จากฟากหนึ่งของริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา สายตาเราสะดุดกับหญิงสาวคนหนึ่งที่ยืนอยู่ริมแม่น้ำ เธอใส่เสื้อผ้าสีแดง อากัปกิริยาดูสง่างาม และแฝงไปด้วยเสน่ห์ลึกลับยั่วยวน ชวนให้น่าค้นหา จนเราอยากจะขอเข้าไปทำความรู้จักกับเธอ “อำแดง”
หญิงสาวที่เรากำลังพูดถึงไม่ใช่คน แต่เรากำลังพูดถึง “โรงแรม” ที่เปรียบเสมือนตัวแทนของหญิงสาวคนหนึ่ง และผู้ที่ทำให้อำแดงก่อตัวเป็นรูปเป็นร่าง คือคุณเล็ก-พรรษพล ลิมปิศิริสันต์ และคุณหมิ่น -วิบูลย์ ลีภักดิ์ปรีดา สองเพื่อนสนิทในวงการครีเอทีฟ ที่มีความฝันว่าอยากจะมีบ้านริมน้ำเจ้าพระยาเหมือนกัน เล่าให้เราฟังถึงที่มาของการสร้างโรงแรมแห่งนี้ว่า
“เราสองคนชอบและมีความฝันคล้ายๆ กัน ซึ่งความฝันอย่างหนึ่งของเราก็คือการมีบ้านริมแม่น้ำ บังเอิญว่าพี่เล็กได้มาเจอที่ดินผืนนี้ซึ่งมีอายุร่วม 100 กว่าปี แล้วชอบมาก เพราะวิวสวย สามารถมองเห็นวิวแม่น้ำเจ้าพระยาได้กว้างมาก และอยู่ในย่านเมืองเก่า ก็เลยพาพี่หมิ่นมาดู ตอนแรกคิดว่าอยากสร้างเป็นบ้านสักหนึ่งหลัง แต่เนื่องจากว่าที่ดินตรงนี้เป็นที่ดินผืนยาวเหมือนที่ดินหัวมังกร เลยตกลงกันว่าน่าจะสร้างเป็นโรงแรมดีกว่า”
อาคารสีแดงชาดทรงกล่องคล้ายประติมากรรมปูนปั้นหลังนี้ เมื่อมองผ่านๆ เราไม่สามารถคาดเดาได้เลยว่าภายในนั้นมีอะไร คล้ายกับมองหญิงสาวคนหนึ่งจากภายนอก ที่เราไม่สามารถรู้ได้เลยว่าเบื้องหลังความสวยงามเหล่านั้นมีอะไรซ่อนอยู่
“พี่หมิ่นกับพี่ชอบศิลปะ และเราชอบเรื่องอำแดงมาก ซึ่งคำว่าอำแดงเป็นคำนำหน้าชื่อของหญิงสาวสมัยก่อน ที่นิยมใช้กันในสมัยรัชกาลที่ 5 ซึ่งตรงกับสมัยของที่ดินแห่งนี้ เราเลยใช้ชื่อว่าอำแดง และสมัยนั้นการรับวัฒนธรรมตะวันตกเริ่มเข้ามาในไทย เราก็เลยเกิดเป็นไอเดียมาใช้กับการตกแต่งที่ผสมผสานหลายวัฒนธรรม แต่คอนเซปต์หลักคืออยากให้มีความเป็นไทย เพราะเราชอบบ้านทรงไทย ไม่อยากทำให้มันโมเดิร์น และพี่เล็กชอบดีไซน์ที่มันมีความโค้งเว้า การออกแบบภายนอกจึงเน้นรูปทรงแบบโค้งมน”
ภายในห้องพักทุกห้องตกแต่งในสไตล์ผสมผสานทั้งไทย จีน ตะวันตก และอินเดีย แต่ยังคงความเป็นไทยที่โดดเด่นไว้ นั่นคือขอบประตูและกันสาดที่เจาะเป็นลายขนมปังขิง ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของบ้านทรงไทยที่คุณเล็กชื่นชอบและตั้งใจใส่ไว้ในทุกๆ ส่วนของโรงแรม
“เราอยากให้ทุกคนมองเห็นวิวแม่น้ำเจ้าพระยา พร้อมๆ กับมองเห็นลวดลายขนมปังขิง เป็นการมองแม่น้ำผ่านความเป็นไทย นั่นคือสิ่งที่ทำให้ทุกคนรู้ว่าที่นี่แหละคืออำแดง” นอกจากนั้นภายในห้องยังมีกิมมิกเล็กๆ ชวนอมยิ้มอย่างรูปวาดสาวจีนคาบไปป์ หรือเป่าหมากฝรั่ง และเนื่องจากพี่เล็กอยากทำให้ที่นี่เป็น “The Most Romantic Hotel in Bankok” จึงให้ความสำคัญกับบรรยากาศ และ Mood and Tone ที่ดูน่าหลงใหล ภายในห้องจึงกั้นพื้นที่ระหว่างห้องนอนกับห้องน้ำไว้เพียงผ้าม่านฉลุรูปหัวใจบางๆ เท่านั้น “เราอยากให้คนที่มาอาบน้ำ หรือคู่รักที่มาพัก ดื่มด่ำกับการพักอาศัย อาบน้ำไปเห็นวิวแม่น้ำเจ้าพระยาไป เพื่อทำให้เกิดช่วงเวลาแห่งความประทับใจของกันและกัน”
ด้านในของอาคารเต็มไปด้วยผลงานศิลปะที่บ่งบอกถึงความเป็นไทยที่สวยงามมากมาย ไม่ว่าจะเป็นกระเบื้องชิ้นเล็กลวดลายสวยงามที่เรียงร้อยต่อกันเป็นพื้นและผนังห้อง, เฟอร์นิเจอร์ดีไซน์คลาสสิกที่คุณเล็กนำโมเดลของจริงมาสร้างใหม่ให้เข้ากับบรรยากาศของโรงแรม, รูปกราฟิกที่เป็นตัวถ่ายทอดเรื่องราว ประวัติศาสตร์ ผู้คน และสถานที่สำคัญของไทย เช่น กราฟิกภาพถนนเจริญกรุงซึ่งเป็นถนนสายแรกของประเทศไทย ภาพหน้าต่างบานกระทุ้งบริเวณผนังหัวเตียง คุณเล็กบอกว่าเนื่องจากที่โรงแรมไม่สามารถออกแบบประตูให้เป็นแบบบานกระทุ้งได้ จึงตั้งใจทำกราฟิกภาพประตูสมัยก่อนไว้เพื่อให้เกิดความรู้สึกเหมือนบ้านเก่า และไม่ลดทอนดีเทลของห้อง นับว่าเป็นการเล่าเรื่องผ่านภาพวาดให้คนที่มาพัก ค่อยๆ ซึบซับวัฒนธรรมไทยไปในตัว
นับว่า “อำแดง” เป็นการผสมผสานสถาปัตยกรรมที่พักอาศัยกับงานศิลปะให้เข้ากันได้อย่างลงตัว และทำให้ที่นี่กลายเป็น Art Piece ชิ้นเยี่ยมของทั้งคู่ ที่รอคอยให้แขกผู้มาเยือนได้ร่วมซึบซับความโรแมนติกผ่านมุมมองความเป็นไทยที่แปลกใหม่ “เราอยากให้มองที่นี่เป็นเหมือนผู้หญิงสวยคนหนึ่ง ซึ่งมีความโรแมนติก และมีรายละเอียดในตัวเองค่อนข้างสูง ที่นี่เหมือนเป็นที่ที่รวมความชอบของเราทั้ง 2 คนเอาไว้ทั้งดีไซน์ งานศิลปะและกลิ่นอายของความเป็นเมืองเก่า ถ้าเกิดว่าคนที่มาพักเขาชอบในสิ่งที่เราชอบ เท่านั้นก็เพียงพอแล้ว”
ขอขอบคุณสถานที่ : AMDAENG
Facebook / Amdaeng Bangkok riverside hotel