ไอเดียรีโนเวทตึกแถวเป็นบ้านสไตล์ลอฟท์ ของ คุณบี-ฉัตรชัย ฉัตรชุมสาย เราเดินลัดเลาะไปทางด้านหลังเพื่อขึ้นบันไดไปยังชั้น 2 ตามคำเชื้อเชิญของเจ้าของบ้าน พบกับประตูบานใหญ่ที่มีดีไซน์โดดเด่นต่างจากโครงสร้างทั่วไปของตัวอาคาร เมื่อเข้าไปด้านในกลับรู้สึกคล้ายตัวละครในภาพยนตร์ที่อยู่บนท้องถนนเดินหายเข้าไปในมุมตึก แล้วพบว่าตัวเองมาอยู่อีกที่หนึ่งอย่างไรอย่างนั้น
คุณบี-ฉัตรชัย ฉัตรชุมสาย
พื้นที่ภายในห้องถูกรีโนเวทใหม่ทั้งหมดจนไม่เหลือภาพของห้องเดิมอยู่เลย คุณบีเล่าถึงที่มาที่ไปให้เราฟังว่า
“ก่อนหน้านี้ก็เป็นเหมือนห้องอาคารพาณิชย์ทั่วไป ใช้เฟอร์นิเจอร์ลอยตัว แบ่งเป็นห้องๆ มีห้องนอน ห้องน้ำ ห้องครัว ตรงกลางเป็นห้องนั่งเล่นอารมณ์เหมือนคอนโด พื้นที่ชั้นล่างทั้งหมดให้ทาง 7-11 เช่า ส่วนตัวผมอยู่ชั้น 2 และชั้น 3 เป็นพื้นที่โล่งมีห้องไว้สำหรับแม่บ้าน ด้วยความที่ภายในถูกแบ่งเป็นห้องๆ ทำให้บ้านดูมืด อยู่แล้วรู้สึกอึดอัด ผมเลยอยากรีโนเวทใหม่ ทำให้เป็นห้องดูเพล็กซ์แบบลอฟท์ๆ ซึ่งเราก็ชอบบ้านแบบนี้อยู่แล้วด้วย”
โจทย์ที่คุณบีให้กับทีมออกแบบคือ อยากให้ใช้พื้นที่ภายในบ้านให้เต็มที่ จึงออกแบบให้ทุกส่วนเปิดโล่งเชื่อมโยงกัน ในส่วนของชั้น 2 เมื่อเปิดประตูเข้ามาจะพบกับส่วนของห้องครัวที่ดีไซน์เป็นมินิบาร์ไว้สำหรับนั่งเล่น บรรยากาศคล้ายกับคาเฟ่เล็กๆ ถัดเข้าไปเป็นส่วนลิฟวิงที่มีโต๊ะทานอาหารอยู่กลางห้อง ต่อเนื่องกับห้องดูหนัง และโซนเอาต์ดอร์ไว้นั่งเล่นรับลมธรรมชาติและปลูกต้นไม้สีเขียวริมระเบียง ส่วนชั้น 3 ทำใหม่ทั้งหมดแบ่งเป็นห้องนอนของคุณบี ห้องนอนสำหรับแขก แล้วทำพื้นที่ส่วนตัวอย่างห้องแต่งตัว ห้องฟังเพลง และมุมอ่านหนังสือ นอกจากนี้ยังเพิ่มห้องพระไว้อีกห้องหนึ่งด้วย
พื้นที่ภายในรีโนเวตใหม่ให้ทุกส่วนเปิดโล่ง เชื่อมโยงถึงกัน
“ตอนแรกคนออกแบบเขาไม่ได้จะให้เราเลาะพื้นออก แต่ให้ใช้บันไดด้านนอกขึ้นลงเหมือนเดิม ซึ่งผมรู้สึกว่ามันไม่ต่างจากเดิมเลย คือต้องเดินออกไปข้างนอกขึ้นบันไดเพื่อเข้าห้องนอนตัวเอง เลยตัดสินใจเลาะพื้นออกแล้วทำบันไดไว้ในห้องแทน เวลาเข้า-ออกบ้านก็ใช้ประตูเดียวคือชั้น 2 เวลาขึ้น-ลงต้องใช้บันไดในบ้านเท่านั้น ทำให้ดูเป็นส่วนตัวมากขึ้นด้วย”
พื้นที่ส่วนเอาต์ดอร์ออกแบบให้เป็นมุมนั่งเล่น และปลูกต้นไม้ริมระเบียง
เอาพื้นระหว่างชั้น 2 และ 3 ออกส่วนหนึ่ง เพื่อเพิ่มบันไดขึ้น-ลง ภายในบ้าน
การออกแบบทั้งหมดเลือกใช้วัสดุหลักคือ เหล็ก ไม้ และปูน ให้ความรู้สึกดิบในสไตล์อินดัสเตรียลลอฟท์ที่คุณบีชื่นชอบ แต่ก็ดูโปร่งโล่งเนื่องจากโครงสร้างเดิมของตัวอาคารเลือกใช้หน้าต่างและประตูกระจกบานใหญ่
“ความต้องการของผมคืออยากให้เป็นลอฟท์ เลย บางคนอาจจะรู้สึกว่าลอฟท์เหมือนบ้านที่สร้างไม่เสร็จ ตอนแรกๆ น้องที่ออกแบบให้ก็บอกว่าสไตล์นี้ใกล้ตกเทรนด์แล้วนะ แต่เราไม่ได้สร้างบ้านตามเทรนด์ เราสร้างเพราะชอบแบบนี้จริงๆ”
ห้องครัวดีไซน์แบบเปิด ให้มีส่วนของบาร์ไว้สำหรับนั่งจิบเครื่องดื่มได้ด้วย
บาร์ด้านหน้าห้องครัวทำให้รู้สึกเหมือนมีคาเฟ่เล็กๆ อยู่ในบ้านของตัวเอง
ถึงแม้ว่าคาแรกเตอร์ของคุณบีจะดูเป็นคนสบายๆ แต่ถ้าเป็นเรื่องการตกแต่งบ้านคุณบีค่อนข้างใส่ใจในทุกรายละเอียด เพื่อให้ทุกอย่างออกมาตรงกับความต้องการ และมีฟังก์ชันการใช้งานที่ครบถ้วน รวมไปถึงพื้นที่ในห้องครัวที่เราไม่พูดถึงคงไม่ได้ เพราะคุณบีบอกกับเราว่านี่ถือเป็นจุดไฮไลต์ของบ้านเลย “เดิมทีตอนออกแบบก็คุยกับคนออกแบบคิดว่าบันไดน่าจะเป็นจุดเด่นของบ้าน แต่พอทำไปทำมากลายมาเป็นห้องครัวแทน
“เนื่องจากห้องครัวเป็นส่วนที่ต้องเกี่ยวเนื่องกับระบบอื่นๆ อย่างท่อน้ำ ปล่องควันระบายอากาศ เราเลยคงตำแหน่งแปลนเดิมของห้องครัวเอาไว้ บวกกับคุณพ่อคุณแม่เป็นคนจีนเลยถือเรื่องของทิศครัว ซิงก์กับเตาไม่ควรอยู่ใกล้กัน แต่ห้องครัวเก่าก็ยังอยู่ใกล้กัน เราเลยเปลี่ยนแปลนครัวเป็นตัว U แทน โดยให้เตาอยู่ในตำแหน่งเดิม เพราะบังคับด้วยช่องที่เจาะไว้เพื่อระบายอากาศออกไปนอกตัวอาคาร แล้วย้ายซิงก์น้ำมาอยู่อีกฝั่ง พอดีกับที่เราออกแบบตรงส่วนด้านหน้าให้เป็นบาร์มีเก้าอี้สตูไว้นั่งสำหรับจิบเครื่องดื่ม สามารถใช้งานต่อเนื่องกันได้อีกด้วย”
เพิ่มพื้นที่จัดเก็บให้กับห้องครัวด้วยการออกแบบชั้นวางของด้านบนจรดเพดาน
สำหรับการออกแบบห้องครัว นอกจากคุณบีจะจัดสรรพื้นที่การใช้งานได้อย่างลงตัว การเลือกใช้วัสดุ รวมไปถึงลูกเล่นต่างๆ ที่ซ่อนอยู่ในชุดครัวนั้น บอกเลยว่าใครที่เข้ามารับรองว่าต้องชื่นชอบมุมนี้เป็นพิเศษอย่างแน่นอน
“โดยส่วนตัวผมเป็นคนชอบดื่มกาแฟ ช่วงบ่ายๆ จะชอบออกไปนั่งตามร้านกาแฟ มีอยู่วันหนึ่งเราไปนั่งอยู่ที่ร้านสตาร์บัคส์แล้วก็นึกขึ้นได้ว่า ทำไมเราไม่เปลี่ยนอารมณ์ของบ้านให้เหมือนเป็นคาเฟ่ของเราเอง เลยไปหาไอเดียจากร้านกาแฟต่างๆ มาปรับเป็นแบบที่เราชอบ แล้วก็ไปซื้อเครื่องชงกับเครื่องบดกาแฟมาด้วย เหมือนเป็นร้านกาแฟในบ้าน เวลาเพื่อนมาหาก็ชอบนั่งมุมนี้กัน เขาบอกว่าเหมือนเป็นคาเฟ่ เป็นบาร์เหล้า ซึ่งเราเองก็ตั้งใจให้เป็นแบบนั้น
“ตอนแรกคนออกแบบจะให้เราทำเป็นห้องกระจกเหมือนร้านอาหารที่เปิดให้เห็นห้องครัว แต่ผมรู้สึกว่าบ้านก็จะถูกแบ่งเป็นห้องอีก ไม่เปิดโล่งถึงกัน และอากาศก็ไม่ถ่ายเทด้วย เลยเลือกดีไซน์เป็นห้องครัวแบบเปิดแทน สำหรับชุดครัวความตั้งใจแรกคือจะใช้ครัวสำเร็จเป็นสเตนเลส แต่จะดูเป็นครัวร้านอาหารเกินไป เลยเปลี่ยนมาทำเคาน์เตอร์เป็นปูนขัดมัน แต่ใช้ทอปและหน้าบานเป็นสเตนเลส เอาเหล็กเข้ามาผสมผสานให้มีลูกเล่นบ้าง ให้ดูกลมกลืนกับส่วนอื่นของบ้านด้วย”
เลือกใช้หน้าบานและทอปสเตนเลส เพราะดูแลรักษาง่ายและแข็งแรง ทนทาน
เพิ่มลูกเล่นให้ชุดครัวด้วยการเลือกใช้หน้าบานเหล็กฉีกเข้ามาผสมผสาน
ลิ้นชักใต้เคาน์เตอร์ไว้สำหรับจัดเก็บอุปกรณ์อย่างช้อนส้อม หยิบใช้งานง่ายและเป็นระเบียบ
แม้ว่าคุณบีจะชื่นชอบสไตล์ลอฟท์ แต่สำหรับผนังห้องครัวนั้นคุณบีเลือกใช้เป็นกระเบื้องสีขาวแทนการใช้อิฐมอญเปลือย นอกจากจะดูแลรักษาง่ายแล้ว ยังทำให้บรรยากาศในห้องครัวดูอบอุ่น มีชีวิตชีวา ช่วยเบรกความเป็นลอฟท์ได้อย่างลงตัวพอดิบพอดี
ฝั่งถังน้ำแข็งสเตนเลสเข้ากับชุดครัวและเจาะท่อน้ำทิ้งเข้ากับระบบหลัก เป็นไอเดียที่ดีมากทีเดียว
เพิ่มฟังก์ชันจัดเก็บใต้เคาน์เตอร์โดยใช้หน้าบานแบบสไลด์ขึ้นหน้าบนก็ดูเท่ไปอีกแบบ
มาถึงตรงนี้อยู่ดีๆ ก็นึกถึงประโยคที่คุณบีบอกกับเราว่า “ที่ผมชอบสไตล์นี้ เพราะเป็นคนชอบดูหนังมากๆ ทุกครั้งที่ดู เราจะชอบฉากที่พระเอกเดินหายเข้าไปตามมุมตึก หรือผ่านประตูที่ดูเหมือนไม่มีอะไรเลยตามอพาร์ตเมนต์เมืองนอก พอเปิดเข้าไปจะเหมือนเป็นอีกโลกหนึ่งให้ความรู้สึกแบบนิวยอร์กลอฟท์มันดูคาแรกเตอร์ดิบๆ เป็นผู้ชายลุคแมนๆ เลยชอบมาตั้งแต่ตอนนั้น เหมือนกับที่นี่ถ้ามองจากด้านนอกคนก็คงคิดแค่ว่าเป็นอาคารพาณิชย์ธรรมดาทั่วไป” …เป็นอย่างที่คุณบีบอกจริงๆ เห็นด้วยอย่างยิ่งว่าเปิดประตูเข้ามาแล้วความรู้สึกแรกเหมือนเดินเข้ามาในคาเฟ่อย่างไรอย่างนั้น