Customize Consent Preferences

We use cookies to help you navigate efficiently and perform certain functions. You will find detailed information about all cookies under each consent category below.

The cookies that are categorized as "Necessary" are stored on your browser as they are essential for enabling the basic functionalities of the site. ... 

Always Active

Necessary cookies are required to enable the basic features of this site, such as providing secure log-in or adjusting your consent preferences. These cookies do not store any personally identifiable data.

Functional cookies help perform certain functionalities like sharing the content of the website on social media platforms, collecting feedback, and other third-party features.

Analytical cookies are used to understand how visitors interact with the website. These cookies help provide information on metrics such as the number of visitors, bounce rate, traffic source, etc.

Performance cookies are used to understand and analyze the key performance indexes of the website which helps in delivering a better user experience for the visitors.

Advertisement cookies are used to provide visitors with customized advertisements based on the pages you visited previously and to analyze the effectiveness of the ad campaigns.

แบบครัวปิดสไตล์โมเดิร์น ทำอาหารหนักได้สบาย ไม่มีกลิ่นรบกวน

ฟังก์ชันใช้งานสำหรับห้องครัวมีอยู่ด้วยกัน 2 ประเภทนั่นก็คือ ครัวหนักและครัวแพนทรี ซึ่งหน้าที่ของครัวแต่ละแบบก็มีฟังก์ชันที่แตกต่างกันออกไป ครัวหนักเป็นครัวที่รองรับการทำอาหารหนักประเภท อาหารไทย จีน ซึ่งใช้ไฟแรงๆ บางบ้านกังวลเรื่องกลิ่นจึงออกแบบเป็นครัวปิดแยกออกจากพื้นที่ส่วนอื่นๆ ในขณะที่ครัวแพนทรีเป็นครัวที่รองรับการทำอาหารเบาๆ อย่างเช่น อาหารฝรั่ง ตุ๋น อบ รวมไปถึงการทำเบเกอรีที่ไม่ได้มีกลิ่นแรง

ครั้งนี้เราจะพาไปดูไอเดียการออกแบบห้องครัวภายในบ้านหลังหนึ่งซึ่งมีทั้งครัวปิดและครัวแพนทรี เรียกว่ารองรับฟังก์ชันการใช้งานครบถ้วนทุกประเภท เราไปดูแบบครัวและแนวทางการตกแต่งของเจ้าของบ้านหลังนี้กันเลย

จากบ้านเก่าที่มีอายุกว่า 30-40 ปี
โครงสร้างเดิมทรุดโทรมเสียหาย พื้นบ้านเสมอกับถนน ถูกเปลี่ยนกลายเป็นบ้านหลังใหม่ที่ตอบโจทย์ผู้อยู่อาศัยได้มากกว่าเดิม โดยคุณจั๊มนำเอา Pain Point มาปรับแก้เพื่อให้ที่นี่กลายเป็นบ้านที่สนองในเรื่องของฟังก์ชันใช้งานครบถ้วนสมบูรณ์และรองรับกับความต้องการของสมาชิกในครอบครัวได้เป็นอย่างดี

เจ้าของบ้านเล่าว่า “เมื่อก่อนบ้านทั้งสองหลังแยกกันมีรั้วกั้น หลังจากผมแต่งงานมีแพลนว่าจะสร้างบ้านใหม่ ตอนผมไปคุยกับสถาปนิกเขาเสนอไอเดียว่า บ้านพ่อแม่และน้องสาวมีแพลนจะสร้างใหม่ด้วยหรือเปล่า ผมบอกว่ามีแต่คิดว่าจะสร้างหลังนี้ให้เสร็จก่อนจะได้มีที่อยู่ระหว่างที่เรากำลังก่อสร้าง แต่สถาปนิกเขาแนะนำว่าลองคิดดูก่อนไหมว่า ถ้าเราสร้างหลังนี้ใช้เวลา 2 ปี ย้ายมาอยู่ที่นี่ บ้านข้างๆ ก็สร้างอีก 2 ปี เท่ากับว่าเราต้องอยู่กับฝุ่นทั้งหมด 4 ปี ผมเลยกลับมาปรึกษากับที่บ้านเลยตัดสินใจสร้างพร้อมกันเลย จากบ้านสองหลังที่อยู่แยกกันเรามีไอเดียว่าน่าจะสร้างให้บ้านสอดคล้องกันดีไหม มีเนื้อที่ให้สามารถแชร์กันได้ อย่างเช่น สวน โรงจอดรถ”

“ผมเอามาคุยกับสถาปนิกเพื่อกำจัด Pain Point ตรงนี้ออกไป มีโรงจอดรถที่ไม่จอดซ้อนกันแต่จอดเรียงกันแล้ว แต่ปัญหาต่อมาคือแล้วเราจะเอาสวนไปอยู่ตรงไหน เลยมาคิดต่อว่าไว้ตรงกลางเหมือนคอร์ทยาร์ดกลางบ้านน่าจะดี โดยให้สวนเป็นส่วนเชื่อมโยงระหว่างบ้านของผมและน้องสาวมีธรรมชาติกั้นกลางเวลาเรามองออกไปก็จะเห็นพื้นที่สีเขียวดูแล้วสดชื่นสบายตาครับ”

นอกจากนี้ฟังก์ชันใช้งานภายในบ้านยังเน้นเก็บของเป็นหลัก ออกแบบตู้บิลต์อินสูงจรดฝ้า เพราะเจ้าของไม่อยากให้มีฝุ่นบนหลังตู้ ซึ่งนี่ก็เป็นอีกหนึ่งปัญหาที่เขาเคยเจอตอนอยู่บ้านหลังเก่าเช่นกัน ส่วนดีไซน์ภายนอกออกแบบสไตล์โมเดิร์นคอนเทมโพรารี “บ้านของน้องสาวออกแบบเต็มพื้นที่ แต่ถ้าบ้านของผมออกแบบเหมือนกันจะดูอึดอัดและไม่สามารถทำสวนได้ ถ้าเรามองจากภายนอกจะเห็นว่าเหมือนตึก ยื่นไปข้างหน้าหน้าและหดเพื่อหลบให้มีพื้นที่สวน ห้องบางห้องถูกขยายออกไปอยู่บนที่จอดรถ บ้านหลังนี้ก็เลยมีรูปร่างเหมือนเลโก้หน่อยครับ ผมให้เนื้อที่บ้านหลังโน้นมากกว่าเพราะผมอยู่กับภรรยาแค่สองคนเอง”

พื้นที่ชั้นล่างประกอบไปด้วยห้องรับแขกที่เป็น Open Space มีทางเข้าบ้านสองทางคือทางด้านหน้าและด้านข้างห้องครัว “เรารวมเอาห้องรับแขกอยู่ร่วมกับห้องทานข้าว เพราะต้องการความโปร่งให้ทุกอย่างเชื่อมกันหมด แต่ในห้องทานข้าวถ้าอยากได้ความเป็นส่วนตัวก็เลื่อนเปิดปิดได้ ส่วนครัววางแผนให้มีสองจุด คือครัวแพนทรีและครัวหนัก” คุณจั๊มเลือกที่จะออกแบบห้องครัวหนักเป็นครัวปิดเนื่องจากกลัวเรื่องกลิ่น แมลง มด และหนู โดยทำเป็นประตูกระจกบานเลื่อนเพื่อให้ห้องครัวเป็นพื้นที่ที่ดูมิดชิดและเป็นสัดส่วน

“จะเห็นว่าระยะระหว่างห้องทานข้าวกับห้องครัวอาจจะดูไกลไปหน่อย ผมเลยออกแบบให้มีช่องตรงนี้เอาไว้สำหรับระบายลมและเป็นช่องจัดเสิร์ฟอาหาร อีกอย่างเป็นเคาน์เตอร์สำหรับนั่งกินอะไรเล็กๆ น้อยๆ ตรงนั้นได้เลย ส่วนสีหน้าบานชุดครัวผมเลือกสีน้ำเงิน Gentleman blue ชอบสีน้ำเงินอยู่แล้ว พอเห็นภาพจาก Pinterest ว่ามีคนใช้ครัวสีนี้ผมบอกสถาปนิกเลยว่าอยากได้ หาให้ผมได้ไหมเป็นหน้าบานไฮกลอสผิวแมทช์ ดีไซน์ครัวเป็นโมเดิร์นเพื่อให้เข้ากับสไตล์บ้าน มีฟังก์ชันเก็บของเยอะเน้นเป็นตู้บิลต์อินแบบชนเพดาน

สำหรับดีไซน์ครัวแพนทรีเป็นสีคนละโทนเลย เพราะถ้าเลือกสีขาวก็จะขาวไปหมด เลยเลือกหน้าบานสีดำเข้ามาตัด หน้าบานเป็นลามิเนตลายไม้สัก ส่วนพื้นที่ใช้งานตรงนี้เอาไว้สำหรับเตรียมอาหาร มีปาร์ตี้ ไม่อย่างนั้นทุกอย่างจะไปกองรวมอยู่ในครัว เราตั้งใจว่าเตรียมวัตถุดิบแล้วเอาเข้าไปทำในครัวหนัก อีกฟังก์ชันสำหรับครัวแพนทรีก็คือ เป็นมุมเตรียมเครื่องดื่มด้วยครับ”

เจ้าของ คุณจั๊ม-ธีรัตว์ ศรีกิจการ
ขนาดครัว 12 ตารางเมตร

wassukon

wassukon

ไม่ได้จบโดยตรงด้านออกแบบ แต่ฝันอยากเป็นสถาปนิกแล้วโลกก็เหวี่ยงให้มาเขียนงานด้านออกแบบเป็นสิบปี ตอนนี้เลยมีโลกส่วนครัวมากกว่าโลกส่วนตัวไปแล้ว