เมื่อบ้านหลังเดิมเริ่มไม่ตอบโจทย์และไม่สามารถสนองความต้องการได้อีกต่อไป ดังนั้นการรีโนเวตบ้านเพื่อปรับเปลี่ยนทั้งดีไซน์และฟังก์ชันจึงเริ่มต้นขึ้น ซึ่งบ้านหลังนี้ได้บริษัทออกแบบและตกแต่งภายในจาก FATBOY FACTORY เข้ามาช่วยดูแลโปรเจ็กต์นี้
จากบ้านที่เคยสวยและดูทันสมัยในช่วงยุคสมัยหนึ่ง แต่เมื่อกาลเวลาผ่านไปกลับดูล้าสมัยและเริ่มทรุดโทรม บรรยากาศดูมืดทึบ และรู้สึกอึดอัดจากโครงสร้างและผนังที่ถูกแบ่งกั้นเป็นห้องๆ จึงถูกปรับเปลี่ยนด้วยการรื้อผนังในส่วนที่ไม่จำเป็นออกทั้งหมด เหลือไว้เพียงโครงสร้างของอาคารที่ยังคงแข็งแรง
สถาปนิกออกแบบโดยใช้แนวคิด “จากภายในสู่ภายนอก” เพื่อเป็นการเปิดช่องแสงให้กับตัวบ้านได้รับแสงธรรมชาติเข้าสู่พื้นที่ภายในบ้านได้อย่างเต็มที่ ทั้งยังคำนึงเรื่องของทิศทางลม เพื่อให้ผู้อาศัยได้ใช้งานอย่างสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น
โจทย์ในการออกแบบเป็นการผสมผสานระหว่างสไตล์โมเดิร์นอินดัสเตรียลลอฟต์ควบคู่กับกลิ่นอายความเป็นไทย เป็นสองสไตล์ที่สอดประสานกันได้อย่างลงตัวทีเดียว และแม้การรีโนเวตครั้งนี้จะถูกปรับเปลี่ยนโครงสร้างรวมถึงฟังก์ชันใช้สอยภายในใหม่ทั้งหมด แต่ในเรื่องของวัสดุอย่างเช่น ประตูเก่า หน้าต่างเก่า ยังคงถูกนำกลับมาใช้โดยทำสีและดีไซน์ให้รับกับคอนเซ็ปต์ที่กำหนดไว้ เพื่อเป็นการบอกเล่าเรื่องราวของวันวาน ความทรงจำผ่านวิถีแบบไทยสู่ความทันสมัยในยุคปัจจุบัน
พื้นที่ใช้สอยบริเวณชั้นล่างประกอบไปด้วยสวนที่อยู่ส่วนหน้า ด้านข้างมีโรงจอดรถ มีนอกชานที่ยื่นต่อออกจากห้องนั่งเล่น ต่อเนื่องไปยังพื้นที่รับประทานอาหาร แพนทรี ห้องครัว ห้องน้ำ และบันไดขึ้นสู่ชั้น 2 ความน่าสนใจของชั้นนี้ถูกออกแบบให้เป็น Open Space เชื่อมโยงพื้นที่ใช้งานให้ทุกส่วนมีความต่อเนื่อง บรรยากาศภายในบ้านดูโปร่งโล่ง อีกหนึ่งส่วนที่ดูจะเป็นไฮไลต์ก็คือการเปลือยฝ้าเพดาน เผยให้เห็นโครงสร้างที่มีความดิบและดูเท่ตามคอนเซ็ปต์อินดัสเตรียลลอฟต์อย่างที่เจ้าของบ้านต้องการ รวมถึงการใช้ท่อสายไฟสีเหลืองก็กลายเป็นอีกลูกเล่นที่เพิ่มมิติและช่วยนำสายตาดูลื่นไหลไปยังมุมต่างๆ ได้อย่างมีเรื่องราว
ในขณะที่บริเวณชั้น 2 เมื่อเดินขึ้นบันไดมาจะเจอกับโถงโล่งๆ และห้องน้ำ โดยพื้นที่ทางด้านขวามือกำหนดให้เป็นห้องทำงาน ส่วนฝั่งซ้ายเป็นห้องนอนขนาดใหญ่ที่มีทั้งห้องน้ำในตัว รวมถึง Walk-in Closet ที่อยู่ด้านในสุด และระเบียงหน้าห้องนอน
การรีโนเวตบ้านหลังเก่าไม่ใช่เพียงแค่การปรับเปลี่ยนดีไซน์หรือฟังก์ชันให้กลายเป็นบ้านหลังใหม่ที่น่าอยู่เท่านั้น แต่คือการเก็บรักษาโดยยังคงมีความทรงจำ เรื่องราว ที่คอยห่อหุ้มผู้พักอาศัยได้ใช้ชีวิตอย่างอบอุ่นและมีความสุข
ภาพประกอบและข้อมูลอ้างอิง
www.archdaily.com/
