Design Kitchen & Home Uncategorized

Pinto งานออกแบบปิ่นโตที่ท้าท้ายความเคยชินโดย Labrador x Qualy


งานออกแบบที่ตั้งใจท้าทายปัญหาเดิมๆ ที่กลายเป็นความเคยชินไปแล้วของการใช้งานปิ่นโต ด้วยการสร้างความรับรู้ใหม่ให้กับปิ่นโตที่เราคุ้นตา ออกแบบให้ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นสมัยใหม่ ทั้งเข้าไมโครเวฟและแช่เย็นได้โดยไม่ต้องคอยเปลี่ยนถ่ายภาชนะ แถมปรับชั้นได้ตามสะดวก กลายเป็นดีไซน์เรียบแต่เท่ ชวนให้พกพาง่ายไปได้ทุกที่แบบไม่เคอะเขิน ออกแบบโดยคุณเอนก กุลทวีทรัพย์ จาก Labrador แบรนด์ไลฟ์สไตล์โปรดักส์ไทยที่สอดคล้องกับชีวิตประจำวัน เน้นเรื่องงานคราฟต์จากวัสดุธรรมชาติและไม่มองข้ามเรื่องความละเอียดลออในงานออกแบบ และคุณไจ๋-ธีรชัย ศุภเมธีกูลวัฒน์ จาก Qualy แบรนด์สินค้าไลฟ์สไตล์ที่ใส่ใจเรื่องความยั่งยืนด้วยแนวคิดที่ว่า Design for Sustainable World

Pinto งานออกแบบปิ่นโตที่ท้าท้ายความเคยชินโดย Labrador x Qualy

มี DITP เป็นพ่อสื่อแม่สื่อ

“เรารู้จักกันมานานแล้วล่ะ แต่ไม่มีโอกาสได้ร่วมงานกันเสียที จนมี DITP เป็นเหมือนพ่อสื่อแม่สื่อจัดโครงการ Collaboration ที่มีหลากหลายแบรนด์ตกลงคอลแลบกัน ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นให้เราได้ตกลงจับคู่ทำงานร่วมกัน” คุณธีรชัยเริ่มเล่าถึงที่มาที่ไป

“ตอนแรกที่ไจ๋มาชวนเรารู้รายละเอียดเพียงคร่าวๆ เรามีเวลาในการนำเสนอกรรมการน้อยมาก ถ้าเรามองถึงพื้นฐานของทั้ง 2 แบรนด์ ของ Qualy จะทำงานที่ค่อนข้างแมสคือทำเป็นจำนวนเยอะ แต่ของ Labrador เองจะค่อนข้างเป็นงานคราฟต์ ถ้าเราผลิตจำนวนเยอะมากๆ เราจะไปเจอกับกำแพงของสิ่งที่มันเป็น Mass Production ตรงกันข้ามกับ Qualy ตั้งแต่โครงสร้างการผลิต ชนิดวัสดุที่เลือกใช้” คุณเอนกเสริมต่อ

จุดร่วมของทั้ง 2 แบรนด์คือความยั่งยืน

“สิ่งที่ทั้ง 2 แบรนด์มีร่วมกันคือจุดยืนเรื่องความยั่งยืน เรามองว่าสิ่งที่เราผลิตออกมาต้องพาเราไปถึงเรื่องการใช้ชีวิตของผู้คนที่มากไปกว่าเพียงเรื่องวัสดุที่ยั่งยืนอย่างเดียว ความเรียบง่ายของการออกแบบคือ DNA ที่เราเห็นร่วมกัน” คุณธีรชัยพูดถึงสิ่งที่ทั้ง 2 แบรนด์มีร่วมกัน

“ด้วยความที่เรารู้จักกันมานานจึงเข้าใจเบื้องหลังการทำงานของกันและกัน ตั้งแต่วิธีการคัดเลือกวัสดุ ขั้นตอนทำงาน และวิธีออกแบบที่พิถีพิถันเพื่อให้ได้ผลงานที่พิเศษออกมา ไม่ใช่ว่าใครๆ ก็ทำงานแบบนี้ได้เพราะทุกอย่างเริ่มตั้งแต่แนวคิดซึ่งเป็นจุดร่วมที่เรามีเหมือนกัน จุดต่างจึงกลายเป็นเรื่องเล็ก แม้เราจะมีจุดเด่นที่ต่างกันแต่ความแตกต่างตรงนี้ยิ่งทำให้เราเสริมกันในแง่ของการทำงานได้ดี อย่างทาง Labrador ที่จะเน้นไปทางงานคราฟต์กับการดีไซน์รายละเอียดเรียบง่ายที่อยู่ในผลงาน ส่วนของ Qualy เองจะเน้นไปที่ฟังก์ชันการใช้งานอยู่เยอะ เพื่อหาว่าโปรดักส์ที่ดีต้องมีอะไรบ้าง มันจะแก้ Pain Point ของโปรดักส์อย่างไร ในเรื่องของสีสันความสวยงาม สัมผัสที่น่าใช้ และภาพลักษณ์ที่สะดุดตาจะเป็นส่วนสำคัญของ Labrador ” คุณเอนกกล่าว

ประชาธิปไตยในการทำงาน

“การเรียนรู้ข้อดีของกันและกันทำให้เราสามารถหาจุดร่วมตรงกันเพื่อผลงานที่ดีกว่าโดยไม่ลดทอนความสำคัญของสิ่งที่แต่ละฝั่งต้องการ เราอาจจะมองในมุมของเรามาตลอดซึ่งเมื่อผ่านการแก้ปัญหาร่วมกันยิ่งทำให้เรายกระดับผลงานของเราไปได้อีกขั้น” คุณธีรชัยกล่าวถึงการทำงานร่วมกัน

“ความท้าทายครั้งนี้คือการเรียนรู้กันและกัน เพราะเราทั้งคู่ต่างก็เคยมีทีมของตัวเองที่เราเป็นผู้นำมากที่สุดในทีมจากประสบการณ์ที่มากกว่า สิ่งสำคัญคือเราต่างมีประชาธิปไตยในการทำงาน เมื่อมาทำงานร่วมกันต่างคนต่างมีประสบการณ์ที่มากน้อยแตกต่างกัน ทำให้เราเรียนรู้เรื่องข้อจำกัดที่เราไม่เคยรู้มาก่อน มองหาความเป็นไปได้ในไอเดียที่เรานำเสนอไปเพื่อปรับส่วนที่แต่ละคนต้องการให้อยู่ในชิ้นงาน เป็นความท้าทายที่ได้ทำสิ่งใหม่ๆ ร่วมกัน

ปกติที่เราอยู่บรรยากาศการทำงานของเราเอง Labrador อยู่กับความเป็น Labrador ส่วน Qualy อยู่กับความเป็น Qualy จะมีสมดุลบางอย่างที่เราสามารถใช้เป็นมาตรฐานในการตัดสินใจได้ว่าสิ่งนี้เรียกว่าใช่ สิ่งนี้เรียกว่าไม่ใช่ แต่เวลาสมดุลของทั้งสองแบรนด์มาเจอกันมันทำให้เกิดความไม่สมดุล เพราะว่าด้วยโครงสร้าง วิธีการทำงาน การออกแบบ ความเข้าใจในวัสดุ และวิธีการผลิตที่คนละแบบกันเลย ทำให้เกิดเป็นสมดุลอันใหม่ขึ้นมา” คุณเอนกกล่าว

นิยามของคำว่าความยั่งยืนที่เป็นไปได้

“ตอนที่เราทำงานกันแรกๆ เราแทบจะไม่คุยกันเลยนะว่าเป็นไปไม่ได้ ไม่มีคำพูดนี้เลย มีแต่คำว่าเป็นไปได้ เพราะคำว่าโปรดักส์ที่เกี่ยวกับความยั่งยืนมันมีความหมายค่อนข้างกว้าง ขึ้นอยู่กับว่าเราเทียบกับอะไร” คุณเอนกเล่าอย่างอารมณ์ดี

คุณธีรชัยกล่าวเสริมว่า “ก่อนจะนำเสนองานเราต้องมาคิดว่าถ้าเราจะทำโปรเจ็กต์ร่วมกับแบรนด์ Labrador ที่เป็นงานหนังเราจะทำอะไรได้บ้าง เพราะการจะรวมงานคราฟต์กับงานอินดัสเตรียลไว้ด้วยกันมันมีความเสี่ยงบางอย่างอยู่ เพราะคราฟต์ทำจำนวนมากไม่ได้ ในขณะที่งานอินดัสเตรียลทำจำนวนน้อยแล้วจะไม่คืนทุน

ภาพรวมของความเป็นปิ่นโตคือการมีภาชนะหลายๆ ชิ้นรัดไว้ด้วยกัน ซึ่งเราสามารถลดความเสี่ยงไปได้ ในขณะเดียวกันสายหนังก็ยิ่งช่วยยกระดับพลาสติกไปอีกขั้น เพราะพลาสติกเกิดมาเพื่อฟังก์ชันเป็นหลัก ด้วยคุณสมบัติวิทยาศาสตร์ที่ชนะธรรมชาติได้ เมื่อเรามารวมกันก็ทำให้เข้าถึงคนหมู่มากได้ง่ายในราคาที่จับต้องได้”

ของใช้ที่ให้ความรู้สึกบวกกลับมา

 “เราไม่ได้คิดว่าปิ่นโตโลหะผิดปกติอะไร เพียงแต่ว่าเราตั้งใจให้ปิ่นโตเป็น Urban Items ที่เข้ากับไลฟ์สไตล์คนมากขึ้น เราสนใจเรื่องการออกแบบของใช้ที่ให้ความรู้สึกบวกกลับมา เป็นวิธีการทำงานของ Labrador ที่ให้ความสำคัญกับดีเทลซับซ้อนที่ซ่อนอยู่ภายใต้ดีไซน์เรียบง่าย บนพื้นฐานฟังก์ชันที่ยังดีที่สุดอยู่” คุณเอนกเล่า

งานออกแบบที่ท้าท้ายความเคยชินของปิ่นโต

“ถ้าเราพูดแค่ว่าถือปิ่นโตไปกินข้าวที่ออฟฟิศ ภาพของคนที่เดินหิ้วปิ่นโตสเตนเลสขึ้นรถไฟฟ้าจะให้ความรู้สึกแบบหนึ่ง เราอยากปรับภาพจำนี้ให้เหมือนการถือกระเป๋าหนัง ท้าท้ายความเคยชินของปิ่นโตที่ปกติมักจะต้องพกพาอย่างระมัดระวัง ด้วยการออกแบบวัสดุสมัยใหม่ที่เบาและทนต่อความร้อน มีหูหิ้วเป็นสายหนังนุ่มสบายมือ เหมือนเราสะพายกระเป๋าสวยๆ ใบหนึ่งที่ตอบโจทย์การใช้งานของปิ่นโต” คุณธีรชัยกล่าว

Pinto งานออกแบบปิ่นโตที่ท้าท้ายความเคยชินโดย Labrador x Qualy

Facebook.com/qualydesign/
Facebook.com/labradorfactorypage/

PINTO ปิ่นโตพร้อมหูหิ้วหนังแท้ ราคา 2,390 บาท
🛒ช่องทางการสั่งซื้อ
Website : https://bit.ly/2W8KOYx
Line Shop : https://bit.ly/3j4cTci
Lazada : https://bit.ly/3y2uaqr
Shopee : https://bit.ly/37Xilae


You Might Also Like...