โครงการคอนโดมิเนียมระดับลักซ์ชัวรี่แห่งใหม่ในย่านสาทร ร่วมกับ 3 แบรนด์แฟชั่นแนวไลฟ์สไตล์ชื่อดังทั้ง PICHITA, TEEMA RUCKSAJIT และ MISIS จัดงาน “A SUMMER’S SOLSTICE” Exclusive Fashion Presentation โดยได้ “อาร์ต-อารยา อินทรา” อินฟลูเอนเซอร์และกูรูแฟชั่นชั้นนำของไทยมารับหน้าที่สไตลิตส์ มิกซ์แอนด์แมตช์สามแบรนด้วยแนวคิดการเล่นสนุกกับแฟชั่นไม่ยึดติดกับแบบแผนเดิม ๆ เพื่อสร้างสรรค์คอลเลกชันใหม่สุดคูลไม่ซ้ำใคร ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์และการใช้ชีวิตของหนุ่มสาวในย่านสาทรได้ตลอดวัน เช่นเดียวกับแนวคิดการออกแบบโครงการ 125 SATHORN
แบรนด์แรกที่สร้างความฮือฮาให้แขกเอ็กซ์คลูซีฟในงานคือ PICHITA โดดเด่นด้วยคอลเลกชั่นเสื้อผ้าในโทนสีสันที่เหมาะกับ Summer in The City เน้นการใช้ผ้า Silk หรือ Silk Blend เพื่อให้ใส่เบาสบายเหมาะกับอากาศร้อนในกรุงเทพ ด้วยเนื้อผ้ามีความพลิ้วไหวและหรูหรา สามารถใส่ไปเดินเล่นตอนกลางวันหรือไปทานข้าวร้านอาหารตอนกลางคืนก็ได้ “เสื้อผ้าของ PICHITA จะมีเอกลักษณ์คือใส่แล้วไม่เหมือนใครและ มีความ Chic + Cool ในตัวค่ะ” ฑาทิม รักษะจิตร แห่งแบรนด์ PICHITA กล่าว “สำหรับคอลเลกชั่นของงานวันนี้จะมีตั้งแต่ Hand-dyed Silk ombre ไล่สี Kimono, กางเกงเลลูกเล่นแบบผูกเอวจากด้านข้างทำจากผ้า Silk ทรง loose-fit, velvet bikini set ไว้แมตช์ข้างในเสื้อ, รองเท้า Summer loafer, Tunic dress หน้าสั้นหลังยาว และชุดเดรสยาวกลางคืนที่เหมาะกับ Summer Nights ทั้งหมดนี้คือการผสมผสานจับคู่ Lifestyle City Glam ของทางแบรนด์ PICHITA”
สถานที่จัดงานในครั้งนี้คือ 125 SATHORN Sales Gallery “PICHITA มองว่าคนที่อยู่ 125 SATHORN ต้องชอบไลฟ์สไตล์ที่ Happening คือมีความแอ็กทีฟ และมีเซนส์ด้านความสวยงาม ไม่ว่าจะเป็นการตกแต่งของอาคารหรือแม้แต่เสื้อผ้าที่ส่วมใส่ ก็ต้องสามารถ support และเหมาะสมกับสไตล์ของคนกลุ่มนี้ได้เช่นกัน”
อีกหนึ่งแบรนด์เสื้อผ้าไทยที่สร้างสีสันให้กับวงการแฟชั่น และงาน A SUMMER’S SOLSTICE ได้อย่างน่าทึ่งก็คือ TEEMA RUCKSAJIT โดย ธีมา รักษะจิตร ดีไซเนอร์สาวคนเก่ง กล่าวว่า “แบรนด์ของเราเป็น Silk ทั้งหมดค่ะ ออกแนวสีสันที่ตอบโจทย์ทั้งใส่ทำงาน ไปดินเนอร์ช่วงค่ำ หรือแม้แต่ใส่เดินทางขึ้นเครื่องบินก็ยังได้ เหมาะกับไลฟ์สไตล์ที่หลากหลายของย่านสาทร ซึ่งมีทั้งโซนออฟฟิศและแหล่งสังสรรค์กินดื่มมากมายในย่านนี้ค่ะ”
สไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์ของเสื้อผ้า TEEMA คือลายพิมพ์ที่สีสันสนุกสนาน คัตติ้งที่สวยเนี้ยบ และเนื้อผ้าที่ใส่สบาย แต่ดูหรูหรามีสไตล์รับกับสีสันและบรรยากาศของสาทรที่คึกคักตลอด 24 ชั่วโมง “คอลเลกชันที่เลือกมาในงานนี้จะเป็น Everyday Collection โดยเป็นแนวเสื้อผ้าที่ใส่ได้ทุกวันจริง ๆ เช่น ลายสัตว์ ดอกไม้ที่จะแมตช์กับอะไรก็ได้ ใส่คู่กับสูท หรือยีนส์ได้ ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์สบาย ๆ เหมือนใส่ชุดอยู่บ้านแล้วเดินออกไปทานข้าวในร้านเก๋ ๆ ได้เลย เพราะด้วยคัตติ้งที่เนี้ยบและเนื้อผ้าที่มีความหรูอยู่ในตัว และมีความเก๋เหมือนกับสไตล์ของ 125 SATHORN เพราะการตกแต่งดูสบายตา แม้จะเรียบง่ายแต่มีความเก๋ที่ลงตัวค่ะ” ธีมา กล่าว
อีกหนึ่งองค์ประกอบสำคัญที่ขาดไม่ได้ และทำให้คอลเลกชัน A SUMMER’S SOLSTICE สมบูรณ์แบบก็คือแบรนด์เครื่องประดับสุดชิคอย่าง MISIS ซึ่งเป็นแบรนด์เครื่องประดับเงินชุบทอง 18K นำเข้าจากอิตาลี ที่ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1986 จนเป็นที่ชื่นชอบของดาราฮอลลีวู้ดและผู้มีชื่อเสียงระดับโลก รวมถึงเซเลบเมืองไทยก็คุ้นเคยกับแบรนด์ MISIS เป็นอย่างดี เพราะนำเข้าไทยมากว่า 10 ปีแล้ว
ดร. ฐิติพร สถาวรมณี กรรมการผู้จัดการ บริษัท เซตเต้ เวอร์ทู ผู้นำเข้าแบรนด์เครื่องประดับแบรนด์ มิสซิส (MiSiS) จากอิตาลี กล่าวถึงแบรนด์ว่า “MISIS มีแท็กไลน์ว่า Live Your Nature แปลว่าไม่ว่าคุณจะมีธรรมชาติแบบไหน MISIS ก็มีจิวเวลรี่ที่ตอบโจทย์ธรรมชาติของคุณ โดยเราแบ่งคอลเลกชันเป็นดิน น้ำ ลม และไฟ ซึ่งนำองค์ประกอบในธรรมชาติมาดีไซน์ให้สอดคล้องตามธาตุแต่ละธาตุ สำหรับงาน A SUMMER’S SOLSTICE ครั้งนี้ คุณอาร์ตต้องการสอนมิกซ์แอนด์แมตช์ จึงดึง Product จากหลาย ๆ ธาตุมามิกซ์ให้เข้ากัน เป็นการนำเสนออีกมิติหนึ่งที่ทำให้เราเห็นถึงการผสมผสานธาตุให้ออกมาสวยงามโดยไม่ต้องยึดติดกับธาตุใดธาตุหนึ่ง เรียกว่าเปิดโลกแฟชั่นไปอีกระดับทีเดียวค่ะ”
แบรนด์ MISIS ตอบโจทย์ธรรมชาติของผู้สวมใส่ได้หลากหลาย ซึ่งสอดคล้องกับ 125 SATHORN ซึ่งตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้พักอาศัยทุกคนได้เสมอตามแนวคิด You always find something matched your nature “ได้มีโอกาสมาห็นห้องตัวอย่างของ 125 แล้วรู้เลยค่ะว่าเอื้อต่อการตกแต่งได้หลายแบบจริง ๆ คือไม่จำเป็นต้องเป็นคนชอบความเป็นเมืองอย่างเดียวถึงจะอยู่ 125 SATHORN ได้ เพราะที่นี่มีความไพรเวท มีพื้นที่สันทนาการ พื้นที่สีเขียวที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการ คือทั้ง 125 SATHORN และ MISIS เป็นความหลากหลายที่ตอบโจทย์ธรรมชาติในตัวคุณได้ทุกรูปแบบ และก็รู้สึกดีใจที่ได้มาร่วมงานในวันนี้ค่ะ”
อาร์ต-อารยา อินทรา อินฟลูเอนเซอร์ด้านแฟชั่นของเมืองไทย กล่าวว่า “แฟชั่นไม่มีถูกผิดค่ะ อาร์ตอยากเชียร์ให้ทุกคนลองผสมผสานเครื่องแต่งกายและเครื่องประดับที่หลากหลาย โดยใช้ความคิดสร้างสรรค์ของตัวเอง สำหรับธีม A SUMMER’S SOLSTICE ของวันนี้ อาร์ตเลือกใช้โปรดักต์จาก 3 แบรนด์ดัง ราคาน่ารัก เข้าถึงง่าย และคนไทยรู้จักกันดี ซึ่งคาแรกเตอร์ที่ทั้งสามแบรนด์นี้มีเหมือนกันคือเป็น Timeless and Easy Piece คือหยิบมาใส่ได้เรื่อย ๆ เรียกว่าตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ทุกด้านของย่านสาทรได้จริง ๆ ทั้งชุด ใส่ไปทำงาน ไปไดน์เอาต์นอกบ้าน หรือปาร์ตี้สังสรรค์กับเพื่อนในธีมสนุก ๆ ไปจนถึงการพักผ่อนส่วนตัวแบบ คูล ๆ สบาย ๆ แต่ไม่ดูโทรม เราอาจจะเรียกคอลเลกชันของงานในวันนี้ว่าเป็น Effortless Fashion ก็น่าจะได้ค่ะ คือสวย เก๋ เท่ แบบไม่ต้องพยายามมาก แต่ตอบโจทย์ทุกโอกาสในแบบฉบับที่เป็นตัวคุณได้จริง ๆ ซึ่งสอดคล้องกับคาแรกเตอร์ของโครงการ 125 SATHORN ที่ตั้งอยู่ในย่านธุรกิจและโซนกินดื่มสังสรรค์ชั้นนำของกรุงเทพฯ แถมตัวอาคารออกแบบให้ตอบสนองความต้องการที่แตกต่างกันของผู้อยู่อาศัยได้ดีมาก ๆ ไม่ว่าจะเป็นคนทำงาน หนุ่มสาวที่ชอบการสังสรรค์ คนที่ต้องการความเป็นส่วนตัว หรือรักการรวมกลุ่มแฮงก์เอาต์ ก็จะสามารถค้นพบบ้านในฝันของคุณได้ที่โครงการ 125 SATHORN แน่นอนค่ะ”
ศวิตา เศรษฐาภรณ์ หนึ่งในแขกเอ็กซ์คลูซีฟ กล่าวหลังจบงาน A SUMMER’S SOLSTICE ว่า “ชอบทุกแบรนด์ที่นำมาจัดคอลเลกชันในวันนี้ค่ะ ซื้อไปหลายชิ้นเลย เพราะปกติสไตล์การแต่งตัวของเราก็ง่าย ๆ เหมือนงานในวันนี้อยู่แล้ว ส่วนแฟชั่นของคนย่านสาทร สำหรับเราคิดว่ามันต้อง Practical ด้วย เพราะดูมีสไตล์แบบบิสเนส แต่ก็คล่องแคล่ว เคลื่อนไหวง่าย เพราะมันหมดยุคแล้วกับอะไรที่ใส่สวยแต่ไม่สบาย คือเราต้องเป็นคนที่ใส่เสื้อผ้า ไม่ใช่ให้เสื้อผ้าใส่เรา และวันนี้ได้มาที่แกลเลอรีของ 125 SATHORN รู้สึกสบายๆ โคซี่ ดีไซน์และการตกแต่งดูดีและมองเพลินมาก ๆ แถมจัดฟังก์ชั่นในห้องต่าง ๆ ได้ลงตัวมาก ดูแล้วตอบโจทย์การอยู่อาศัยมาก ๆ ค่ะ”
โครงการ 125 SATHORN เปิดให้เยี่ยมชม Sales Gallery ที่อาคาร KRONOS Office Building ชั้น G สอบถามฝ่ายขายได้ที่หมายเลข +6691-125-8588 อีเมล info@125sathorn.com หรือเยี่ยมชมเว็บไซต์ www.125sathorn.com