คิริน ชัยชนะ มัณฑนากรผู้ใส่ใจและมีเวลาให้

หากใครเคยติดตามกระทู้ของ pantip เรื่อง “ตึกแถวหน้าปลวก Botox ให้กลายเป็นบ้าน Hipster” คงรู้จักและรู้สไตล์การออกแบบและตกแต่งของเขาเป็นอย่างดี ซึ่งนอกจากคุณคิรินจะเป็นเจ้าของบ้านที่เขียนรีวิวเกี่ยวกับการรีโนเวทตึกแถวให้กลายเป็นบ้านน่าอยู่สไตล์คอนเทมโพรารีมีกลิ่นอายแบบยุโรปแล้ว เขายังเป็นมัณฑนากรที่ฝากผลงานมาแล้วหลายโปรเจคต์ รวมถึงมีเพจเฟสบุคที่มียอดฟอลโลกว่าหลักแสนคนเลยทีเดียว

อยากเป็นนักวาดการ์ตูน
ผมชอบวาดรูป ตอนนั้นอยากเข้าคณะนิเทศศิลป์ เพราะชอบวาดการ์ตูน อยากไปญี่ปุ่นเพื่อเป็นนักวาดการ์ตูนแบบจริงจัง ช่วงจังหวะที่ต้องติววาดรูปผมได้พี่ติววาดรูปอินทีเรีย เขาแนะนำว่าวาดการ์ตูนมันหางานยากนะ แต่งานอินทีเรียคิดง่ายๆ ว่าบ้านคนสร้างใหม่ตลอด หรืออย่างงานในห้างก็มีรีโนเวททุกปี งานมีแน่นอน สุดท้ายผมเลยตัดสินใจเลือกเรียนอินทีเรีย ที่มหาวิทยาลัยศิลปากร แต่จริงๆ เป็นงานที่เกี่ยวกับวาดรูปผมก็โอเคหมด อะไรก็ได้ที่เป็นอาร์ตทำแล้วมันสวย เลยได้มีโอกาสเข้าไปเรียน

อยากเปิดบริษัทเองก็ต้องลอง
หลังจากเรียนจบ ผมออกมาทำงานเองเลย ตอนนั้นคิดว่าบริษัท A49 มันไกลจากบ้านมาก เลยอยากลองทำกับเพื่อน ไม่มีความเสี่ยง ไม่มีภาระ คิดว่าถ้าอยากจะลองอะไรก็ต้องลองตอนนี้แหละ เปิดบริษัทเองจริงจัง พอทำปรากฏว่าก็เวิร์คนะ งานเล็กงานใหญ่เรารับหมด เป็นงานที่ไม่ได้เน้นดีไซน์มาก เช่น รีโนเวทออฟฟิศ ผลตอบแทนก็ได้เยอะ เราทำเองโปรเจคหนึ่งก็เป็นแสนดีกว่าเป็นพนักงานออฟฟิศ แต่พอทำไปสักปีหนึ่งรู้สึกเบื่อ เพราะทำแต่งานซ้ำๆ เลยอยากไปทำบริษัทใหญ่ๆ และได้ทำงานใหญ่ๆ ดูบ้าง

กลับมาเป็นพนักงานประจำที่ A49
ช่วงนั้นเป็นช่วงที่ผมต้องตัดสินใจระหว่างจะไปเรียนต่อ เพราะได้ทุนกพ. กับไปทำงานบริษัทที่ผมอยากร่วมงานด้วย ซึ่งมีคำพูดของพี่ชายผมที่เขาบอกแม่ผมว่า ผมทำอะไรก็ประสบความสำเร็จหมด ไม่จำเป็นต้อง 1 2 3 ตามที่คนอื่นเขาทำ พอเราได้ยินแบบนี้ผมเลยมั่นใจว่าไม่ไปเรียนแล้ว เสียเวลาไป 2 ปี แล้วต้องกลับมาเป็นอาจารย์อีก 4 ปี ซึ่งตรงนั้นไม่ได้เป็นสิ่งที่เราอยากได้ แทนที่จะไดทำงานแล้วเติบโตในหน้าที่ หลังจากนั้นผมก็ได้เข้าไปทำงานที่บริษัท A49 ซึ่งก็เป็นพี่ติวผมนี่แหละเขามาชวน เพราะเขารู้ฝีมือเราอยู่แล้ว

ชอบความ Productive
ผมเลือกบริษัท A49 เพราะว่าด้วยนิสัยส่วนตัวผมเลย ผมเป็นคนชอบทำอะไรที่มัน productive ทำน้อยๆ แต่ได้เยอะๆ ถ้าทำเยอะแล้วได้น้อยจะไม่ทำ ผมจะคิดให้ดีๆ ตั้งแต่แรกแล้วทำให้มันเสร็จ คือ A49 ตรงคอนเซ็ปต์มาก เรียกว่าเป็นออฟฟิศอินทีเรียเดียวตอนนั้นเมื่อ 10 ปีที่แล้ว ห้าโมงครึ่งทุกคนกลับบ้านได้ เพราะออฟฟิศอื่นอย่างเพื่อนผมอยู่กันตี 1 ตี 2 เพื่อปั่นงานพรีเซนท์กันในวันรุ่งขึ้น ซึ่งนี่ไม่ใช่ผม เราชอบจบงานในเวลาแล้วเอาเวลาไปเล่นดนตรี ไปทำอย่างอื่น ทำอยู่ที่นั่นประมาณ 8 ปี

รับงานเยอะเพิ่มสกิล
ผมชอบทำงานมาก แต่ไม่ได้บ้างาน มีเวลาเล่นสนุก ซ้อมดนตรี แต่เป็นแบบนี้ตั้งแต่เด็กๆ ถ้าทำงานออกมาได้ดีเราจะภูมิใจ ช่วงก่อนแต่งงาน 3 ปีแรก ผมกลับมาบ้านประมาณ 1 ทุ่ม นอนแล้วตื่น 4 ทุ่ม ทำงานนอกต่อถึงประมาณ ตี 2 ตี 3 แล้วก็ตื่นไปทำงานตอนเช้า เป็นแบบนี้อยู่ 3 ปี ทำงานเยอะมาก พอยิ่งทำงานเยอะกว่าคนอื่น สกิลเราจะเร็วขึ้น เหมือนเป็นการฝึกเราในตัว บางทีการทำทรีดีเราไม่ได้เป็นคนคิด เขาให้เราไปขึ้นเป็นคอมพิวเตอร์สวยๆ ให้ ซึ่งการทำตรงนั้นเราช่วยเขาดูเรื่องของสัดส่วนด้วย เหมือนสะสมประสบการณ์มาเรื่อยๆ ตอนแรกเริ่มทำผมทำทรีดีรูปละประมาณ 500 บาท พอฝีมือเริ่มดีขึ้น เซนส์เรื่องดีไซน์คมขึ้น พี่เขาก็จะใช้เราทำ ไม่ต้องพูดอะไรกับเรามาก แค่เขาสเก็ตช์แบบเขี่ยๆ มา เราสามารถทำให้สวยแบบที่เขาคิดได้ ซึ่งบางคนทำไม่ได้ บางคนไม่มีเซนส์ ถ้าวางไม่เป็นก็จะวางมั่วๆ จนล่าสุดก่อนผมจะเลิกทำผมทำทรีดีรูปละ 12000 ใช้เวลาทำ 2 ชั่วโมงก็เสร็จ เพราะทำจนเซียนแล้ว

โด่งดังจากกระทู้ pantip
บ้านตึกแถวที่ผมรีโนเวทแล้วโพสต์ใน pantip มันเป็นช่วงเวลาที่ผมว่างและลาออกจาก A49 แล้ว ทำบ้านเสร็จนานแล้วแต่ยังไม่มีเวลาถ่ายรูป อารมณ์คือแค่อยากอวดบ้านแค่นั้นไม่ได้คิดเรื่องงานอะไรเลย เป็นบ้านตึกแถวที่สามารถทำให้สวยแบบบ้านสไตล์ฝรั่งได้ ปรากฏว่าพอเอาไปลง pantip กลายเป็นคนชอบเยอะมาก เราเลยตั้งเพจ KIRIN design & living ขึ้นมาที่เป็นอินทีเรียดีไซน์ และมี KIRIN snap x labs studio สตูดิโอให้เช่าถ่ายภาพ แฟชั่น พรีเวดดิ้ง โฆษณา นอกจากนี้ยังมี Keen Condo Stylish by KIRIN ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าสเกลเล็กๆ อย่างงานคอนโด เป็นการออกแบบคอนโดโดยทำตามใจเรา แต่ให้ลูกค้าที่ชอบสไตล์นี้มาซื้อไป คิดดีไซน์เป็นแพ็คเก็จ 1 2 3 4 ใครเข้ามาดูชอบแบบไหนก็แค่คลิก เป็นงบแบบเหมา ซึ่งโปรเจคนี้ผมทำร่วมกับเพื่อนที่ A49 ซึ่งเคยร่วมงานกัน

หัวใจหลักของการเป็นมัณฑนากร
คนที่จะทำอาชีพนี้แล้วรุ่งหรือประสบความสำเร็จต้องเก่งในเรื่องของเทสต์ สกิล พื้นฐานที่ต้องมี ผมพยายามแนะนำน้องในทีมว่างานแต่ละโปรเจคที่เราทำต้องคิดว่า มันยังสวยได้อีก ต้องไม่จบแค่นั้น เราต้องเสิร์ชดูไอเดียเยอะมาก เทรนด์ตอนนี้เป็นอย่างไร เลยสร้างระบบใหม่ให้กับงานออกแบบของผม คือต้องมีเวลา และใส่ใจกับงาน ไม่หยุดอยู่แค่นี้ และใส่กิมมิกของตัวเองเข้าไปผสมกับเรื่องราวของเจ้าของบ้านแต่ละหลัง หรือนำปัญหามาสร้างให้เกิดดีไซน์ก็มี อย่าคิดง่ายๆ ว่าสวยแล้ว ไม่อย่างนั้นมันก็จะเป็นงานที่สวยแบบไม่มีคาแร็กเตอร์