บ้าน…จุดเริ่มต้นเล็กๆ ที่ทำให้เราได้เห็นความเป็นครอบครัว สัมผัสได้ถึงอารมณ์ความรู้สึกที่คละเคล้าไปด้วยความสุข เศร้า เหงา หัวเราะผสมปนเป บ้าน…ยังทำให้มองเห็นถึงชีวิตอยู่ในนั้นซึ่งเต็มไปด้วยบทสนทนา ถ้อยคำปลอบประโลม อ้อมกอดที่ให้กำลังใจกันและกัน จะว่าไปแล้ว…บ้านเปรียบเหมือนกล่องใบใหญ่ที่บรรจุเรื่องราว เรื่องเล่าของคนในครอบครัวอันหลากหลาย โดยเขาเหล่านั้นสามารถแบ่งปันและเป็นตัวของตัวเองได้อย่างสบายใจ
ภาพของความวุ่นวายบนถนนสายหนึ่งในกรุงเทพฯ ที่คลาคล่ำไปด้วยการจราจรแน่นขนัด ค่อยๆ เงียบสงบ บรรยากาศแตกต่างราวกับโลกอีกใบ ซึ่งบ้านหลังที่เราไปถ่ายทำในครั้งนี้เป็นบ้านของคุณพร้อมและคุณเก๋-ชลลดา สิริสันต์
ความน่ารักดูเป็นธรรมชาติ และการต้อนรับอย่างเป็นกันเองของทั้งคู่ ไม่เพียงทำให้เราและทีมงานรู้สึกผ่อนคลาย แต่ยังมีสุนัขแสนรู้หน้าตาจิ้มลิ้มอย่างเปาะเปี๊ยะ ปอมปอม และป๊อปปี้ วิ่งกรูออกมาทักทายช่วยสร้างความครึกครื้นให้วันนี้สนุกสนานมากยิ่งขึ้น หลังจากพูดคุยกันสักพักคุณเก๋ก็พาเราเดินสำรวจพื้นที่ภายในบ้าน ก่อนจะเริ่มบทสนทนาแบบสบายๆ ถึงจุดเริ่มต้นของบ้านหลังนี้
คุณพร้อมเล่าให้ฟังว่า เมื่อก่อนเขาเคยมีบ้านหลังหนึ่งอยู่ในละแวกนี้ แต่หลังจากทั้งคู่แต่งงานจึงเริ่มหาบ้านเพื่อให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์ และยังต้องคำนึงถึงที่อยู่อาศัยที่สามารถเลี้ยงสุนัขได้ เพราะฉะนั้นโจทย์ในการหาบ้านหลังใหม่นอกจากจะเลี้ยงสุนัขได้แล้ว ยังต้องอยู่ในเมืองเดินทางได้สะดวก จนกระทั่งบ้านที่อยู่ในโครงการแห่งนี้ประกาศขายในช่วงโควิด คุณพร้อมจึงตัดสินใจซื้อแบบไม่รีรอ เนื่องจากเป็นโครงการที่เขาชอบและอยากได้มาตลอด นับเป็นความโชคดีที่สุดท้ายแล้วได้บ้านที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการ
“ที่นี่เป็นโครงการที่ออกแบบโดยสถาปนิก Robert Boughey ซึ่งผมชอบผลงานเขามาก เป็นบ้านที่ออกแบบโดยไม่เห็นเสาเลย ทุกอย่างอยู่ในโครงสร้างของกำแพงทั้งหมด อย่างบริเวณคอร์เนอร์ตรงห้องนั่งเล่นที่เชื่อมกับสระว่ายน้ำก็ไม่เห็นเสา กลายเป็นคอร์เนอร์ที่ทำให้เราเล่นอะไรได้ค่อนข้างเยอะ อีกอย่างที่ผมชอบคือ เขาเมนเทนฯ ทุกอย่างรวมถึงคอนโทรลสภาพแวดล้อมได้ดีมากๆ แต่ภาพลักษณ์ของบ้านตอนนั้นอายุกว่า 15 ปีมีอะไรที่ต้องปรับเปลี่ยนเยอะ ช่วงแรกๆ ผมยังคุยกับคุณเก๋ว่าเราจะปรับแบบนิดหน่อยหรือเปลี่ยนทั้งหมดเลย แต่ทีมดีไซเนอร์ที่เข้ามาช่วยในการรีโนเวตบ้านครั้งนี้เขาแนะนำว่า ถ้าจะทำให้ดีควรเริ่มใหม่เลยดีกว่า กลายเป็นว่าเราตัดสินใจทุบทุกอย่างจนไม่เหลือเค้าเดิมเลย”
หลังจากที่เริ่มการรีโนเวต คุณพร้อมเล่าย้อนถึงเหตุการณ์ในวันนั้นที่เขาถึงกับอุทานด้วยความรู้สึกตกใจว่า “เราทำอะไรกับบ้านหลังนี้ไปเนี่ย เพราะเราทุบโครงสร้างภายในทุกอย่างจนไม่เหลือเค้าเดิมเลย จากชั้นล่างที่เคยมีชั้นลอย เราเอาชั้นหนึ่งออกแล้วสร้างบันไดใหม่ ปรับจาก 8 ชั้นเหลือ 7 ชั้น เรียกว่าเลย์เอาต์ไม่เหมือนแบบที่เห็นอยู่ในตอนนี้เลยครับ จุดที่เหมือนก็คือแต่ละชั้นเป็นครึ่งสเตปที่คล้ายกับต้นไม้แตกกิ่งไปเรื่อยๆ”
คุณพร้อมอธิบายถึงการเปลี่ยนฟังก์ชันบริเวณห้องนั่งเล่นใหม่จากที่เคยมีชั้นลอยถูกปรับให้เป็นห้องนั่งเล่นโล่งๆ เพราะต้องการสร้างพื้นที่ให้ใหญ่และดูโอ่อ่ามากยิ่งขึ้น พื้นที่บริเวณนี้ยังเชื่อมต่อกับสวนเอาต์ดอร์มีมุมนั่งเล่นเล็กๆ อยู่บริเวณสระว่ายน้ำ คุณเก๋อธิบายเพิ่มเติมถึงการใช้งานในโซนนี้ว่า “เรามักจะจัดโต๊ะสำหรับปาร์ตี้กันตรงนี้ นั่งดื่ม ทำบาร์บีคิว อย่างที่คุณพร้อมบอกว่าอยากให้พื้นที่ภายในกับภายนอกเป็นพื้นที่เดียวกัน จากตอนแรกที่คิดว่าเป็นพื้นที่สำหรับรับแขก แต่มุมนี้กลายเป็นมุมที่เราอยู่มากที่สุดด้วย”
“ใช่ครับ นอกจากเราตั้งใจให้ชั้นล่างเป็นพื้นที่กึ่ง Formal Entertainment Area แล้วเรายังใช้เวลาหลังกลับจากทำงานเล่นกับเด็กๆ นั่งดูทีวีโดยตำแหน่งทีวีถูกจัดวางไว้อยู่ใต้บันได อยากให้ดูไม่ออกว่าเป็นทีวี ผมเลยหารูปแบบที่มีดีไซน์เหมือนกรอบรูป ส่วนมู้ดแอนด์โทนสำหรับชั้นล่างอยากให้สีดูเป็นธรรมชาติเบลนด์ไปกับสีภายนอกซึ่งเป็นสีเอิร์ธโทน กลายเป็น 3 สีหลักที่ใช้ในการทำบ้านมีสีน้ำตาล เทา ขาว สีน้ำตาลเป็นสีเบส สีไม้ธรรมชาติ เพราะเราเชื่อว่าสีสันสามารถนำเข้ามาตกแต่งได้ทั้งจากรูปภาพ ของประดับบนโต๊ะ แจกัน ปลอกหมอน ถ้าเราเลือกใช้ของตกแต่งที่เป็นสีพาสเทลมาแล้ว 2-3 ปี หากเบื่อก็เปลี่ยนมู้ดให้เป็นสีอื่นได้ พยายามให้เบสเป็นสีโมโนโทน ส่วนที่เหลือเราปรับมันได้ ในทางกลับกันหากเราเพนต์บ้านสีแรงๆ ไปแล้ว ถ้าเบื่อมันเปลี่ยนไม่ได้ ผมเลยสร้างเบสไลน์ให้ดูโมโนโทนมากที่สุด”
“คุณพร้อมน่ารักมาก ตอนเราทำบ้านจะมีอัลบั้มใน Pinterest ให้เก๋ ชอบอะไรก็เอามาใส่ แล้วเขาหาของเก่งมากทั้งรูปภาพที่เป็นสีพาสเทลซึ่งเป็นดีไซน์แบรนด์จาก Chanintr คุณพร้อมพยายามทำบ้านให้มีความเป็น Feminine สำหรับเก๋ด้วย หรืออย่างชิงช้าที่ตอนแรกพูดกันเล่นๆ ว่าถ้าบ้านมีชิงช้าคงน่ารักดีเนอะ ดูเป็นแบบผู้หญิง สุดท้ายแล้วคุณพร้อมก็ทำให้จนได้ ส่วนของตกแต่งอื่นๆ ภายในบ้านเกี่ยวข้องกับเรือและทะเล เพราะเราเป็น Animals Lover มีภาพติดผนังใต้ท้องทะเล เฟอร์นิเจอร์เก้าอี้ที่เป็นรูปหางปลาวาฬ รวมถึงรูปภาพตรงประตูด้านหน้าก็เป็นธงที่อยู่ในเรือใบ” คุณเก๋อธิบายเพิ่ม
“ผมมีบ้านอยู่ที่พัทยา บางครั้งเสาร์อาทิตย์ก็ไปอยู่ที่นั่น แต่พอกลับมากรุงเทพฯ ยังอยากให้ความรู้สึกเหมือนวันหยุดพักผ่อน แล้วผมเป็นคนชอบกีฬาทางน้ำเลยได้ไอเดียจากบ้านทะเลมาผสมผสานกับบ้านที่นี่ เพื่อจะได้เกิดความผ่อนคลาย อีกไฮไลต์ของบ้านหลังนี้คือแชนเดอเลียร์ที่สามารถดึงขึ้นดึงลงได้ โดยผมนำเทคนิคและเชือกเหมือนกับที่เขาใช้ในการเล่นเรือใบมาออกแบบ”
การทำบ้านครั้งนี้นับเป็นโปรเจ็กต์ใหญ่ที่คุณพร้อมและคุณเก๋ได้แบ่งปันไอเดียร่วมกัน รวมถึงการคิดถึงการออกแบบที่อยู่อาศัยที่รองรับการใช้งานในอนาคต “ดีไซน์ครั้งนี้เราอยากให้มัน Future Proof กับอนาคต พยายามทำบ้านให้อยู่ได้ในระยะยาว แล้วก็มีไดนามิกที่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ค่อนข้างเยอะ อย่างเช่น ตรงฝ้ามีตะขอสำหรับแขวนชิงช้า หรือมี Reeling ที่รองรับน้ำหนักได้ถึง 200 กิโลกรัม เพื่อเราสามารถตกแต่งอะไรก็ได้ให้มีไดนามิกตลอดเวลา ทำให้บ้านที่เราอยู่สามารถ Interact กับมันได้”
หากพูดถึงดีไซน์โดยรวมคุณพร้อมบอกว่าเป็นสไตล์โมเดิร์นสแกนดิเนเวียน นอกจากนี้ยังชอบอะไรที่ดูมินิมอล คลีนๆ มีความลักซ์ชัวรีได้แบบไม่ต้องตะโกน เพราะฉะนั้นเราจะเห็นรายละเอียดของวัสดุที่ดูลักซ์ชัวรีในบางจุด แต่เหนือสิ่งอื่นใดนอกจากดีไซน์สวยแล้วฟังก์ชันต้องตอบสนองกับการอยู่อาศัย รวมถึงรูปแบบของการจัดเก็บที่ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับกับจำนวนของที่ถูกเก็บไว้ตามตู้เก็บของซึ่งอยู่ในทุกๆ ห้อง ทุกๆ โซน
ห้องครัวเป็นอีกหนึ่งไฮไลต์สำหรับที่นี่ นับเป็นห้องแรกๆ ที่คุณพร้อมออกแบบ เนื่องจากเขาให้ความสำคัญและใส่ใจมากเป็นพิเศษ ไม่เพียงคำนึงถึงความสวยงามแต่ต้องใช้งานได้จริง ตอบโจทย์และอำนวยความสะดวกในการทำอาหาร “ห้องครัวเป็นห้องที่เราใช้บ่อยที่สุด เพราะว่าผมชอบทำอาหาร ยิ่งในวันหยุดเราจะชอบความรู้สึกในช่วงอารมณ์ตอนเช้าๆ มานั่งอยู่ตรงห้องครัว ทำอาหารเช้าง่ายๆ ทำไข่ ทำแพนเค้ก ผมทำอะไรไม่ยาก เรียบง่ายแต่ชอบทำให้เพอร์เฟกต์
“สำหรับแนวคิดในการออกแบบห้องครัวล้อไปกับสไตล์บ้านที่ดูโมเดิร์น แต่เราต้องการให้พื้นที่รอบๆ ดูเป็นธรรมชาติ เราเลยเลือกคอนทราสต์ระหว่างพื้นไม้สีอ่อนกับชุดครัวสีเทาเข้ม และพยายามเลือกมือจับที่บางและเนี้ยบที่สุด ตอนแรกเราดูเป็นสเตนเลสสตีลเป็นเมทัลลิก แต่กังวลกลัวเรื่องการขูดขีดง่าย สุดท้ายจึงเปลี่ยนมาเป็นสีเทาเข้มสไตล์โมเดิร์น เพื่อที่จะได้อยู่กับเราได้นานๆ เป็นคอนเซ็ปต์ที่ Very Modern Very Clean
“เพราะฉะนั้นองค์ประกอบอื่นๆ อย่างอ่างล้างจาน ฟองน้ำ ผ้าเช็ดมือเป็นสีดำทั้งหมด เพื่อให้ทุกอย่างดูเข้ากัน ผมว่ารายละเอียดตรงนี้มันสำคัญ ยิ่งบ้านแบบนี้การเลือกอะไรเข้ามาตกแต่งต้องไม่ให้เกิดความรู้สึกสะดุดตา ส่วนฟังก์ชันครัวก็สำคัญ เพราะระหว่างที่ผมทำอาหารก็อยากจะคอนเน็กต์กับแขก ผมรับแขกบ่อย ดังนั้นไอส์แลนด์ต้องสามารถเดินได้รอบ แล้วก็มีมุมสำหรับ Breakfast Counter ที่นั่งตรงข้ามกันได้ เรื่องของปลั๊กก็เป็นอีกหนึ่งอย่างที่ผมใช้วิธีร้อยช่องสายไฟ Grommet นอกจากจะเป็นระเบียบแล้วยังไม่รู้สึกเกะกะสายตา”
ฟังก์ชันลำดับถัดจากห้องครัวคือห้องยิม เป็นอีกหนึ่งห้องที่ผ่านการคิดมาค่อนข้างเยอะ ด้วยความที่คุณพร้อมและคุณเก๋รักสุขภาพและชอบออกกำลังกาย จึงออกแบบให้มีห้องยิมเล็กๆ นอกจากจะรองรับการออกกำลังกายแล้วยังเป็นเพลย์รูมของทั้งคู่ด้วยเช่นกัน “ผมออกกำลังกายใช้บอดี้เวทก็เลยต้องมีสิ่งที่ช่วยอำนวยความสะดวก ผมจึงทำบีมไว้ด้านบนสำหรับแขวนยิมนาสติกริง โดยเราพยายามออกแบบห้องนี้ไม่ให้ดูจริงจังเกินไป และทำเป็น Sculpture เหมือนอาร์ตพีซชิ้นหนึ่งให้ดูเป็นส่วนหนึ่งของบ้านที่ยังคงใช้งานได้จริง
“ถัดมาอีกห้องเป็นห้องสปาของคุณเก๋และเป็นห้องทำงานของผม ผมต้องการสเปซทำงานที่มีความ Fully Function มีความเป็นส่วนตัวและสามารถทำให้ผมทำงานได้อย่างสะดวกสบาย นอกจากนี้แล้วเรื่องของแสงและการระบายอากาศก็สำคัญ ห้องนี้เป็นอีกหนึ่งห้องที่ได้รับแสงธรรมชาติเยอะมาก มี Quiet Zone ที่สามารถนั่งตรงโซฟาแล้วมองออกไปด้านนอกได้”
ชั้นสุดท้ายคือห้องนอนมาสเตอร์ถูกกำหนดตำแหน่งไว้อยู่ด้านบนสุด นอกจากจะให้ความรู้สึกที่เป็นส่วนตัวแล้วยังเหมือนเพนต์เฮาส์ที่อยู่บนอาคารแห่งนี้ ซึ่งห้องนอนเป็นแบบดูเพล็กซ์ 2 ชั้น มีส่วนที่เป็น Walk-in Closet และห้องน้ำอยู่อีกส่วนแต่ยังคงใช้งานได้อย่างต่อเนื่อง
บทสรุปของบ้านหลังนี้ไม่ได้อยู่เพียงแค่ความสวยงามจากภายนอก หากแต่เป็นความรักความอบอุ่นที่คุณเก๋และคุณพร้อมมอบให้กัน เพียงแค่พวกเขานึกและคิดถึงเรื่องราวที่ทำร่วมกัน ภาพความทรงจำก็ลอยฟุ้งอยู่รอบตัว ซึ่งทั้งหมดนี้คือองค์ประกอบที่เข้ามาเติมเต็ม เพราะบ้านไม่ใช่แค่ทำหน้าที่ปกป้อง แต่ทำให้มีพลังงาน มีความสุข เป็นที่หลบแดด หลบฝน หลบภัย บ้านยังเป็นพลังงานแห่งรัก เหมือนที่คุณเก๋ได้นิยามความหมายของบ้านไว้ว่า “Home Is Where the Heart Is ไม่ว่าไปไหนทำอะไรหัวใจเราอยู่ที่บ้าน ต่อให้เหนื่อยมาขนาดไหน พอรู้ว่ามีคนที่รออยู่เป็นพร้อมก็ยิ่งอบอุ่นใจ เพราะบ้านเป็นทุกอย่างสำหรับเราสองคน” ในขณะที่คุณพร้อมพูดถึงบ้านหลังนี้เมื่อเสร็จสมบูรณ์ด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้มว่า “ต่อให้ภายนอกจะวุ่นวายอย่างไร แต่ทุกอย่างเริ่มค่อยๆ สงบลง สำหรับผมมันคือสิ่งที่ผมกับคุณเก๋สร้างมาด้วยกัน เหมือนจิ๊กซอว์ชิ้นเล็กๆ ที่ค่อยๆ ปะติดปะต่อกลายเป็นบ้านในฝันที่เราสร้างร่วมกัน แล้วผมก็รู้สึกแฮปปี้มากๆ”
