The House 94 เป็นร้านอาหารที่เกิดจากการรีโนเวทบ้านที่สร้างขึ้นในช่วงทศวรรษ 1970 ยุคที่ประเทศไทยเริ่มรับอิทธิพลจากสถาปัตยกรรมสมัยใหม่ (Modernism) จากตะวันตก บ้านลักษณะนี้พบได้มากในย่านสุขุมวิท ถือเป็นตัวอย่างของสถาปัตยกรรมโมเดิร์นยุคแรกๆ ที่สะท้อนรสนิยมและวิถีชีวิตของคนเมืองในเวลานั้น

วันนี้ได้ถูกตีความใหม่ให้กลับมามีชีวิตอีกครั้งในรูปแบบของร้านอาหารร่วมสมัยใจกลางสุขุมวิท ท่ามกลางแมกไม้อันเขียวขจี โอบล้อมด้วยต้นก้ามปูที่อายุกว่า 100 ปี ภายใต้แนวคิด “บ้าน” ในบรรยากาศอบอุ่น ที่พร้อมเชื้อเชิญทุกคนให้มาแชร์โมเมนต์แห่งความสุขร่วมกัน พร้อมลิ้มลองเมนูอาหารที่ไร้พรมแดนอันแสนพิเศษ ในอดีต ที่ชาวต่างชาติเช่น ญี่ปุ่น ยุโรป จีน อินเดียเข้ามาอยู่อาศัยจนเกิดเป็นความหลากหลายด้านวัฒนธรรม
The House 94 ได้ถือกำเนิดขึ้นใจกลางสุขุมวิทในบ้านหลังเก่าที่เต็มไปด้วยเรื่องราว เป็นพื้นที่แห่งการเล่าเรื่องผ่านอาหาร การออกแบบ และความทรงจำ ภายใต้แนวคิด “Borderless Cuisine” รังสรรค์โดยทีมมาสเตอร์เชฟ ที่พิถีพิถันในการคัดสรรวัตถุดิบ และเครื่องปรุงจากทั่วทุกมุมโลกมาผสมผสานได้อย่างลงตัว พร้อมมอบสุดยอดแห่งประสบการณ์ด้านอาหารใหม่ ๆ ที่มีความหมายและความลึกซึ้ง

The House 94 ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่ยุค 70s และได้รับการปรับปรุงใหม่โดยยังคงกลิ่นอายของประวัติศาสตร์ไว้ทุกมุม ตั้งแต่เฟอร์นิเจอร์วินเทจ งานศิลปะร่วมสมัย สระว่ายน้ำ ไปจนถึงบาร์ค็อกเทลสไตล์ยุค 70s ทุกองค์ประกอบถูกออกแบบให้สะท้อนชีวิตครอบครัวในแต่ละทศวรรษ บ้านที่เล่าเรื่องผ่านการออกแบบในสไตล์ทรอปิคัลโมเดิร์น ที่มีเสน่ห์อันแสนอบอุ่น เปรียบเสมือนบ้านที่ทุกคนสามารถมาใช้เวลาร่วมกับคนที่เรารักอย่างมีความสุข และเชื่อว่าอาหารคือภาษาสากลที่เชื่อมโยงผู้คนได้โดยไม่ต้องมีคำบรรยายใดๆ
Love at first sight แนวคิด ของ The House 94 : บ้านของเพื่อนสนิทที่แบ่งปันเรื่องราวแห่งมิตรภาพ
Mr. HANS BOGETOFT CHRISTENSEN, Chief Creative Officer ผู้ก่อตั้งและนักออกแบบชาวเดนมาร์ก The House 94 กล่าวถึงแรงบันดาลใจของการรังสรรค์ร้านอาหารนี้ว่า
“ผมตกหลุมรักบ้านหลังนี้ทันทีตั้งแต่แรกเห็น ไม่ใช่แค่ตัวบ้าน แต่รวมถึงพื้นที่กลางแจ้งที่มีต้นไม้ใหญ่อันร่มรื่นและสระว่ายน้ำ หรือห้องเรือนกระจกที่เสมือนพื้นที่ส่วนตัว ทุกคนต่างมีช่วงเวลาที่แสนวิเศษร่วมกัน สถานที่นี้เต็มไปด้วยเรื่องราว ทำให้ผมอดคิดถึงบ้านในวัยเด็กของผมไม่ได้ “The House 94” สะท้อนตัวตนของผมอย่างแท้จริง ผมเติบโตมาในบ้านหลังใหญ่กับครอบครัวใหญ่ เราชอบต้อนรับแขก มีห้องครัวเป็นหัวใจของบ้าน ที่ทุกคนมารวมตัวกันรอบโต๊ะเพื่อแบ่งปันเวลาแห่งความสุขร่วมกัน พ่อสนใจเรื่องการออกแบบมาก ท่านมักพาผมไปประมูลหรือเลือกเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งเป็นประจำ และนี่จึงทำให้ผมมีสายเลือดหรือ DNA แห่งนักออกแบบมาตั้งแต่เด็ก”

ฮันส์ยังเล่าถึงการออกแบบว่า “ดีไซน์ของบ้านหลังนี้สร้างขึ้นประมาณปี 60s -70s องค์ประกอบการออกแบบสะท้อนถึงชีวิตครอบครัวในแต่ละทศวรรษ—ตั้งแต่รุ่นคุณปู่ คุณพ่อคุณแม่ จนถึงรุ่นปัจจุบัน มีทั้งเฟอร์นิเจอร์วินเทจ งานศิลปะ ไปจนถึงงานศิลป์ร่วมสมัย การตกแต่งภายในจึงเหมือนบทเรียนเล็กๆ ในประวัติศาสตร์ ผมเลือกใช้สีโทนอ่อนจับคู่กับวอลล์เปเปอร์ลายจัดจ้าน สร้างบรรยากาศที่แปลกตาแต่ก็อบอุ่นและโปร่งสบาย มีโซนเลานจ์ที่ผนังตกแต่งด้วยไม้สีเข้ม พร้อมบาร์ค็อกเทลสไตล์ย้อนยุค ให้ความรู้สึกถึงยุค 70s ตัวบ้านเต็มไปด้วยงานศิลปะและของตกแต่งที่เติมความมีชีวิตชีวาและบุคลิกเฉพาะตัว

“อาหาร” สายใยแห่งความสุข เชื่อมโยงทุกอย่างเข้าด้วยกัน กับคอนเซ็ปต์ “Borderless Cuisine”
Mr. MORTEN BOJSTRUP NIELSEN, Group Executive Chef มาสเตอร์เชฟสัญชาติเดนมาร์ก ผู้หลงรักเมืองไทยสุดหัวใจได้กล่าวถึงแรงบันดาลใจของการรังสรรค์เมนูพิเศษว่า “ผมและทีมเชฟได้แรงบันดาลใจของเมนู “หนึ่งเดียวในโลก” จากประสบการณ์การเดินทาง ความหลากหลายของวัฒนธรรม และความกล้าทดลองสิ่งใหม่ ๆ โดยไม่ยึดติดกับกรอบเดิม เราเลือกใช้วัตถุดิบจากทั้งท้องถิ่นและต่างประเทศ ผสมผสานเทคนิคจากหลายเชื้อชาติ เพื่อสร้างรสชาติที่สดใหม่และไม่เหมือนใคร ด้วยแนวคิด “Borderless Cuisine” เมนูไร้พรมแดน ที่เปิดกว้างให้เชฟเล่าเรื่องผ่านจานอาหารอย่างอิสระ The House 94 ไม่ใช่แค่ร้านอาหาร แต่เป็นสถานที่ที่ทุกคนมาสังสรรค์และให้เชฟในบ้านปรุงอาหารให้ตามที่ต้องการ”

เชฟกอล์ฟ ประวิทย์ อุดมพรประสิทธิ์ Executive Chef มากประสบการณ์ทั้งในและต่างประเทศเผยว่า “การเดินทางทำให้ผมได้เปิดโลกกว้างและได้เรียนรู้มุมมองอาหารจากทุกมุมโลก ผมพิถีพิถันด้านการคัดสรรวัตถุดิบโดยคำนึงถึง คุณภาพ แหล่งที่มา ฤดูกาล และความสัมพันธ์ของรสชาติ ทั้งวัตถุดิบท้องถิ่นและวัตถุดิบนำเข้าจากต่างประเทศ ที่มีความโดดเด่น ผสมผสานเทคนิคการปรุงอาหารที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ผมชื่นชอบและสนุกกับการทำอาหารที่ไม่เหมือนใคร รวมถึงสื่อสารและเล่าเรื่องผ่านจานอาหารไปยังลูกค้า พร้อมให้ได้ดื่มด่ำกับบรรยากาศของ The House 94 เพิ่มอรรถรสได้อย่างลงตัว” เชฟกอล์ฟกล่าว

7 เมนูพิเศษที่ไม่ควรพลาด
Appetizers
● Ceviche – ปลากระมงรีดเลือด (Ikejime) จากสุราษฎร์ธานี แล่เสิร์ฟสไตล์ปลาดิบ ทานกับซอสที่ทำจาก Sea Buckthorn ซี บัคธอร์น (เบอรี่สีส้มสดจากชายฝั่งทะเลแถบยุโรป) และฝรั่งไส้แดง พร้อมส้มคัมควอท (ส้มจี๊ด) จากสวนบ้าน 94 เรียกคืนความสดชื่นและเปรี้ยวอมหวานแบบคลาสสิก

● Burrata – การผสมผสานข้ามวัฒนธรรมที่น่าทึ่ง ด้วยชีส Burrata เสิร์ฟกับซอสงาถั่วสไตล์จีน คล้ายน้ำจิ้มสุกี้เพิ่มน้ำมันงา เลมอนรายู และ Dukkah ดุกคา (เฮเซลนัทและอัลมอนด์บดกับเครื่องเทศ) โรยด้วยผักร็อกเก็ต จานเดียวที่รวมสไตล์จีน อิตาเลียน และตะวันออกกลางอย่างกลมกล่อม
● Crab Salad – เมนูที่เชฟภูมิใจนำเสนอ ใช้เนื้อปูม้าสดจากชาวประมงพื้นบ้านจังหวัดสตูล คลุกเคล้ากับ Cream Fraiche ยอดมะพร้าวอ่อน และเครื่องเทศต่าง ๆ เสิร์ฟกับ Granita น้ำแข็งไสสไตล์อิตาลี ทำจากแอปเปิ้ลเขียว แตงกวา น้ำมะนาว ใบชิโสะ และสาเกญี่ปุ่น เพิ่มความหอม เย็น ชื่นใจ – เมนูที่มีการผสมผสานความเป็นไทย อิตาเลียน และญี่ปุ่นอยู่ในจานเดียวกันได้อย่างลงตัว
Signature – Main Course
● Ribs Chop – เนื้อหมู Imo Buta (หมูที่เลี้ยงด้วยมันม่วง) ส่วน Ribs Chop ที่ชุ่มฉ่ำ เนื้อนุ่มกว่า Pork Chop ทั่วไป ย่างด้วยซอสบ๊วยดองญี่ปุ่น น้ำผึ้ง และโชยุ เสิร์ฟคู่กับ Apple Puree และ Cognac Mustard ที่หมักกับน้ำแอปเปิ้ลและคอมบูฉะ นาน 7-10 วัน จากนั้นหมักด้วยบรั่นดีจากฝรั่งเศส จนกลายเป็น Cognac Mustard จึงเป็น Signature Menu ที่ไม่ควรพลาดอย่างยิ่ง

● Red Snapper – ปลากระพงแดงจากสุราษฎร์ธานี หมักกับสาหร่ายคอมบุเพื่อซึมรสชาติอูมามิ ตากหนังปลา 2-3 วัน เมื่อนำมาย่างจะได้ความหอมกรุ่น หนังกรอบสมบูรณ์แบบ เนื้อปลาสดขาวนุ่ม เสิร์ฟกับซอสสไตล์ซัลซ่าที่ใช้พริก Habanero ที่ Fermented กับน้ำผึ้ง ให้ความแปลกใหม่ที่ลงตัว
เมนูของหวาน ใจละลาย
● Burnt Cheesecake – Basque Cheesecake ที่ใช้ชีส Gruyere เสิร์ฟกับครีมคาราเมลกล้วยน้ำว้าและมะม่วงสุก ท็อปด้วยสับปะรดหอมสุวรรณเชื่อมน้ำเชื่อมดอกส้ม พร้อม Tropical Sauce จากน้ำสับปะรด กลิ่นดอกส้ม และมะม่วงน้ำดอกไม้ ตัดความเข้มข้นด้วยความสดชื่นเขตร้อน
● Ginger Dessert – ขนมรูปร่างขิงที่ล้อกับคอนเซ็ปต์ The House 94 และร้านในเครือ Ginger Farm มีไส้ขิงเชื่อมผสมเลมอน หุ้มด้วยมูสน้ำผึ้งวานิลลา และ Feuilletine (บิสกิตกรอบผสมช็อกโกแลต) ให้รสหอมหวานน้ำผึ้งและวานิลลา ซ่อนรสเลมอนเปรี้ยวหวานและความเผ็ดร้อนของขิง ด้านล่างโรยด้วยแครกเกอร์เพิ่ม texture ความกรุบกรอบ ถือเป็นของหวานที่อร่อยลงตัวฟินสุดๆ เอาอะไรมาแลกก็ไม่ยอม

ไม่นับเมนูต่างอีกมากมายที่รอให้คุณได้มาสัมผัสรสชาติอาหารแบบไร้พรมแดน ที่มีเพียงหนึ่งเดียวในโลกในบรรยากาศอันแสนอบอุ่นและร่มรื่นที่ The House 94 ร้านอาหารใจกลางสุขุมวิท 31 ไม่ว่าจะเป็นดินเนอร์ส่วนตัวริมสระว่ายน้ำ ปาร์ตี้ส่วนตัว หรือเวิร์กช็อป นัดประชุม สัมมนา กิจกรรมวันแสนพิเศษในบ้านหรือห้องเรือนกระจกเอาต์ดอร์ส่วนตัว ปกคลุมด้วยแมกไม้ให้ความสดชื่นของต้นก้ามปูอายุกว่า 1 ศตวรรษ เชื่อมโยงกับรสชาติอาหารที่แสนประทับใจ เหมาะเป็นจุดเช็กอินอีกแห่งที่ไม่ควรพลาด

The House 94, Sukhumvit 31
https://www.thehouse94.com
Map : https://maps.app.goo.gl/Z9BqcSgtAoBDxjqK9




