ช่วงนี้เริ่มได้ยินคำว่า Plants based Food ตามร้านทั่วไปมากขึ้น เอาจริงๆการทานแบบนี้มีมานานแล้วแต่จำกัดอยู่ในคนกลุ่มเล็กๆ หรือใช้คำเรียกแบบอื่นมากกว่า สำหรับใครที่อยากจะเปลี่ยนมาทานแบบนี้แต่ยังสับสนว่าควรทานอะไรบ้าง หรือกังวลว่าทานแล้วจะอิ่มท้องไหมสำหรับวัยทำงาน จากที่มีโอกาสได้ลองทานที่ ศูนย์เวลเนสวีแคร์เซ็นเตอร์ (Wellness We care Center) จังหวัดสระบุรี บอกได้เลยว่าอิ่ม แต่ทั้งนี้ต้องจัดปริมาณให้เหมาะกับตัวเราด้วย
Plants based Food คืออะไร? ถ้าแปลตรงตัวเลยคืออาหารที่มาจากพืช ซึ่งจะแบ่งออกเป็น 5 กลุ่มหลักคือ
– ผลไม้
– ผัก
– พืชหัว (root vegetable) เช่น มันฝรั่ง มันเทศ แครอต
– ธัญพืช เช่น ข้าวโอ๊ต ควินัว ข้าวกล้อง แม้แต่เม็ดข้าวโพดก็จัดอยู่ในกลุ่มนี้
– ถั่วต่างๆ
แล้วควรทานแบบไหน? ง่ายๆเลยคือ เราควรจัดอัตราส่วนในการทานอาหารตามที่เคยได้ยินมาคือ ผัก 50% ธัญพืช 25% โปรตีน 25% ต่อมื้อ และอาจจะทานผลไม้ระหว่างมื้อเสริมเข้าไป แน่นอนว่าโปรตีนในที่นี้ก็คงหมายถึงเนื้อสัตว์ แต่ถ้าคุณจะปรับมาทานโปรตีนจากถั่วอย่าง เต้าหู้ เทมเป้ หรือ ถั่วแบบต่างๆเสริมเข้าไปแทน ส่วนชนิดของผัก ผลไม้ และ ธัญพืชขึ้นอยู่กับขอจำกัดของแต่ละบุคคลด้วย อย่างคนที่มีภาวะน้ำตาลในเลือดสูงก็ต้องเลี่ยงผลไม้ที่มีน้ำตาลมาก เป็นต้น
สำหรับเมนูอาหารนั้นเราสามารถนำมาปรับใช้กับเมนูอาหารไทยที่เราทานกันในชีวิตประจำกันได้ง่ายๆด้วยการเปลี่ยนวัตถุดิบเล็กน้อย อย่างเมนูแกงเลียงผักรวมที่เราคุ้นเคย ทางศูนย์เวลเนสวีแคร์เซ็นเตอร์ เขาใช้กะปิเจมาตำเครื่องแกงทนกะปิเคย หรือน้ำสต็อกผักที่ต้มจากเปลือกข้าวโพด หัวไช้เท้า และ ใบหม่อน ได้เป็นน้ำซุปหอม หวานน้ำผักสำหรับนำไปทำอาหารจานอื่นๆได้หลายหลาย หรือ ใช้ในการผัดอาหารแทนน้ำมันพืชที่เรียกกันว่าผัดน้ำ ส่วนการปรุงรสก็ใช้ซีอิ๊วโซเดียมต่ำ เกลือหิมาลัย และน้ำผึ้งเป็นต้น ส่วนอาหารจานเส้นอย่างผัดไทยก็ใช้ฟองเต้าหู้ตัดเป็นเส้นยาวแทนเส้นจันท์ และ น้ำผัดไทยมีหอมหัวใหญ่ และ มะเขือเทศเป็นวัตถุดิบหลัก
เรียกว่าแทบไม่ต่างจากการทานเจ หรือ มังสวิรัติเลยเพียงแค่ปรับการทานโดยลดแป้งขัดขาวลง ลดโซเดียม และ รสหวาน ซึ่งรสหวานนี้คือการงดน้ำตาลโดยใช้รสหวานจากธรรมชาติ อย่างเมนู เต้าหู้ทอด(ใช้หม้อลมร้อน) จิ้มน้ำจิ้มอินทผลัมผลไม้รสหวานสามารถนำไปบด หรือ ปั่นผสมกับเมนูของหวานอย่างเค้ก ขนมปังแทนน้ำตาลทรายได้
แต่คนที่ทาน Plants Based Foodก็ไม่ใช่ว่าจะไม่ทานเนื้อสัตว์หรือผลิตภัณท์จากเนื้อสัตว์เลยทีเดียว เพราะยังมีหลายคนทานไข่ไก่ เนื้อปลา เนื้อไก่ แม้แต่เนื้อหมูและเนื้อวัวแต่เน้นเนื้อไม่ติดมันเป็นหลักอยู่เพียงแต่อาจจะไม่บ่อยนักเมื่อเทียบกับคนที่ทานอาหารแบบทั่วไปเท่านั้น ซึ่งผลพลอยได้จากการทานอาหารแบบนี้คือ ช่วยลดความเสี่ยงของโรคบางโรคเช่น เบาหวาน ไขมันและคอเลสเตอลอนสูง การควบคุมน้ำหนัก และถ้าคุณเป็นคนที่ออกกำลังเป็นประจำแล้วก็จะช่วยให้คุณมีสุขภาพที่ดีห่างไกลจากโรคต่างๆมากยิ่งขึ้น
ขอขอบคุณ
Wellness We care Center
204/39 หมู่ 5 ตำบลมิตรภาพ
อำเภอมวกเหล็ก จังหวัดสระบุรี 18180
www.wellnesswecare.com