Garden Kitchen & Home

ไร่เหมือนจันทร์ เป็นทั้งร้านอาหารและที่ท่องเที่ยวเชิงเกษตร ขึ้นชื่อเรื่องการปลูกเมลอน บัตเตอร์นัต ผักสลัดและผักพื้นบ้าน


ไร่เหมือนจันทร์ เป็นไร่ที่ปลูกผักและผลไม้ รวมถึงเป็นร้านอาหารและสถานที่ท่องเที่ยวเชิงเกษตรที่มีการทำเกษตรอินทรีย์ 100%  ขึ้นชื่อเรื่องการปลูกเมลอน บัตเตอร์นัต ผักสลัดและผักพื้นบ้านต่างๆ โดยมีคุณพิชัย วิทยาพิทักษ์วงศ์ เจ้าของไร่เป็นผู้บุกเบิกผืนดินมรดกกว่า 12 ไร่

จุดเริ่มต้นของไร่เหมือนจันทร์

เดิมผมทำบริษัททัวร์และบริษัทรับเหมาก่อสร้างมาก่อน พอถึงจุดอิ่มตัวจึงเลิกทำและหันมาทำไร่ปลูกเมลอน ปัจจุบันได้ขยายให้มีร้านคาเฟ่อยู่ที่โซนด้านหน้า ยังมีร้านชาบู 2 ร้านชื่อฟาร์มเฝอ หม้อไฟเวียดนาม มี 2 สาขาคือพุทธมณฑล สาย 3 และสาขาบางขุนเทียน

ไร่เหมือนจันทร์เปิดเมื่อปี ค.ศ. 2015 ตั้งอยู่บนถนนเลียบคลองทวีวัฒนา ตั้งมาจากชื่อคุณยายเหมือนและคุณแม่จันทร์ซึ่งเป็นเจ้าของที่ดิน จึงนำชื่อมารวมกันแล้วตั้งเป็น “ไร่เหมือนจันทร์” ตอนแรกไม่ได้ตั้งใจจะทำใหญ่ขนาดนี้ แค่อยากปลูกเมลอนไว้ทำเป็นอาชีพเสริมหลังเกษียณ เริ่มจากการปลูกในโรงเรือน 3-4 โรง มีโซนที่นั่งพัก มีบ่อปลา พอทำไปเรื่อยๆ จนมีคนเริ่มติดตาม ในช่วงแรกเราปลูกเมลอนโดยใช้สารเคมี แล้วมีจุดเปลี่ยนคือเมื่อเพื่อนของลูกมานั่งเล่นในสวนขณะที่คนงานกำลังพ่นสารเคมีอยู่ เราเห็นแล้วรู้สึกเป็นห่วงว่าเขาอาจจะได้รับสารเคมีเหล่านั้นไปด้วยซึ่งจะเป็นอันตราย เราไม่โอเค เราจึงไปปรึกษากับปราชญ์ชาวบ้าน อาจารย์ธงชนะ พรหมมิ ถึงวิธีการเลิกใช้สารเคมีและหันมาสู่กระบวนการเกษตรอินทรีย์อย่างเต็มตัว

Set Zero จากการใช้สารเคมี สู่การปลูกแบบเกษตรอินทรีย์

อาจารย์ธงชนะ พรหมมิ ท่านก็มาให้องค์ความรู้ ให้คำแนะนำ และมาวางเซ็ตระบบใหม่ทั้งหมด เหตุผลที่เลือกปลูกเมลอนเนื่องจากตอนนั้นเมลอนเป็นพืชที่ท้าทาย คนเคยปลูกทยอยเลิกปลูก คนใหม่ก็อยากจะเข้ามาทำ เราใช้กระบวนการปลูกแบบเกษรตรอินทรีย์ ทำให้ได้เมลอนที่รสชาติไม่เปลี่ยน ใช้ปุ๋ยหวานที่มีค่า K (โพแทสเซียม) จากดินในนาเกลือ เป็นดินที่ได้หลังจากตากเกลือเสร็จแล้ว นำมาผสมน้ำแล้วฉีดพ่น ซึ่งค่า K นี้เป็นแร่ธาตุที่ช่วยเพิ่มความหวาน เราใช้หลักการเทียบทางเคมี แต่ปรับอินทรีย์ให้เป็นเคมี โดยใช้ปุ๋ย NPK (ปุ๋ยเคมี N คือไนโตรเจน P คือฟอสฟอรัส K คือโพแทสเซียม ธาตุอาหารที่จำเป็นสำหรับการเจริญเติบโตของพืช) เหมือนกันแต่ได้จากธรรมชาติ ปุ๋ยที่เราใช้จะได้จากละอองข้าว หญ้าเนเปียร์ และอินทรียวัตถุต่างๆ รอบตัวเรา

ถ้าอยากเพิ่มแร่ธาตุไนโตรเจนก็นำพืชสีเขียวที่เป็นใบอ่อนมาหมักจะได้ไนโตรเจน ถ้าจะเพิ่มฟอสฟอรัสเราก็นำพวกก้านไม้กิ่งก้านสีน้ำตาลมาหมักเป็นฟอสฟอรัส และถ้าอยากได้โพแทสเซียม (K) ซึ่งได้จากการเผาไหม้ เราก็นำแกลบไปเผา บางคนคิดว่าเกษตรอินทรีย์ทำยาก แต่ถ้าเข้าใจกระบวนการแล้วมันก็ไม่ยาก ส่วนปัญหาอุปสรรคนั้นมีแน่นอน เพราะเราไม่ได้ใช้ยาฆ่าแมลง จึงมีโรคเกี่ยวกับแมลง ซึ่งถ้าเกิดโรคหรือเน่าเสียผมจะทิ้งเมลอนนั้นทั้งโรงเรือนเลย ในการปลูกเมลอนมีระยะเวลาเก็บผลผลิตคือทุกๆ 3 เดือน เมื่อเราปลูกเมลอนด้วยวิธีเกษตรอินทรีย์สำเร็จแล้วจึงขยายมาปลูกผักสวนครัวและผักสลัดเพิ่ม โดยผลผลิตในแต่ละรอบนอกจากนำมาเป็นวัตถุดิบในร้านอาหารแล้ว ยังนำมาแบ่งขายในร้านอีกด้วย

เกษตรอินทรีย์ได้คุณค่ามากกว่ามูลค่า

ปัจจุบันที่นี่ปลูกเมลอนประมาณ 10 โรงเรือน เราใช้ระบบการตลาดเป็นตัวกำหนด โดยปลูกเมลอนเดือนละ 2 โรงเรือน แล้วปลูกวนไปเรื่อยๆ เราต้องการความสม่ำเสมอเพื่อให้มีผลผลิตออกมาทั้งปี เพราะคนส่วนใหญ่ที่เราสอนไปมักจะขาดทักษะนี้ คือเวลาปลูกจะปลูกครั้งละจำนวนมาก แต่ที่นี่เราจะทำในลักษณะให้ขาดบ้างแต่ขาดไม่นาน และยังมีผลผลิตตลอด ซึ่งใน 1 โรงเรือนเราจะปลูก 3 สายพันธุ์วนกันไป เป็นเมลอนสายพันธุ์ญี่ปุ่น ประกอบด้วยสายพันธุ์คิงส์ เรด สีเหลือง โดดเด่นที่ความหวานกรอบ แต่อายุจะสั้นกว่าพันธุ์อื่นประมาณ 10 วัน ทำให้สามารถแบ่งช่วงเวลาในโรงเรือนได้

สายพันธุ์อิชิบะ สีทองที่มีความโดดเด่นด้านรสชาติหวานนุ่ม และสายพันธุ์เอ็นเอสที่มีความโดดเด่นคือรสชาติหวานนุ่มเช่นกัน นอกจากนี้เรายังปลูกฟักทองบัตเตอร์นัตซึ่งเป็นพืชล้มลุกเหมือนเมลอน เพาะปลูกง่าย ใช้ระยะเวลา 3 เดือนเหมือนกัน ตั้งใจปลูกให้หลากหลาย เพราะเราเป็นแหล่งท่องเที่ยวและเป็นศูนย์ศึกษาเรียนรู้ด้วย อีกทั้งยังเลี้ยงเป็ด ปลูกผักแบบยกพื้น เพราะเดิมที่ตรงนี้เป็นฟาร์มกล้วยไม้แต่ปรับมาปลูกผักแทน มีทั้งผักพื้นบ้านและผักที่ปลูกทั่วไป เช่น ผักกาดขาวปลี คะน้า กวางตุ้ง ผักบุ้ง ผักสลัด เช่น วอเตอร์เครส กรีนโอ๊ก เรดโอ๊ก ฟิลเลย์ เรดคอรัล 

ต้นแบบเกษตรอินทรีย์ ส่งต่อผลผลิตที่ดีสู่ผู้บริโภค

การทำเกษตรแบบอินทรีย์ต้องพิถีพิถัน มีความใส่ใจ ผลลัพธ์ที่ได้คือให้ความรู้สึกที่แตกต่าง นอกจากสบายใจและรู้สึกปลอดภัยสำหรับคนปลูกแล้ว ยังสบายใจเมื่อส่งต่อผลผลิตสู่ผู้บริโภคด้วย เพราะผลผลิตที่ได้มีความสะอาด ปลอดภัย และมีคุณภาพ สำหรับใครที่สนใจจะเข้ามาเที่ยวชมเรียนรู้การปลูกเมลอน ผักพื้นบ้านต่างๆ เปิดให้เข้าชมฟรี สามารถวอล์กอินเข้ามาได้เลย เราจะมีเจ้าหน้าที่ประจำอยู่ เราคาดหวังว่าไร่เหมือนจันทร์จะเป็นแบบอย่างที่ดีของการใช้กระบวนการเกษตรอินทรีย์ในการเพาะปลูกอีกแห่งหนึ่ง

LINE : @meuanjanfarm
FB: ไร่เหมือนจันทร์
IG : @meuanjanfarm


You Might Also Like...