News & Event

64 ปี กับบริษัท เคซีจี คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)


64 ปี กับบริษัท เคซีจี คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)  

บริษัท เคซีจี คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ KCG ผู้นำในการผลิตและจัดจำหน่ายกลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารเนย-ชีส ภายใต้แบรนด์ อิมพีเรียล (Imperial) และอลาวรี่ (Allowrie) ผลิตและจัดจำหน่ายบิสกิต ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับการประกอบอาหารและเบเกอรี่ และเป็นผู้นำเข้าวัตถุดิบเบเกอรี่และอาหารตะวันตกจากแบรนด์ชั้นนำทั่วโลก ที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมอาหารมายาวนาน จากจุดเริ่มต้นในปี 2501 กับนิยาม “ผู้สร้างสรรค์ความรื่นรมย์ให้รสชาติ” (Creating pleasure for your taste)  

โดยปีนี้ได้วาง กลยุทธ์มุ่งพัฒนาผลิตภัณฑ์และนวัตกรรมใหม่ สร้างสรรค์ความรื่นรมย์ในรสชาติทุกช่วงมื้ออาหารรับไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคยุคใหม่ ขยายช่องทางการจำหน่ายครอบคลุมกลุ่มผู้บริโภคและกลุ่มผู้ประกอบการ พร้อมลงทุนเทคโนโลยียกระดับโรงงานและขยายกำลังการผลิตเนยและชีส มุ่งสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน  

นายตง ธีระนุสรณ์กิจ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เคซีจี คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)  เปิดเผยว่า บริษัทฯ เป็นผู้นำในการผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เพื่อการบริโภค ได้แก่ กลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารเนย-ชีส บิสกิต และส่วนประกอบอาหารและเบเกอรี่ที่หลากหลาย อีกทั้ง บริษัทฯ ยังเป็นผู้นำเข้าเนย ชีส วัตถุดิบเบเกอรี่และอาหารตะวันตกจากหลากหลายแบรนด์ชั้นนำทั่วโลก

และได้วางกลยุทธ์เพื่อก้าวสู่การเป็นผู้นำในประเทศไทย ผ่าน 4 แนวทางขับเคลื่อนธุรกิจ ได้แก่

1) ขยายกำลังการผลิตพร้อมทั้งนำเทคโนโลยีมายกระดับกระบวนการผลิตโดยวางแผนลงทุนเครื่องจักรระบบอัตโนมัติ (Automation) เพื่อขยายกำลังการผลิต (Capacity Expansion) พร้อมบริหารจัดการต้นทุนการผลิตให้มีประสิทธิภาพ

 2) พัฒนาผลิตภัณฑ์และนวัตกรรมใหม่ โดยบริษัทฯ มีความมุ่งมั่นในการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ รวมถึงพัฒนาสูตรใหม่ทั้งกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ทำจากนมและไม่ได้ทำจากนม เพื่อเป็นอาหารทางเลือกใหม่ซึ่งดีต่อสุขภาพและสอดรับกับไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคยุคใหม่ ซึ่งช่วยตอกย้ำความเป็นผู้นำในการนำเสนอสินค้าสู่ตลาด (Trend Setter) 

3) สร้างช่องทางการจำหน่ายที่แข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง โดยมุ่งขยายช่องทางจำหน่ายผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ รวมทั้งช่องทางร้านสะดวกซื้อและตู้จำหน่ายสินค้าอัตโนมัติ (Vending Machine) สำหรับกลุ่มผู้บริโภค (B2C) พร้อมยกระดับการให้บริการกลุ่มลูกค้าผู้ประกอบการ (B2B) อาทิ ผู้ให้บริการด้านอาหาร ผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรม ร้านอาหาร จัดเลี้ยง (HORECA) และกลุ่มลูกค้าผู้ประกอบการโรงงานอุตสาหกรรมผลิตอาหาร ผ่านการจัดหาผลิตภัณฑ์อย่างครบวงจร ตลอดจนขยายตลาดในต่างประเทศผ่านตัวแทนจัดจำหน่าย จากปัจจุบันที่มีการส่งออกไปแล้ว 15 ประเทศทั่วโลก เช่น ญี่ปุ่น จีน เกาหลีใต้ 

4) ขยายธุรกิจผ่านการควบรวมกิจการ (M&A Opportunities) โดยบริษัทฯ มุ่งสร้างการเติบโตทั้งในและต่างประเทศผ่านการร่วมทุน (Joint Venture) หรือการควบรวมกิจการ (M&A) โดยเน้นธุรกิจที่มีเป้าหมาย วิสัยทัศน์ และแผนกลยุทธ์ที่เสริมศักยภาพการเติบโตให้แก่ KCG อาทิ ธุรกิจต้นน้ำ (Upstream) ซึ่งเป็นธุรกิจที่จะช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งของห่วงโซ่คุณค่า (Supply Chain) เพื่อให้เกิดการบริหารต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพและเพิ่มศักยภาพการแข่งขันสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน  

ทั้งนี้KCG ยังให้ความสำคัญกับการขับเคลื่อนธุรกิจเพื่อการเติบโตที่ยั่งยืน ภายใต้การดำเนินธุรกิจตามหลัก ESG (Environment, Social, Governance) ซึ่งครอบคลุมด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล โดยบริษัทฯ ได้มีการติดตั้ง Solar Rooftop ที่โรงงานเทพารักษ์ จังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในปี 2564 ได้ถึง  646 ตันต่อปี อีกทั้ง KCG ยังได้ร่วมเป็นหนึ่งในการพัฒนาคุณภาพชีวิตให้กับชุมชนและสังคมในวงกว้างผ่านโครงการ เช่น โครงการประกวดนวัตกรรมอาหาร ‘Innovation Contest’ ที่ส่งเสริมนักศึกษาในการสร้างนวัตกรรมอาหาร ตลอดจนการดำเนินธุรกิจโดยคำนึงถึงความรับผิดชอบต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสียตั้งแต่ผู้ถือหุ้น พนักงาน ลูกค้า คู่ค้า คู่สัญญา ชุมชน สังคม และสิ่งแวดล้อม


You Might Also Like...