ด้วยความที่โรงเรียนสอนประกอบอาหาร เลอโนท ประเทศไทย (Lenotre Culinary Arts School Thailand) เป็นโรงเรียนสอนการประกอบอาหารสัญชาติฝรั่งเศส ที่เปิดสอนในหลักสูตร อาหารคาว ขนมอบ และขนมปัง นอกจากการถ่ายทอดความรู้ในการทำอาหารและขนมที่แบ่งปันสูตรพิเศษตามแบบฉบับเฉพาะของทางเลอโนท และเทคนิคต่างๆ โดยเชฟชาวฝรั่งเศสแล้ว ทางโรงเรียนฯ ยังใส่ใจในเรื่องการคัดสรรวัตถุดิบที่ดี และหนึ่งในวัตถุดิบที่สำคัญสำหรับหลายๆ เมนู ได้แก่ พืชผัก และดอกไม้

คุณภา – วิภาพรรณ ธีระถนอมศักดิ์ ผู้จัดการฝ่ายขายและการตลาด ได้บอกเล่าถึงที่มาของพื้นที่นี้ว่า ผักที่ปลูกของที่นี่จะเป็นธรรมชาติในทุก ๆ อย่าง เมล็ดที่ใช้ไม่มีการตกแต่งพันธุกรรม จึงเรียกได้ว่าเป็นการสร้างอาหารจากธรรมชาติ 100% มีความปลอดภัยสูง ไม่มีสารพิษต่างๆ ตกค้าง เหมาะแก่การบริโภค ซึ่งทางโรงเรียนฯ จึงมีแนวคิดในการทำระเบียงปลูกผักออร์แกนิคภายในพื้นที่ของโรงเรียนฯ ขึ้นมา

โดยพืชที่ปลูกจะนำไปใช้ประโยชน์หลักๆ 2 ภาคส่วน ได้แก่ สำหรับหลักสูตรการเรียนการสอน โดยเชฟผู้สอนจะสอดแทรกความรู้ในการเลือกพืชผักในการนำไปประกอบอาหาร และ ตกแต่งจาน รวมถึงเชิญชวนให้นักเรียนได้มีโอกาสเลือกพืชที่จะใช้ด้วยตนเอง นอกจากนักเรียนจะมีความรู้เกี่ยวกับการนำพืชผักมาประกอบอาหาร ตกแต่งจาน แล้วยังได้รับความเพลิดเพลินและเป็นแรงบันดาลใจให้นักเรียนตระหนักถึงคุณค่าและประโยชน์ของผักออร์แกนิคด้วย สองคือนำพืชผักมาเป็นส่วนหนึ่งในการประกอบอาหาร สำหรับห้องอาหารของโรงเรียนฯ เนื่องจากทางโรงเรียนฯ มีบริการอาหารมื้อเช้าและมื้อกลางวันให้กับนักเรียนและพนักงาน นอกจากจะได้มั่นใจว่าได้ทานพืชผักที่มีคุณภาพ สะอาด ปลอดภัยแล้ว ยังสามารถช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายให้กับทางโรงเรียนฯ โดยการบริโภคพืชที่เราปลูกขึ้นเอง
Organic Garden : ระเบียงปลูกผักออร์แกนิค

โรงเรียนสอนประกอบอาหาร เลอโนท ประเทศไทย มีขนาดพื้นที่ประมาณ 4000 ตารางเมตร เป็นอาคาร 3 ชั้น โดยมีการจัดการจัดสรรพื้นที่สาหรับการเพาะปลูกไว้ทั้ง 3 ชั้น ซึ่งพื้นที่ชั้น 1 บริเวณหลังห้องสมุด และพื้นที่โดยรอบโรงเรียนฯ ในส่วนนี้ จะมีต้นไม้ประเภทตกแต่งอาคาร ดูแลง่าย ไม่สามารถรับประทานได้ ,ต้นไม้เน้นที่สามารถรับประทานได้ เพื่อส่งต่อไปยังห้องอาหารของทางโรงเรียนฯ (Restaurant) และสำหรับนำไปประกอบการเรียนการสอนในหลักสูตร

คุณแจ็ค -ทรงเดช ก้านบัว นักจัดสวนและผู้ดูแลสวนผักออร์แกนิค เล่าว่าพื้นที่ปลูกบริเวณชั้น 1 จะเป็นโซนอนุบาล สำหรับเพาะพันธุ์ตั้งแต่เมล็ด เหตุผลที่เลือกปลูกแบบเพาะเมล็ดเป็นส่วนใหญ่เพราะว่าจะได้พืชผักออร์แกนิค 100 % โดยพืชผักที่ปลูกจะแบ่งออกเป็นสองส่วน คือ เพาะเมล็ด ในส่วนที่เป็นไม้เนื้ออ่อน และปักชำ ในส่วนที่เป็นไม้เนื้อแข็ง โดยการคัดสรรพืชผักที่นำมาปลูก นั้นจะยึดหลักที่ประกอบไปด้วย พืชที่สามารถนำส่วนต่างๆ มารับประทานได้ และสามารถผ่านความร้อนและเย็นได้ โดยที่คุณสมบัติของพืชชนิดนั้นไม่เกิดพิษ , พืชที่สามารถเจริญเติบโตได้ ใน แสง อากาศ ดิน น้ำ และ อุณหภูมิ ของโรงเรียนฯ ได้ดี ,พืชที่ทนทานต่อโรคและแมลงได้ดีในระดับหนึ่ง ,พืชที่สามารถขยายพันธุ์และดูแลได้ง่าย และพืชที่มี ใบ ดอก และ ลำต้น ที่มีความสวยงาม
การจัดพื้นที่สำหรับการปลูก

เมื่อมีการเพาะขยายพันธุ์ ที่โซนอนุบาลชั้น 1 จนเป็นต้น จากนั้นพืชผักต่างๆ จะถูกส่งต่อไปยังระเบียงชั้น 2 หรือ ห้องเรียน ซึ่งหลักเกณฑ์ในการจัดสรรต้นไม้ในบริเวณชั้น 2 นี้ ได้แก่ ต้นไม้ “ดอก” สามารถรับประทานได้ และ นาไปตกแต่งจานได้ เช่น เข็มอินเดีย เวอร์บีน่า เดซี่ ต้นไม้ “ใบ” ที่สามารถรับประทานได้ และ นำไปตกแต่งจานได้ และ สกัดเอาน้ำมาใช้ได้ ต้นไม้ “ลำต้น” ที่สามารถรับประทานได้ เช่น ตะไคร้ หอมแบ่ง ทารากอน ส่วนบริเวณชั้น 3 จะเป็นต้นไมประเภทตกแต่งอาคาร ที่ดูแลง่าย ไม่สามารถรับประทานได้
การดูแลพืชผักต่างๆ

ทางโรงเรียนฯ มีการผสมดินปลูกใช้เอง เพื่อให้เหมาะสมต่อเนื่องต่อพืชชนิดนั้นๆ โดยคุณแจ็ค เล่าว่า ในส่วนของดินปลูกจะใช้ดินใบก้ามปูเพราะเนื่องจากว่า มีความโปร่ง ร่วนซุย ซึ่งจะไม่ใช้ส่วนผสมของแกลบ เพราะเวลาที่พืชนำไปใช้หมดแล้วจะ เป็นตะกอนดิน มีความเป็นด่าง รากจะไม่ค่อยโต โดยจะใช้ดินผสม ผสมกัน 1:1 ดินผสมหนึ่งส่วน มะพร้าวหนึ่งส่วน ขุยมะพร้าวหนึ่งส่วน มูลสัตว์ครึ่งส่วน และผสมด้วยปุ๋ยพืชสดที่หมักเองอีกหนึ่งส่วนคลุกเคล้าให้เข้ากัน ซึ่งดินที่ใช้เป็นปุ๋ยพืชสดจะเป็นปุ๋ยที่หมักจากเศษหญ้า และใบไม้ จากการตัดหญ้าสนามเดือนละหนึ่งครั้ง และเก็บนำมาทำปุ๋ยผสมกับน้ำหมัก EM เพราะฉะนั้นสิ่งที่เลอโนท ตระหนักคือ สารเคมีต้องเป็นศูนย์ ด้วยความที่พืชผักที่ปลูกเป็นการนำไปตกแต่งและประกอบอาหาร

สำหรับการให้น้ำ มี 2 ระบบ คือใช้สายยางรดน้ำแบบธรรมดา เนื่องจากพืชแต่ละชนิดมีความต้องการน้าไม่เท่ากัน ดังนั้นการใช้สายยางจะช่วยกะปริมาณน้าที่เหมาะสมแก่พืชแต่ละชนิด และระบบละอองพ่นหมอก ทั้งนี้ในแต่ละวัน จะรดน้ำ 2 ครั้ง ขึ้นอยู่กับความร้อนจากแสงอาทิตย์

โดยการดูแลพืชผักนอกจากการใส่ดิน รดน้ำแล้ว การกำจัดกัดแมลงศัตรูพืช จะใช้น้ำส้มควันไม้ฉีดพ่นตามอาการ หากมีการระบาดมากในช่วงฤดูหนาว อาจฉีดทุกๆ 3-7 วัน กรณีมีการแพร่ระบาดมากจะทาการถอนทิ้ง และตากดินให้แห้งเพื่อลดการแพร่กระจายของแมลง

และนี่คือ สวนปลูกพืชผักออร์แกนิค ที่ใช้พื้นที่บริเวณรอบๆ โรงเรียน และระเบียงของอาคารชั้นเรียน ในการทำแปลงปลูกผักปลอดสารเคมี เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ประกอบการเรียนในห้องเรียน และสำหรับบริโภคของนักเรียนและบุคลากร ซึ่งการปลูกพืชผักยังสร้างความร่มรื่นและความสวยงามให้กับโรงเรียนสอนประกอบอาหาร เลอโนท ประเทศไทย แห่งนี้ด้วย Facebook : Lenôtre School Thailand , https://lenotre.co.th/th