เปลี่ยนบ้านเขาวงกตกลายเป็นบ้านขนาด 3 คนอยู่
ครั้งนี้เราจะพาไปดูไอเดียการรีโนเวทบ้านหลังหนึ่งในย่านดอนเมือง เป็นบ้านเก่าที่มีอายุกว่า 40 ปีแล้ว ด้วยรูปแบบของตัวบ้านที่ถูกต่อเติมซะจนอึดอัด ไม่ว่ามุมไหนก็แน่นไปหมด ให้อารมณ์เหมือนเขาวงกต แถมยังดูซับซ้อน แล้วแบบนี้เจ้าของบ้านคนใหม่จะวางแผนและปรับโฉมบ้านหลังนี้ออกมาในรูปแบบไหนกันนะ
จะว่าไปแล้วบ้านนี้ก็ไม่ได้ดูแย่ถึงขนาดอยู่ไม่ได้ แต่ด้วยรูปแบบและสไตล์ที่เก่าโทรม บวกกับจำนวนห้องที่มีเยอะเกินจำเป็นสำหรับสมาชิกในครอบครัวที่มีแค่พ่อ แม่ ลูก คุณโม-ภัทร ศรีสลวย และคุณยีนส์-อรนภา แซ่อื้อ (เจ้าของบ้าน) จึงตัดสินใจรีโนเวทบ้านหลังนี้ใหม่ ตัดฟังก์ชันที่ไม่จำเป็นทิ้งไป เหลือแค่พอใช้งาน เน้นให้มีพื้นที่นอกบ้านเพื่อให้ลูกสาวมีพื้นที่วิ่งเล่น
โอ้โห! ไม่น่าเชื่อว่าภาพที่เราเห็นเมื่อกี้กับบ้านหลังนี้คือสถานที่เดียวกัน พอรีโนเวทออกมาแล้ว สวยงามและดูน่าอยู่มากๆ รื้อโรงรถด้านหน้าออก เลยทำให้เกิดสเปซโล่งๆ บริเวณหน้าบ้าน บวกกับห้องที่อยู่ทางด้านซ้ายก็ทุบผนังเหลือแต่โครง เพื่อให้เป็นทางเข้าหลัก โดยด้านในยังเหลือเนื้อที่เป็นสวนข้างบ้าน
นี่คือภายในห้องที่ถูกต่อเติมจะเห็นว่าอึดอัดและคับแคบ แถมแสงสว่างก็น้อย ฝ้าเพดานก็เตี้ย ดังนั้นคุณโมเลยทุบผนังออกแล้วใช้ประโยชน์จากพื้นที่ส่วนนี้ให้กลายเป็นสวนแทน นอกจากจะให้ลูกมีมุมวิ่งเล่นแล้ว ยังใช้เป็นมุมเอาท์ดอร์ไดนิ่งได้อีก
เปลี่ยนบรรยากาศไปเลยใช่มั้ยล่ะ จากที่ดูอุดอู้ พอทุบผนังออก เหลือแต่โครงสร้าง เปลี่ยนพื้น ทำประตูทางเข้าใหม่ แล้วเพิ่มลูกเล่นตรงผนังด้วยการเจาะเป็นวงกลม เพื่อลดทอนความแข็งของโครงสร้างลง ตกแต่งด้วยไม้ในกระถาง พอมีสีเขียวๆ เข้ามาแซมก็ดูสดชื่นขึ้น
ต่อไปเรามาดูบรรยากาศภายในบ้านก่อนจะถูกรีโนเวทกันหน่อยว่ามีหน้าตาแบบไหน เริ่มจากชั้นล่างในส่วนที่เป็นห้องนั่งเล่นเชื่อมต่อกับห้องครัวกันก่อนเลย
พื้นที่ภายในห้องไม่ได้ทรุดโทรม แต่ด้วยความที่ห้องถูกซอยและแบ่งมากจนเกินไป ก็เลยทำให้อึดอัดไปหมด แต่พอถูกปรับเปลี่ยนแล้ว บรรยากาศจะเปลี่ยนไปมากขนาดไหนกันนะ
โอ้มายก้อดด! นี่มันคือมุมเดียวกันจริงน่ะหรอ ออกแบบใหม่ซะจนจำภาพเดิมไม่ได้เลย เป็นห้องครัวแพนทรีขนาดกำลังดี เน้นใช้งานแบบเบาๆ สำหรับอุ่นอาหาร และชงกาแฟ ให้อารมณ์เหมือนคาเฟ่ ออกแบบให้มีช่องแสงเยอะหน่อย เพราะของเดิมค่อนข้างทึบ
มาดูกันอีกสักมุมก็จะเห็นภาพที่ชัดเจนขึ้น สังเกตว่ามีหน้าต่างแค่ 3 ช่อง และมีหน้าต่างตรงหน้าบ้านอีก 2 ช่อง แต่ก็ยังรู้สึกอึดอัดอยู่ดี คุณโมจึงออกแบบให้มีช่องแสงเพิ่มขึ้นด้วยการเจาะช่องใต้หน้าต่างเพิ่ม ทำให้ได้รับแสงสว่างขึ้นอีก
พอเจาะช่องแสงด้านล่างแล้วก็ได้แสงจากภายนอกเข้ามา ทำให้ห้องครัวแพนทรีที่วางแปลนให้มีเนื้อที่เชื่อมต่อกับห้องนั่งเล่นโปร่งโล่งกว่าเดิม
อีกหนึ่งไฮไลท์ของบ้านหลังนี้ เมื่อทุบฝ้าออกแล้วจะเจอกับสภาพพื้นไม้ที่ยังคงสภาพดี เลยทำมุมนี้ให้เป็นฟีเจอร์หลัก ขัดผิวแล้วย้อมสีไม้ให้ดูเป็นธรรมชาติเข้ากันกับดีไซน์ชุดครัว
สำหรับคอนเซ็ปต์ในการออกแบบบ้านหลังนี้คุณโมบอกว่า พยายามดีไซน์ให้เป็นสไตล์ที่เขาชอบ ซึ่งไม่ได้ตายตัวหรือเจาะจงอย่างใดอย่างหนึ่ง แต่มีกลิ่นอายที่เป็นสไตล์ Midcentury ผสมกับสแกนดิเนเวียน ดังนั้นของตกแต่ง รวมถึงเฟอร์นิเจอร์ก็จะมีทั้งงานคราฟต์ งานหวาย
คุณโมอยากได้บ้านที่สามารถรับแสงแดดเยอะๆ เนื่องจากบ้านที่อยู่เดิมเป็นอาคารพาณิชย์ มีข้อด้อยในเรื่องของแสงอับทึบ อยู่ไม่สบาย เมื่อเข้ามารีโนเวทบ้านหลังนี้จึงพยายามออกแบบให้มีช่องแสงมากที่สุด
จากห้องนั่งเล่นและครัวแพนทรีมีทางเดินเชื่อมต่อไปยังพื้นที่ภายในบ้านอีกส่วน ซึ่งมีทั้งห้องเก็บของ ห้องน้ำ และบันไดที่เชื่อมไปยังชั้นสอง
บันไดเป็นอีกหนึ่งองค์ประกอบที่คุณโมออกแบบใหม่ เนื่องจากตำแหน่งเดิมออกแบบให้ตัดผ่านเข้าตัวหน้าบ้าน มีผลให้ห้องนอนแคบ จึงปรับแกนบันไดให้ไปเข้าด้านหลังแทน หลังจากที่ปรับแกนบันไดใหม่แล้วเลยได้โถงที่เป็นพื้นที่ระหว่างลิฟวิ่งเล็กๆ ซึ่งเชื่อมกับห้องน้ำ ห้องเก็บของขนาดใหญ่ และยังมีที่เหลือสำหรับให้ลูกเล่นและวางของเล่นได้อีก
ห้องน้ำชั้นล่าง แยกส่วนเปียกส่วนแห้ง มีเคาน์เตอร์อ่างล้างหน้าแบบลอยตัว แล้วใช้กรอบหน้าต่างจากส่วนอื่นที่ไม่ได้ใช้งานมาใส่ไว้ตรงนี้แทนเพื่อให้ภายในห้องน้ำได้รับทั้งลมและแสงสว่าง ทั้งยังมองเห็นต้นไม้จากสวนด้านนอก
บรรยากาศภายในห้องนอนดูเปลี่ยนไปมาก น่านอนกว่าเดิมเยอะ ของเดิมอาจจะดูหลอนๆ ไปหน่อย ด้วยสภาพพื้นและผนังที่มันเก่า แต่พอทำพื้น ทำผนังใหม่ กลายเป็นว่าดูอบอุ่น โดยคุณโมได้ไอเดียการแต่งห้องนอนมาจากรีสอร์ต ทำผนังกั้นตรงส่วนเตียง แล้วเปิดพื้นที่โล่ง
นอกจากนี้จุดเด่นที่เป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ก็คือโครงหลังคาเดิมที่เป็นโครงไม้ ถูกนำมาขัดผิวใหม่ กลายเป็นลูกเล่นที่ล้อไปกับทรงของหลังคา แล้วติดนำไฟรางฝังไว้ตามโครงหลังคา
บ้านหลังนี้ใช้เวลาก่อสร้างร่วม 2 ปี ถึงจะนานและงบบานปลายทั้งงานระบบ งานซ่อมแซม แต่ทุกอย่างก็ออกมาในแบบที่เจ้าของบ้านชอบ เพราะบ้านที่ดีไม่ได้ขึ้นอยู่กับขนาด แต่อยู่ที่สามารถรองรับการใช้งานและตอบโจทย์ มีพื้นที่ที่ได้ใช้ร่วมกัน มีที่กว้างๆ ให้ลูกได้เดิน วิ่ง ปั่นจักรยาน ไม่จำเป็นต้องมีจำนวนห้องเยอะ มีเท่าที่พอใช้งาน เรียกว่าเป็น Compact House ที่รองรับการเปลี่ยนและเติบโตของครอบครัวได้ดีที่สุด
เจ้าของ: คุณโม-ภัทร ศรีสลวย/ คุณยีนส์-อรนภา แซ่อื้อ
ขนาด 50 ตารางวา
พื้นที่ใช้สอย 120 ตารางเมตร
งบที่ใช้ในการรีโนเวทประมาณ 2.2 ล้านบาท (ไม่รวมเฟอร์นิเจอร์)