เองหรือซื้อแบบสำเร็จรูปก็ได้ ส่วนซอสต้มยำกุ้งมีความเป็นไทย เป็นเมนูเบสิคที่คนไทยชอบต่างชาติก็ชอบ รสชาตินุ่มนวลแต่มีความจัดจ้านของพวกพริก กระเทียม น้ำพริกเผา สมุนไพรไทยหอมๆ
ส่วนผสมแป้งตอติญ่า
แป้งอเนกประสงค์ 1½ ถ้วยตวง ผงฟู ½ ช้อนชา เกลือ ½ ช้อนชา น้ำร้อน ½ ถ้วยตวง น้ำมันพืช ¼ ถ้วยตวง
ส่วนผสมซอสไอโอลี่ต้มยำกุ้ง
มายองเนส 200 กรัม พริกขี้หนูสับ 1 ช้อนโต๊ะ กระเทียมสับ 1 ช้อนโต๊ะ ข่าสับ ½ ช้อนโต๊ะ น้ำมะนาว 3 ช้อนโต๊ะ
น้ำพริกเผา 2 ช้อนโต๊ะ เกลือ 1 ช้อนชา ตะไคร้สับ 1 ช้อนโต๊ะ
ส่วนผสมกุ้งทอด
กุ้งปอกเปลือกผ่าหลัง 8-12 ตัว แป้งทอดกรอบ 75 กรัม น้ำเย็น 100 กรัม เกลือ 1 ช้อนชา พริกไทย ½ ช้อนชา
เครื่องเคียง
ผักสลัดคอส 1 ต้น หั่นเป็นชิ้น มะเขือเทศเชอร์รี 12 ลูก (หั่นครึ่งตามยาว) หอมแดงหั่นสไลซ์ 6 ลูก ใบผักชี 15 ใบ (ซอย) ใบมะกรูดซอยบาง 6-8 ใบ
วิธีทำแป้งตอติญ่า
1. นำแป้งอเนกประสงค์ ผงฟู เกลือ ใส่ลงในภาชนะ เทน้ำร้อนและน้ำมันลงไป ผสมให้เข้ากัน นวดเป็นก้อน แล้วพักแป้งไว้ 20 นาที แร็พด้วยพลาสติก
2. แบ่งแป้งเป็นก้อนกลมประมาณ 20 กรัม รีดให้แบน นำไปจี่บนกระทะ ด้านละ 3 นาที
วิธีทำกุ้งทอด
1. นำกุ้งล้างให้สะอาด ปอกเปลือก ผ่าหลังเอาเส้นดำออก ซับให้แห้ง พักไว้
2. ผสมแป้งทอดกรอบกับน้ำเย็นจัด เติมเกลือ พริกไทย เพื่อเพิ่มรสชาติ
3. นำกุ้งชุบแป้งทอดที่เตรียมไว้และลงทอดด้วยไฟกลางจนเป็นสีเหลืองทอง พักให้สะเด็ดน้ำมัน
วิธีจัดจาน
นำผักและเครื่องเคียงวางไว้ตรงกลางบนแผ่นแป้ง วางกุ้งทอด แล้วบีบซอสไอโอลี่ลงไป โรยด้วยใบมะกรูดซอย ใบผักชีและต้นหอม สามารถเพิ่มพริกขี้หนูซอยได้เพื่อเพิ่มความจัดจ้าน