Customize Consent Preferences

We use cookies to help you navigate efficiently and perform certain functions. You will find detailed information about all cookies under each consent category below.

The cookies that are categorized as "Necessary" are stored on your browser as they are essential for enabling the basic functionalities of the site. ... 

Always Active

Necessary cookies are required to enable the basic features of this site, such as providing secure log-in or adjusting your consent preferences. These cookies do not store any personally identifiable data.

Functional cookies help perform certain functionalities like sharing the content of the website on social media platforms, collecting feedback, and other third-party features.

Analytical cookies are used to understand how visitors interact with the website. These cookies help provide information on metrics such as the number of visitors, bounce rate, traffic source, etc.

Performance cookies are used to understand and analyze the key performance indexes of the website which helps in delivering a better user experience for the visitors.

Advertisement cookies are used to provide visitors with customized advertisements based on the pages you visited previously and to analyze the effectiveness of the ad campaigns.

รวม 10 ร้านเทียนหอม สร้างบรรยากาศให้บ้านน่าอยู่

ให้กลิ่นหอมเยียวยาจิตใจในช่วงที่ต้อง WFH จะมีอะไรดีไปกว่าการสั่งเทียนหอมแบรนด์ที่ใช่กลิ่นที่ชอบมาจุดสร้างบรรยากาศ เปลี่ยนมู้ดแอนด์โทนให้บ้านน่าอยู่ ผ่อนคลาย สบายๆ และมีชีวิตชีวามากขึ้น ตามเราไปดู 10 ร้านเทียนหอมแบรนด์คนไทยที่รวบรวมมาฝากด้วยกันเลย

10 ร้านเทียนหอมแบรนด์คนไทย

1. Aramo Aroma

ก่อนหน้านี้ @Kitchen ได้มีโอกาสพูดคุยกับ คุณปอน-นัฐฐิกรณ์ พันธุ์ยุรา เจ้าของแบรนด์ Aramo Aroma กันมาบ้างแล้ว นอกจากดีไซน์ของเทียนจะดูเรียบง่ายสไตล์มินิมอลแล้ว สิ่งที่ทำให้ใครหลายคนตกหลุมรักแบรนด์นี้น่าจะเป็นมีมตลกๆ กับเรื่องราวที่มักจะถูกถ่ายทอดผ่านการออกแบบและนำเสนอผ่านคอลเล็กชันต่างๆ จนกลายเป็นคาแรกเตอร์ที่ทำให้หลายคนจดจำ

อ่านเพิ่มเติม — Aramo Aroma แบรนด์เทียนหอมเติมเต็มความสุข

กลิ่นเทียนหอมก็มีให้เลือกหลากหลาย ตอบโจทย์ทุกความชอบของคนรักการแต่งบ้าน มีกิมมิกน่าสนใจคือการเลือกใช้ไส้ไม้ที่ให้เสียงเหมือนจุดฟืนในเตาผิง ออกแบบแก้วใส่เทียนดีไซน์เรียบง่าย เทียนหอมทำจากไขถั่วเหลือง ไม่ใช้พาราฟิน ไม่มีควัน ไม่มีสารพิษ และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม สำหรับกลิ่นที่แนะนำคือ เลมอนลาเวนเดอร์ ถือเป็นซิกเนเจอร์ของร้าน ช่วยเรื่องความเครียดและการนอนหลับ

IG : aramo.aroma
Facebook/ aramo.aroma.th

2. Klinfoong

เป็นแบรนด์ที่ทำให้เราตกหลุมรักตั้งแต่แรกเห็นเลยก็ว่าได้ ด้วยการเลือกใช้แพ็กเกจอย่างกระถางดินเผาทำมือ นอกจากจะดูมีเสน่ห์ไม่เหมือนใครแล้วยังสร้างความรู้สึกอบอุ่น น่ารัก และเป็นมิตรกับธรรมชาติอีกด้วยนะ สำหรับเทียนหอมของทางร้าน Klinfoong จะเป็นแบบ Made to Order เรียกได้ว่าพิถีพิถันในทุกขั้นตอนเลยล่ะ ตัวเทียนทำจาก Soy Wax ทำให้มีการเผาไหม้ที่สะอาด ไร้สารพิษ ปลอดภัยกับเด็กและสัตว์เลี้ยง ส่วนน้ำมันหอมระเหยของทางร้านก็จะเป็น Essential Oil + Fragrance Oil เป็น Clean Scent และ Phthalate-Free ตอนนี้ทางร้านมีให้เลือก 9 กลิ่นด้วยกัน

  • A Rainy Walk in Central Park ชวนให้นึกถึงเวลาฝนพรำ ผ่อนคลาย สงบ สดชื่น และอบอุ่น
  • A Cozy Fireside กลิ่นที่ทำให้นึกถึงการนั่งผิงไฟ ล้อมรอบกองไฟในหน้าหนาว เหมาะสำหรับคนที่ไม่ชอบกลิ่นหวานๆ แต่ชอบกลิ่นแบบเรียบโก้ สุขุมนุ่มลึก
  • A Warm Cup of Hazelnut Coffee เทียนหอมกลิ่นกาแฟที่ทางร้านบอกว่าไม่เหมือนกับที่ไหนแน่นอน มีกลิ่นหอมนัวจากถั่วเฮเซลนัต ฟุ้งๆ ละมุนแบบว่าหอมจนหิว (ทางร้านบรรยายไว้จนเราอยากกิน เอ้ยย!! อยากลองสั่งมาจุดในห้องบ้างน่ะค่ะ) ^^
  • Viennese Apple Strudel ทางร้านเปรียบเทียบกลิ่นนี้ว่าให้ทุกคนจินตนาการถึงกลิ่นของขนมชูร์โรส กลิ่นเนยวานิลลาโรยด้วยน้ำตาลซินนามอน ให้ความรู้สึกแบบ Fall-Winter อบอุ่นๆ
  • Ocean Air, Salty Hair เป็นหนึ่งในกลิ่นขายดีของทางร้าน ให้ความรู้สึกถึงกลิ่นหอมของเกลือทะเลและความสดชื่นๆ ผสมผสานกับกลิ่นดอกไม้อ่อนๆ อย่างมะลิ ลิลลี่แห่งภูเขา และความหวานนิดๆ จาก Tonka Bean ทั้งยังมีกลิ่นหอมจาก Essential Oil ที่สกัดมาจากส้มอีกด้วย (ทำไมรู้สึกเหมือนได้กลิ่นลอยมาเลยนะ)
  • A Mad Tea Party กลิ่นหอมสดชื่น ให้ความรู้สึกผ่อนคลายสบายๆ แบบ Fruity and Fresh
  • Clementine Popsicle สำหรับคนที่ชื่นชอบกลิ่นแนว Citrus สร้างความรู้สึกกระปรี้กระเปร่า สดชื่นและรีเฟรชสุดๆ
  • Hogwarts Library กลิ่นที่ทางร้านแนะนำให้ความรู้สึกเหมือนเราได้เข้าไปอยู่ในห้องสมุดเก่าแก่ที่มีหนังสือเป็นหมื่นเล่ม เหมาะสำหรับคนที่ต้องการความสงบและมีสมาธิไปกับการอ่านหนังสือ
  • A Holly Jolly Christmas เป็นกลิ่นพิเศษที่ทางร้านครีเอตขึ้นแต่ได้รับการต้อนรับอย่างล้นหลาม จนกลายมากลิ่นประจำร้านอีกหนึ่งกลิ่น ให้ความรู้สึกถึงช่วงเวลาคริสต์มาส กลิ่นต้นสนและลมเย็นบนภูเขา จากยูคาลิปตัสและผิวเลมอน ผสมผสานกับ Musky Pine Wood และแอปเปิลเขียวหวานๆ สดชื่นๆ

IG : klinfoong.official
Facebook/ klinfoong.official

3. Hom Fragrances

เป็นอีกหนึ่งแบรนด์เทียนหอมที่ผลิตจากไขถั่วเหลืองธรรมชาติ 100% เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม แบบที่จุดแล้วไม่ต้องกังวลเรื่องควันเทียน ไม่มีส่วนผสมของพาราฟิน ไม่มีเขม่าควัน และน้ำตาเทียนยังสามารถนำมาใช้ทาผิวเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นที่มีกลิ่นหอมจากเทียนที่แต่ละคนชื่นชอบได้อีกด้วย

โดยเทียนของทางร้าน Hom Fragrances จะมีให้เลือกหลากหลายกลิ่น (มากๆ) แบ่งออกเป็นหลายรุ่นด้วยกัน ทั้งแบบ Basic จะเป็นดีไซน์ขวดแก้วใสพร้อมฝาปิด แบบ Travel Tin เป็นกระป๋องอะลูมิเนียม สามารถพกพาได้สะดวก แบบ ECO Collection ที่เลือกใช้เป็นขวดเบียร์รีไซเคิล ซึ่งได้รับรางวัลการออกแบบจาก Chiangmai Design Awards, Demark 2015 (Design Excellence Award) Thailand และ G-Mark 2015 (Good design Award) Japan

IG : homfragrances
Facebook/ homfragrances

4. Fickle.lifestyle

ไม่พูดถึงคงไม่ได้กับแบรนด์เทียนหอมที่มาพร้อมแพ็กเกจจิงที่โดดเด่นและน่าสนใจมากเลยทีเดียว กับการออกแบบเทียนหอมพร้อมข้อความพิมพ์ลายลงบนหนังแท้ สามารถบอกความรู้สึกหรือสั่ง Custom บนฉลากเทียนได้ และเจ้าฉลากที่ทำจากหนังยังช่วยให้ถือได้สะดวก ไม่ร้อนมืออีกด้วยนะ ตัวเทียนทำจาก Soy Wax และใช้กลิ่นหอมจาก Premium Essential Oil 100% ปลอดภัยและช่วยบำบัด สร้างความรู้สึกผ่อนคลาย สบายๆ สดชื่น ทั้งยังไม่มีส่วนผสมของสารเคมี สำหรับเทียนหอมของทางร้านจะเป็นงานแฮนด์คราฟต์แบบสั่ง Made to Order มีด้วยกัน 4 กลิ่นคือ

  • Ya-Dom กลิ่นหอมเย็นๆ แบบยาดมที่คุณคุ้นเคย
  • Vanilla Ice กลิ่นหอมผ่อนคลายแบบวานิลลาเย็นๆ หวานๆ แต่ไม่เลี่ยน
  • Citrus Kicks กลิ่นหอมสดชื่นแบบผลไม้รสเปรี้ยวผสมผสานกับซีดาร์วู้ดและลาเวนเดอร์
  • Candy Crush กลิ่นหอมหวานแบบลูกอมลูกกวาดสมัยเด็ก

IG : fickle.lifestyle
Facebook/ ficklelifestyle

5. Ohana Scent

แบรนด์เทียนหอมที่พิถีพิถันและใส่ใจในทุกๆ องค์ประกอบตั้งแต่ชื่อแบรนด์ Ohana ที่เป็นภาษาฮาวาย แปลว่า “ครอบครัว” เพราะทางแบรนด์มองว่าลูกค้าทุกคนก็เหมือนครอบครัว จึงคัดสรรและทดลองใช้สินค้าด้วยตัวเองก่อนนำมาจำหน่ายเสมอ ตัวเทียนหอมทางร้านเลือกใช้เป็นไขถั่วเหลือง เพราะมีการเผาไหม้ที่สะอาด ไม่มีเขม่าดำ ไม่มีสารตกค้างที่เป็นอันตราย และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ใส่ความเข้มข้นของน้ำมันหอม (Essential Oil & Fragrance Oil) สูงสุดคือ 12% ทำให้กลิ่นมีความชัด

และอีกหนึ่งรายละเอียดที่ Ohana ให้ความสำคัญคือเรื่องของไส้เทียน เพราะถือเป็นองค์ประกอบหลักที่มีผลต่อการกระจายกลิ่น โดยเลือกใช้ไส้เทียนที่ทำจากฝ้าย 100% มีการถักที่แน่นทำให้เกิดควันน้อยมาก และใช้ 2 ไส้เทียนเพื่อให้ได้ประสิทธิภาพในการฟุ้งกระจายกลิ่นที่ดีนั่นเอง ในส่วนของกลิ่นที่เป็น Top Seller 4 กลิ่นนั้นประกอบไปด้วย

  • Hill Top เป็นกลิ่นที่มีมิติหลากหลาย โดดเด่นไม่เหมือนใคร ด้วยกลิ่นจากไม้จันทน์หอมและพันธุ์ไม้นานาชนิด ปรุงกลิ่นให้กลมกล่อมโดยแซมความสดชื่นของเลมอน และความสงบผ่อนคลายของดอกไม้ลงไป ทำให้กลิ่นนี้มีความเท่ ขรึม สดใส สงบและเย็นสดชื่น
  • Into the Woods ความหอมอบอุ่นจากชา เจือด้วยความสงบจากกลิ่นหอมของเปลือกไม้ ทำให้รู้สึกสงบ ผ่อนคลาย มีสมาธิ ให้ความรู้สึกเหมือนป่าหลังฝน หรืออยู่ท่ามกลางธรรมชาติที่สงบ มีน้ำตกไหลผ่าน
  • Good Morning สร้างความรู้สึกสดชื่น อารมณ์ดี เติมพลังบวกให้ชีวิต พร้อมรับวันใหม่ที่สดใส เป็นกลิ่นที่ผสมผสานความหอมโปร่งของดอกไม้ มีความสดชื่นจาก Citrus และความเย็นสบายจากพืชสมุนไพร
  • Golden Hour กลิ่นนี้มีความละมุน สงบ และมีเสน่ห์ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ด้วยกลิ่นหอมหวานอบอุ่นนุ่มลึกของไม้กับความหอมจากดอกไม้ มีกลิ่นวานิลลาอ่อนๆ ทำให้รู้สึกสงบและอบอุ่น ในขณะเดียวกันก็ให้ความรู้สึกหรูหรา มีระดับน่าสนใจ พร้อมทั้งช่วยสร้างบรรยากาศโรแมนติกในค่ำคืนที่แสนพิเศษอีกด้วย

IG : ohanascent
Facebook/ ohanascent

6. Sedar.w

แบรนด์เทียนหอมที่นำประสบการณ์ต่างๆ มาเรียงร้อยและถ่ายทอดเรื่องราวผ่านงานดีไซน์ในรูปแบบของกลิ่นที่ไม่เพียงแต่จะมีแพ็กเกจจิงที่เน้นดีไซน์ความเรียบง่าย แต่ยังอยากมอบช่วงเวลาพิเศษที่น่าหลงใหลให้ทุกคนรู้สึกผ่อนคลายไปกับเทียนหอมและรายละเอียดต่างๆ ที่ทางแบรนด์ใส่ใจและพิถีพิถันในการผลิต บอกเลยว่านอกจากการออกแบบจะสวยถูกใจคนที่ชอบสไตล์มินิมอลแล้ว ไม่ว่าวางมุมไหนของบ้านก็สวย Sedar.w ยังเลือกใช้วัตถุดิบที่ดีมีคุณภาพจากในประเทศและต่างประเทศแล้วนำมาออกแบบกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์และโดดเด่นไม่เหมือนใคร จนทำให้ใครหลายคนตกหลุมรักแบรนด์นี้กันเลยทีเดียว

IG : sedar.w
Facebook/ Sedar.Ww

7. Wax Valley Candle Co.

แบรนด์เทียนหอมแฮนด์เมดของคุณหนึ่ง-อภิชาติ คชพัฒน์ทรัพย์ ที่นำประสบการณ์ต่างๆ และส่งต่อเรื่องราวการเดินทางผ่านกลิ่นหอมต่างๆ ของแบรนด์ เช่น กลิ่น Bangkok เป็นส่วนผสมของลาเวนเดอร์ที่ให้อารมณ์ของการพักผ่อนและอบเชยเทศที่สื่อถึงความสนุกสนาน เหมือนเป็นการโหยหาความสงบในเมืองที่วุ่นวาย หรือกลิ่น Roaster ที่ช่วยสร้างบรรยากาศภายในบ้านให้เหมือนกับร้านกาแฟร้านโปรดของเรา กลิ่น Library ที่ทำให้เรารู้สึกเหมือนได้เดินเข้าห้องสมุดเก่าๆ ที่มีแสงสลัว

อ่านเพิ่มเติม — Wax Valley Candle Co. แบรนด์เทียนหอมแฮนด์เมด นำเรื่องเล่าสู่การแต่งบ้านด้วยกลิ่น

ด้วยความตั้งใจของแบรนด์ที่อยากให้ทุกคนเป็นมากกว่าลูกค้า คือให้กลิ่นเทียนหอมของ Wax Valley Candle Co. เป็นเหมือนเพื่อนผู้ช่วยสร้างบรรยากาศและออกเดินทางไปด้วยกัน เรียกได้ว่าใครอยากไปที่ไหนก็สามารถเลือกกลิ่นได้ตามที่ใจต้องการกันได้เลย สำหรับตัวเทียนเลือกใช้เป็นไขถั่วเหลืองธรรมชาติ จุดแล้วจะเป็นเขม่าดำน้อย เป็นมิตรต่อผู้ใช้และสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ทางแบรนด์ยังเลือกใช้บรรจุภัณฑ์ที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้อย่างกระปุกแก้วและอะลูมิเนียม

IG : waxvalleycandleco
Facebook/ waxvalleycandleco

8. Charay

เป็นแบรนด์เทียนหอมที่ถึงแม้จะมีให้เลือก 3 กลิ่นด้วยกัน แต่ก็ต้องบอกเลยว่าเป็น 3 กลิ่นที่ดีงามมากจริงๆ แถมยังมาพร้อมแพ็กเกจที่มีดีไซน์สวยงาม สีสันสดใส ตามเราไปดู 3 กลิ่นจากทางร้านกันเลยว่ามีอะไรบ้าง

  • NO.1 Northeastern ถือเป็นกลิ่น Best Seller ของทางร้าน ให้กลิ่นแบบหอมหวานชื่นใจ สดชื่นๆ จากส่วนผสมของ Pear, Freesia Rose, Amber Bergamot และ Musk
  • NO. 2 Charlestown ให้ความรู้สึกนุ่มๆ ของกลิ่นดอกไม้และผลไม้ ตัดกับความ Woodsy ด้วยส่วนผสมของ Watermelon, Jasmine, Peach, Marine Rose และ Wood
  • NO.3 Fenway Park กลิ่นที่ให้ความรู้สึกสดชื่นแบบเบอร์รีๆ จากส่วนผสมของ Blueberry และมีความเบาสบายๆ จากส่วนผสมของ White Tea   

IG : charay.bkk
Facebook/ charay.bkk

9. MR.Butler

เป็นอีกแบรนด์เทียนหอมของคนไทยที่มาพร้อมคอนเซ็ปต์น่ารักๆ และมีกิมมิกที่น่าสนใจมากเลยทีเดียว ความพิเศษคือเป็นเทียนหอมแบบ Tailor-Made ด้วยเจ้าของร้านมีอาชีพเป็น Butler และมีหน้าที่หลักคือการดูแลใส่ใจแขกที่มาเข้าพัก บวกกับความหลงใหลในกลิ่นและเครื่องหอมต่างๆ รวมไปถึงเทียนหอมด้วย จึงกลายมาเป็นจุดเริ่มต้นของ MR.Butler แน่นอนว่ากลิ่นต่างๆ ของแบรนด์ล้วนแล้วแต่ครีเอตขึ้นจากความพิถีพิถันอย่างแน่นอน

สำหรับกลิ่นของ MR.Butler นั้นมีให้เลือกมากกว่า 15 กลิ่นด้วยกัน แบ่งออกเป็น 3 หมวดง่ายๆ คือ Living Room, Bed Room และ Balcony ตัวเทียนจะมีส่วนผสมของ Wax 3 ชนิดด้วยกัน คือ Soy Wax, Bees Wax และ Coconut Wax เพื่อให้ได้เทียนที่มีคุณภาพมากที่สุด และสำหรับใครที่ตัดสินใจไม่ถูกจริงๆ ว่าจะเลือกกลิ่นไหนดีก็สามารถเข้าไปสอบถามเพิ่มเติมหรือดูรายละเอียดของกลิ่นต่างๆ กันได้เลย แต่ถ้าถามว่ากลิ่นไหนมาแรงที่สุดในตอนนี้คงต้องยกให้ Thousand and One ความหอมที่ลงตัวของ Rose & Oud กับกลิ่นไม้กฤษณาแบบเข้มข้น สไตล์ออเรนทอล ตัดด้วยกลิ่นกุหลาบหอมสด ช่วยลดความฉุนทำให้กลิ่นมีความหรูหราและกลมกล่อมลงตัว

IG : misterbutlercandle
Facebook/ Misterbutlercandle

10. Summerstuff.marine

ไหนมีใครตกหลุมรักแบรนด์นี้จากดีไซน์ที่แสนจะน่ารักเหมือนกับเราบ้างนะ อีกทั้งยังมีกลิ่นเทียนหอมให้เลือกเยอะมาก โดยเฉพาะคนที่ชื่นชอบกลิ่นที่มีความหอมละมุนๆ แบบขนมหวาน ถ้าจะบอกว่าเป็นเหมือนซิกเนเจอร์ของทางร้านก็คงไม่ผิดมากนัก ยกตัวอย่างเช่น Roasted Marshmallow กับกลิ่นหอมละมุนๆ เหมือนขนมวานิลลาที่ผสมผสานกับมะพร้าว Green Tea Spread กับกลิ่นชาเขียวที่มาพร้อมแพ็กเกจจิงขวดโหลแก้วน่ารักๆ

แต่นอกจากกลิ่นหวานๆ แล้วสำหรับใครที่ชื่นชอบความสดชื่นทางร้านก็มีให้เลือกหลากหลายเหมือนกันนะ ไม่ว่าจะเป็นกลิ่น Sunrise in Melbourne ที่ให้ความรู้สึกผ่อนคลาย ชวนให้นึกถึงกลิ่น Sea Breeze และมีกลิ่น Citrus ที่ให้ความรู้สึกสดชื่นๆ ผสมผสานอยู่ หรือจะเป็นกลิ่น Sun Kiss ที่ชวนให้นึกถึงเวลาไปนอนอาบแดด

IG : summerstuff.marine
Facebook/ Summerstuff-marine