ส่องครัว chef’s table ของเชฟอาร์ต-ศุภมงคล สวยเท่ได้ใจ
ชมครัวสวยคลาสสิก แฝงความเท่แบบมีกิมมิกสไตล์ Chef’s Table ของ เชฟอาร์ต-ศุภมงคล ศุภพิพัฒน์ เจ้าของเชฟเทเบิ้ลที่ตั้งใจมอบประสบการณ์การทานอาหารสุดพิเศษให้กับคนที่หลงใหลการทานอาหารชั้นเลิศภายใต้บรรยากาศสุดไพรเวท
ครัวหลังนี้เป็นครัวหลังที่ 2 ของเชฟอาร์ต ถูกสร้างใหม่ตั้งแต่เดือนกันยายนปีที่แล้ว เชฟอาร์ตเล่าย้อนกลับไปว่าเดิมทีพื้นที่ตรงนี้เคยเป็นสระน้ำมาก่อน เมื่อสร้างบ้านหลังนี้แล้วจึงถมดินให้กลายเป็นสนามหญ้า ตอนแรกไม่ได้วางแผนว่าจะทำครัว แต่ด้วยความที่ทำงานมากขึ้นจึงอยากขยับขยายครัวใหม่เพื่อรองรับการใช้งานที่มากขึ้นกว่าเดิม
ด้วยขนาดพื้นที่กว่า 50 ตารางเมตร ทำให้ครัวห้องนี้สามารถรองรับการใช้งานได้ครอบคลุม โอ่โถง โจทย์หลักคือเพื่อตอบสนองการใช้งานครัวแบบเชฟเทเบิล ซึ่งต้องมีทั้งฟังก์ชันที่ครบถ้วน ดีไซน์สวยงาม และสร้างความรู้สึกแบบไพรเวต โดดเด่นด้วยดีไซน์คลาสสิกเรียบหรู ใช้สีทองแดงเป็นหลักผสมผสานกับสีดำ ตัดด้วยลวดลายกราฟิกขาวสลับดำเท่ๆ ของพื้นห้อง ทำให้ครัวหลังนี้เต็มไปด้วยเสน่ห์และดูมีพลัง ฟังก์ชันการใช้งานถูกแบ่งพื้นที่ออกเป็น 3 ส่วน ได้แก่ ครัวร้อน ครัวเย็น และพื้นที่สำหรับนั่งทานอาหาร
ส่วนของครัวร้อนดีไซน์เคาน์เตอร์ขนาดยาวชิดผนัง เว้นระยะห่างระหว่างเคาน์เตอร์และไอส์แลนด์ประมาณเมตรกว่าเพื่อให้สะดวกเวลายืนทำครัว เชฟพยายามเลือกใช้อุปกรณ์ที่ไม่เยอะมาก แต่ครอบคลุมการทำงานทั้งหมด ไล่ตั้งแต่อ่างล้างจาน เตาแก๊สแรงดันสูง เครื่องซูวีด เตาอบ Rational เตาย่าง และฮอตเพลตที่กระจายความร้อนได้สม่ำเสมอ ซึ่งเป็นเตาที่เชฟอาร์ตใช้ทำตัวซิกเนเจอร์ของร้านอย่างรีซอตโต และยังมีเตาคู่สำหรับทำอาหารไทยจีนได้ เรียกว่าออกแบบมาได้ลงตัวทั้งหมด นอกจากนี้ยังมีเครื่องดูดควันออกแบบให้เป็นบานสเตนเลสสีดำสวยงาม มองดูคล้ายตู้เก็บของแต่ซ่อนฟังก์ชันตัวดูดควันไว้ได้อย่างแนบเนียน
ผนังครัวโดดเด่นด้วยกระเบื้องลวดลายทองแดง
“สำหรับห้องครัวนี้เราได้นำประสบการณ์ที่เคยเปิดร้านอาหาร บวกกับประสบการณ์ทำงานในโรงแรมมาใช้ให้เป็นประโยชน์ พูดง่ายๆ คือครัวนี้ใช้ระบบแบบเดียวกันกับร้านอาหารเลย ทั้งการสต๊อกของ การบริหารจัดการ แต่เพิ่มเรื่องดีไซน์ครัวให้สวยงามตามสไตล์ที่เราชอบให้บรรยากาศเหมือนอยู่ในบ้าน พอทำออกมาแล้วฟังก์ชันต่างๆ ก็สามารถตอบโจทย์ได้ดีเลย ใช้งานหนักได้สบาย”
จุดเด่นที่น่าสนใจคือตัวไอส์แลนด์กลางห้องที่เลือกทอปด้วยหินแกรนิตจากอิตาลี โดดเด่นด้วยลวดลายสวยงามเป็นเอกลักษณ์แบบหินธรรมชาติ ด้านหนึ่งใช้เป็นที่สำหรับเตรียมอาหาร อีกด้านเป็นที่นั่งสำหรับทานอาหารซึ่งรองรับได้มากสุดถึง 12 ที่นั่ง นอกจากนี้ยังเลือกปิดเคาน์เตอร์ด้านล่างด้วยกระจกสีคอปเปอร์เพิ่มความหรูหรา พื้นที่เหนือไอส์แลนด์ต่อเติมให้มีชั้นวางทองแดงขนาดใหญ่ห้อยลงมาสำหรับเก็บของ และวางเครื่องปรุงต่างๆ ส่วนด้านล่างสามารถใช้ประโยชน์ได้มากขึ้นด้วยการออกแบบให้เป็นตู้เย็น และยังซ่อนฟังก์ชันที่เก็บของขนาดใหญ่เอาไว้อีกด้านหนึ่งด้วย
ทอปเคาน์เตอร์ไอส์แลนด์ทำมาจากหินแกรนิตลวดลายธรรมชาติสีดำเหลือบทองสั่งทำพิเศษเพื่อครัวชุดนี้โดยเฉพาะ
อีกฝั่งหนึ่งเป็นเคาน์เตอร์ครัวเย็นสำหรับเตรียมอาหารเบาๆ เช่น สลัดผัก และขนมต่างๆ ด้านบนทอปด้วยหินแกรนิตสวยงามเข้ากันได้ดีกับไอส์แลนด์กลางห้อง ด้านล่างยังซ่อนฟังก์ชันตู้เก็บของและตู้เย็นไว้อำนวยความสะดวกเวลาจัดงานสังสรรค์ในห้องได้อีก เรียกว่าทุกอย่างสามารถตอบโจทย์การใช้งานของเชฟได้อย่างสมบูรณ์แบบทีเดียว
ด้านล่างไอส์แลนด์ซ่อนไฟ LED เพื่อเพิ่มความสวยงามให้กับผิวกระจกทองแดง
ถัดจากบริเวณเคาน์เตอร์จะเป็นประตูสเตนเลสบานสไลด์สีทองแดงขนาดใหญ่ สะท้อนให้เห็นถึงความหนักแน่นและเรียบง่ายของครัวซึ่งตอบรับกับการออกแบบส่วนต่างๆ ในห้องครัวได้อย่างพอดี ทุกๆ องค์ประกอบเชฟอาร์ตใส่ใจทุกรายละเอียด แม้กระทั่งจานชามและข้าวของเครื่องใช้ทุกชิ้นในครัว ไม่ต่างกันกับอาหารแต่ละเมนูที่เชฟอาร์ตพิถีพิถันทุกขั้นตอน บวกกับประสบการณ์ที่สั่งสมมาอย่างยาวนาน ส่งผลให้ทุกจานนับเป็นผลงานมาสเตอร์พีซที่น่าหลงใหล รอคอยให้ทุกคนไปสัมผัสด้วยตัวเอง เหมือนที่เชฟบอกกับเราว่า
“ผมว่าห้องครัวสะท้อนความเป็นตัวผมเอง คัดสรรและใส่ใจในการเลือกพวกอุปกรณ์ต่างๆ สไตล์คลาสสิก มองอย่างไรก็ไม่เบื่อ พอยิ่งเก่ามันก็จะยิ่งเท่ ผมเชื่อว่า Classic Never Die ครับ”
ขอขอบคุณ : Chef’s table by Chef ART