เชื่อว่าใครหลายคนต้องเคยเห็นไอเดียการแต่งบ้านของคุณเมย์-ธัญวัลย์ สิริจีรณัฐ ผ่านตากันมาบ้างแล้วอย่างแน่นอน โดยเฉพาะคนที่อยู่ในกลุ่มงานบ้านที่รัก เพราะคุณเมย์มักจะนำเรื่องราวการแต่งบ้านของตนเองมาแชร์ให้กับคนอื่นๆ ที่ชอบแต่งบ้านเหมือนกันอยู่เสมอ
ด้วยโทนสีเขียวของบ้านที่โดดเด่น มองแล้วสบายตา ทั้งยังตกแต่งอย่างเรียบง่ายสไตล์มินิมอล แมตช์กับเฟอร์นิเจอร์งานไม้ให้ความรู้สึกอบอุ่นๆ ไม่ว่าใครเห็นเป็นต้องตกหลุมรักอย่างแน่นอน Home Idea ฉบับนี้เราพาทุกคนไปพูดกับคุณเมย์ว่าตั้งแต่เริ่มต้นจนบ้านออกมาสวยงามตอบโจทย์การใช้งานนั้น มีรายละเอียดและดีเทลอะไรบ้าง
“ก่อนหน้านี้เมย์อยู่บ้านที่เป็นทั้งบ้านและหน้าร้านขายวัสดุก่อสร้าง เป็นธุรกิจของครอบครัว แต่พอเริ่มโตจึงอยากขยับขยายย้ายออกมาอยู่ให้เป็นสัดส่วน เราซื้อบ้านหลังนี้พร้อมกับพี่ชายอยู่ในโครงการเดียวกัน หลังติดกันแล้วทำรั้วให้เดินไปหากันได้ ส่วนการตกแต่งตั้งใจไว้แต่แรกว่าอยากบิลต์อิน จึงเริ่มหาข้อมูลจากในกลุ่มงานบ้านที่รักบ้าง จากกลุ่มอื่นๆ บ้าง จากนั้นก็ไปหาข้อมูลเพิ่มเติมจากเพจหรือไอจีบริษัทต่างๆ จนไปเจอกับ S Space Interior ตอนแรกเราเห็นผลงานห้องนอนที่เขาเลือกใช้โทนสีขาว-เขียวแล้วเราชอบสีเขียวเฉดนั้นมาก เลยทักไปสอบถามและให้ทาง S Space มาช่วยออกแบบ ส่วนทีมบิลต์อินจะเป็นรุ่นพี่ที่รู้จักกันมาทำให้” คุณเมย์เริ่มต้นเล่าให้เราฟัง
ด้วยไลฟ์สไตล์ของคุณเมย์คือทำงานเป็นหลัก จึงอยากให้มู้ดแอนด์โทนของบ้านเหมือนเป็นคาเฟ่ และตกแต่งสไตล์มินิมอลแบบที่ตัวเองชอบ “เราทำงานแทบไม่มีวันหยุดเลยเพราะเป็นเจ้าของร้าน พอทำบ้านเลยให้โจทย์กับคนออกแบบว่าอยากให้รู้สึกเหมือนคาเฟ่กลิ่นอายเกาหลีๆ ดูมินิมอล และอยากให้นำสีเขียวโทนนั้นที่เราชอบมาใช้ในบ้านเราด้วย โดยเราออกแบบบิลต์อินเฉพาะบางส่วนที่จำเป็นและเน้นลูกเล่นของผนังเป็นหลัก
“นอกจากนี้เราอยากให้บ้านมีห้องเยอะๆ ทุกมุมของบ้านต้องถ่ายรูปได้ เพราะแพลนไว้ว่าอยากค้าขายออนไลน์ จึงตั้งใจให้โทนสีแต่ละห้องแต่ละมุมแตกต่างกันจะได้ดูไม่น่าเบื่อ อย่างชั้นล่างจะเน้นโทนสีเขียว ส่วนห้องนอนจะเลือกใช้โทนสีขาว ครีม และเทา อีกทั้งยังเลือกแสงไฟแต่ละโซนให้ต่างกันตามความเหมาะสม เพื่อช่วยสร้างบรรยากาศภายในบ้านให้น่าสนใจมากขึ้น”
พื้นที่ภายในบ้านของคุณเมย์มีทั้งหมด 2 ชั้น ชั้นบนจะเป็นส่วนของห้องนอน ชั้นล่างจะเป็นห้องครัว มุมทานข้าว และรับรองแขก “ตอนเริ่มทำบ้านเราให้ซินแสมาช่วยปรับฮวงจุ้ยให้ เช่น ห้องครัวมุมเตาไฟกับอ่างน้ำควรอยู่ทิศไหน ก่อนจะกำหนดฟังก์ชันต่างๆ ห้องนอนชั้นบนทิศที่ทางซินแสกำหนดให้จะหันหัวเตียงไปชนกับห้องน้ำ จึงใช้ภาพวิวติดไว้ที่ผนังเพื่อแก้ฮวงจุ้ย และมีแก้ส่วนของหน้าต่างซึ่งเดิมฝั่งหัวเตียงจะมีหน้าต่างบานใหญ่ เราก่อเป็นกำแพงทึบแล้วทำช่องแสงเพิ่มด้านข้างแทน
“เดิมห้องนอนมาสเตอร์มีขนาด 4×8 เมตรซึ่งค่อนข้างกว้าง เราจึงกั้นเป็น 2 ห้องให้มีขนาด 4×4 เมตร เป็นการเพิ่มพื้นที่ใช้สอย โดยมี Walk-in Closet และห้องน้ำในตัว ทำประตูเลื่อนซ่อนฟังก์ชันบานประตูไว้ในผนังเพื่อประหยัดเนื้อที่ สามารถใช้งานผนังได้ทั้ง 2 ด้าน ส่วนอีกห้องก็จัดเป็นมุมโฮมคาเฟ่ไว้นั่งเล่น”
ในส่วนของชั้นล่างเสมือนเป็นลิฟวิงรูมขนาดใหญ่ที่ใช้งานส่วนต่างๆ ได้ต่อเนื่องกัน “ชั้นล่างเราไม่ได้เปลี่ยนอะไรมาก ด้วยตอนแรกเราตั้งงบไว้ประมาณหนึ่งเลยไม่อยากต่อเติมครัวข้างบ้าน จึงตัดสินใจบิลต์อินครัวในบ้านซึ่งเป็นมุมที่ทางโครงการฯ กำหนดไว้ให้ทำห้องครัวอยู่แล้ว หน้าบานชุดครัวเลือกใช้เป็นสีเขียวโทนเดียวกับบ้าน ส่วนมือจับก็มีดีเทลน่ารักๆ ดีไซน์เหมือนมือมิกกี้เมาส์ ส่วนนี้คือพี่ที่ทำบิลต์อินเขาแนะนำบอกว่าเราน่าจะชอบ เป็นงานนำเข้า เราสั่งมาทั้งสีเงิน สีขาว และลายสนูปปี้สำรองไว้เผื่ออยากเปลี่ยน ส่วนทอปเคาน์เตอร์เลือกใช้เป็นหินสังเคราะห์สีขาว
“ถึงแม้ว่าเราจะทำอาหารไม่เก่งเท่าไร แต่ขอให้มีครัวที่สมบูรณ์แบบ ดีไซน์สวย มีฟังก์ชันครบทั้งเตาและเครื่องดูดควัน ซิงก์เราเลือกดีไซน์แบบ 2 หลุม ใช้งานได้สะดวก เป็นโทนสีดำตัดกับทอปเคาน์เตอร์ โจทย์หลักที่เน้นตอนออกแบบครัวคือขอให้มีตู้เก็บของเยอะๆ เพราะเรามีทั้งของสะสม ถ้วยชามที่ชอบซื้อเก็บไว้ ของกระจุกกระจิกและของตกแต่งอีกมากมาย ส่วนมุมทานข้าวในแบบ 3D จะเป็นสีเบส แต่ทีมบิลต์อินพ่นสีเขียวให้ เราไม่ได้ว่าอะไรเพราะทำออกมาแล้วโอเค สวย (หัวเราะ) พื้นที่ข้างบ้านเราเพิ่งต่อเติมเป็นโรงเรือนที่ตั้งใจไว้ก่อนทำเลยว่าต้องสามารถมองจากห้องทานข้าวแล้วเห็นมุมปลูกต้นไม้ สีเขียวๆ คุมโทนสีขาว โรยทางเดินด้วยหินเกล็ดสไตล์สวนญี่ปุ่นๆ”
นอกจากมู้ดแอนด์โทนภาพรวมของบ้านแล้ว โจทย์อีกอย่างหนึ่งที่สำคัญคือต้องออกแบบให้เข้ากับเฟอร์นิเจอร์ที่มีอยู่ด้วย “อย่างที่บอกว่าเราบิลต์อินแค่เฉพาะส่วนเพื่อให้บรรยากาศของบ้านมีมู้ดแอนด์โทนเดียวกัน ส่วนเฟอร์นิเจอร์เราเลือกซื้อมาตกแต่งเอง บางชิ้นก็นำมาจากบ้านเก่าที่มีอยู่แล้ว เราแจ้งทีมออกแบบให้ช่วยออกแบบบ้านให้เข้ากับเฟอร์นิเจอร์ที่มีอยู่แล้ว เพราะงานบิลต์อินเราใช้งบไปค่อนข้างเยอะ ส่วนอื่นต้องพยายามประหยัดให้มากที่สุด เพื่อให้ได้บ้านสวยในงบประมาณที่กำหนดไว้ โชคดีที่เราชอบสไตล์มินิมอล งานไม้ประมาณนี้อยู่แล้ว พอนำมาจัดวางก็เข้ากันได้ลงตัว
“ทุกวันนี้บางอย่างเราก็ยังซื้อเข้าบ้านไม่ครบ อยู่ไปก็ค่อยๆ แต่งไปเรื่อยๆ นิดๆ หน่อยๆ อย่างโต๊ะทานข้าวก็เพิ่งซื้อมา โคมไฟสีเขียวก็เลือกมาเอง ของตกแต่งชิ้นเล็กชิ้นน้อยบางอย่างซื้อมาอาจยังไม่ได้เข้ากับบ้านตั้งแต่แรก เมย์ก็ย้ายมุมจนเข้าที่เข้าที่เข้าทาง ในอนาคตคิดแพลนไว้ว่าอยากปูกระเบื้องยางที่ชั้นล่าง เพราะกระเบื้องแกรนิโตเลอะง่ายมาก ตอนแรกเราไม่รู้ ไม่อย่างนั้นอาจจะลงทุนทำพื้นก่อน เดี๋ยวขอเก็บเงินก่อนค่ะ เพิ่งซื้อโต๊ะทานข้าวไป (หัวเราะ)”
กว่าบ้านจะออกมาสวยลงตัวขนาดนี้บอกเลยว่าคุณเมย์ใส่ใจในทุกรายละเอียดจริงๆ ไม่ว่าจะในแง่ของพื้นที่ใช้สอย ฟังก์ชันใช้งาน การเลือกโทนสีผนัง แสงไฟภายในบ้าน ผ้าม่าน มูลี่ ตลอดจนการเติมเต็มบ้านด้วยเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่ง เพื่อให้บ้านออกมาสวยงามสมบูรณ์แบบ เป็นที่สำหรับการพักผ่อนอย่างแท้จริง ดังที่คุณเมย์กล่าวไว้ว่า “ความสุขเกิดขึ้นได้ในบ้าน คำนี้ไม่เกินจริง” สำหรับใครที่ชื่นชอบบ้านสไตล์นี้สามารถติดตามอ่านเรื่องราวการแต่งบ้านของคุณเมย์เพิ่มเติมได้ทางเพจ ฉันอยู่บ้านกับหมา
Photo : Thanyawan Sirichiranat