Wax Valley Candle Co. แบรนด์เทียนหอมแฮนด์เมด นำเรื่องเล่าสู่การแต่งบ้านด้วยกลิ่น

Wax Valley Candle Co. แบรนด์เทียนหอมแฮนด์เมด นำเรื่องเล่าสู่การแต่งบ้านด้วยกลิ่น

ความเพลิดเพลินใจชวนผ่อนคลายในช่วงเวลาที่ตัวเทียนเผาไหม้ กลิ่นหอมที่เอ้อระเหยอยู่ในห้องอีกชั่วขณะหนึ่งคือความสุขที่ชวนหลงใหลสำหรับคนที่ชื่นชอบในกลิ่นหอม ด้วยแรงบันดาลใจจากการท่องตลาด Art Market ที่ประเทศออสเตรเลีย

คุณหนึ่ง-อภิชาติ คชพัฒน์ทรัพย์ สั่งสมประสบการณ์ต่างแดนและเริ่มต้นเปิดหน้าต่างทุกบาน บรรเลงต้มไข ผสมกลิ่น และลองเท เพื่อเรียนรู้กระบวนการออกแบบเทียนหอมให้มีเอกลักษณ์ และส่งต่อเรื่องราวการเดินทางผ่านกลิ่นหอมไปยังดินแดนแห่งเทียนไข ถ่ายทอดประสบการณ์ชวนประทับใจที่ยากจะลืมภายใต้ชื่อ Wax Valley Candle เรื่องเล่าสู่การแต่งบ้านด้วยกลิ่น

Wax Valley Candle

การออกแบบผลงานจนเป็นที่จดจำไม่ใช่เรื่องง่าย เช่นเดียวกันกับการตั้งชื่อแบรนด์ขึ้นใหม่ที่อาศัยกระบวนการคิดอยู่นานพอสมควร ทั้งยังมีความท้าท้ายในการสื่อสารผ่านกลิ่นหอมเพื่อให้ผู้ใช้เข้าใจถึงความเป็นแบรนด์

Wax Valley Candle จึงเป็นชื่อที่สื่อถึงสิ่งที่แบรนด์ต้องการส่งมอบได้อย่างตรงไปตรงมา เป็นเหมือนดินแดนใหม่ของกลิ่นที่ชวนให้เราได้ลองจุดเพื่อสัมผัสประสบการณ์ความหอมน่าจดจำ และเดินทางเข้าสู่การผจญภัยใหม่พร้อมกลิ่นหอมทุกครั้งที่ได้จุดเทียน

เทียนหอมและการแต่งบ้านด้วยกลิ่น

เพราะความต้องการของแบรนด์คือต้องการให้ผู้รับเป็นมากกว่าลูกค้า แต่เป็นเหมือนเพื่อนผู้สร้างบรรยากาศและเดินทางไปด้วยกัน ผลงานเทียนหอมจึงเป็น Lifestyle Product เพื่อการแต่งบ้านด้วยกลิ่น ไม่ใช่แค่เพียงความหรูหราหรือภาพเทียนในสปาที่เคยคุ้นตาเท่านั้น และที่สำคัญต้องเป็นสินค้าที่ทุกคนใช้ได้ โดยยึดความเรียบง่ายและคลาสสิกไร้กาลเวลา เหมาะกับทุกโอกาสใช้งาน สามารถจัดวางไว้จุดไหนในบ้านก็ได้

เปรียบเหมือนการนำเอาบรรยากาศของเทียนแต่ละกลิ่นมาผูกเข้ากับเรื่องราวต่างๆ เช่น กลิ่น Bangkok เป็นส่วนผสมของลาเวนเดอร์ที่ให้อารมณ์ของการพักผ่อน และอบเชยเทศที่สื่อถึงความสนุกสนาน จึงกลายเป็นการโหยหาความสงบในเมืองที่วุ่นวาย หรือกลิ่น Roaster เพื่อสร้างบรรยากาศร้านกาแฟร้านโปรดในบ้าน และกลิ่น Library บรรยากาศการเดินเข้าห้องสมุดเก่าๆ ที่มีแสงสลัว

การออกแบบกลิ่นหอมที่มีเรื่องเล่าไม่เหมือนใคร

เพื่อให้ได้ประสบการณ์กลิ่นหอมไม่เหมือนใครนี่เอง ทุกผลงานจึงมาพร้อมการทดลองและเรียนรู้ไปพร้อมกัน มีจุดเริ่มต้นคือการออกแบบกลิ่นขึ้นจากเรื่องเล่าในแต่ละช่วงเวลา เช่น ช่วงหน้าฝนที่ต้องการกลิ่นออกโทนสมุนไพรและเย็นเหมือนช่วงเวลาหลังฝนตก ลำดับต่อมาคือการศึกษาข้อมูลของกลิ่นและความเข้ากันได้มาทดลองค้นหาอัตราส่วนที่เหมาะสม เพราะแต่ละกลิ่นมีลักษณะเฉพาะที่แตกต่างกันไป สะท้อนให้เห็นชัดเจนถึงความตั้งอกตั้งใจเพื่อผลงานออกมาสมบูรณ์ด้วยความเชื่อว่าประสบการณ์ของผู้ใช้เป็นสิ่งสำคัญที่สุด ทั้งยังใส่ใจในเรื่องของบรรยากาศ เทียนแต่ละกลิ่นจึงมาพร้อมเพลย์ลิสต์บทเพลงแนบไปด้วยกัน

ขั้นตอนสร้างสรรค์ที่มาพร้อมความใส่ใจ

การออกแบบเทียนหอมมาพร้อมโจทย์ที่แตกต่างและยาก ทั้งจากตัวผู้ออกแบบ จากความต้องการของตลาด และผลตอบรับจากลูกค้าซึ่งเป็นหัวใจสำคัญ เมื่อขมวดปมทุกอย่างเข้าด้วยกันและปรับให้เข้ากับทิศทางและรูปแบบของแบรนด์ที่ต้องการเชื่อมต่อกับเรื่องเล่า โดยที่อาศัยความพยายามในการออกแบบกลิ่น การออกแบบเรื่องราว ออกแบบแพ็กเกจ รวมไปถึงช่วงเวลาที่ต้องการสื่อสารถึงผลงานแต่ละชิ้นอย่างละเอียดลออเพื่อให้ผู้ใช้พร้อมเดินทางไปผจญภัยกับกลิ่นหอมด้วยกัน

กลิ่นหอมบำบัดจิตใจ กับส่วนผสมที่ดีต่อร่างกาย

ส่วนผสมหลักสำหรับเทียนที่ดีต่อร่างกายต้องใช้เป็นไขถั่วเหลืองธรรมชาติ เวลาจุดแล้วจะเป็นเขม่าดำน้อย เป็นมิตรต่อทั้งผู้จุดและสิ่งแวดล้อม น้ำเทียนมีความร้อนน้อย และที่สำคัญผู้ออกแบบยังตั้งใจใช้บรรจุภัณฑ์ที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ เช่น กระปุกอะลูมิเนียมหรือแก้ว เช่นเดียวกับการออกแบบคุณสมบัติของผลงานทุกชิ้นให้สอดคล้องกับเรื่องเล่าอย่าง Seasonal Essential Oil Diffuser Set ที่เปรียบเทียบชีวิตคนเรากับฤดูฝน หรือแม้แต่การดึงสรรพคุณของน้ำมันหอมระเหยมาประยุกต์เพื่อให้มีคุณสมบัติบำบัดผู้ใช้งาน เช่น Winter Blend เมื่ออากาศเปลี่ยนแปลงบ่อยกลิ่นนี้จะช่วยให้หายใจปลอดโปร่งและป้องกันการเจ็บป่วยได้ด้วย

ความละเอียดอ่อนสะท้อนผ่านการสร้างสรรค์ผลงานด้วยความตั้งใจ ที่สำคัญคือการไม่ยอมหยุดเพื่อพัฒนาผลงานชิ้นใหม่พร้อมความใส่ใจให้ผู้ใช้ได้รับสิ่งที่ดีที่สุด เช่นการร่วมงานกับแบรนด์ White Hat เพื่อให้ได้รูปพฤกษศาสตร์สื่อถึงส่วนประกอบในกลิ่นอย่างชัดเจนที่สุด เช่นเดียวกันกับการสร้างสรรค์ผลงานใหม่ล่าสุดอย่าง City Series Room Diffuser ก้านไม้หอมปรับอากาศที่เล่าเรื่องกลิ่นของเมืองตามจินตนาการด้วยรูปวาดจาก Monsty Planet มาช่วยสื่อสารความสนุกสนานและเป็นมิตรได้อย่างน่าประทับใจ