ประติมากรรมของบ้านโมเดิร์น ที่ไม่ธรรมดา
เมื่อ 9 ปีก่อนเราและทีมงานเคยเดินทางถ่ายทำบ้านตากอากาศของคุณพิเสฐ จึงแย้มปิ่นมาแล้วครั้งหนึ่ง บ้านสไตล์รัสติกที่ดูกลมกลืนไปกับบริบทรอบๆ ไม่ว่าจะโครงสร้างภายนอกหรืองานตกแต่งภายในไม่มีส่วนไหนที่ดูขัดแย้งกับธรรมชาติ เป็นบ้านที่สะท้อนความชัดเจนและบอกเล่างานดีไซน์อย่างตรงไปตรงมา
ครั้งนี้เรามีโอกาสไปเยือนบ้านหลังใหม่ของคุณพิเสฐ ซึ่งเจ้าของบ้านทำให้เห็นแนวคิดการออกแบบในอีกแง่มุม โดยเผยอีกหนึ่งความเป็นตัวตนที่ทำให้เรารู้สึกประหลาดใจ แต่ในความรู้สึกประหลาดใจนั้นยังคงมีกลิ่นอายรัสติกหลงเหลืออยู่ และถูกถ่ายทอดกลายเป็นบ้านสไตล์โมเดิร์นทันสมัยที่มีความเรียบง่ายแต่ถูกห่อหุ้มด้วยความชอบของคุณพิเสฐไว้อย่างชัดเจน
บ้านที่ทำตามฝันของตัวเอง
“ตอนนี้ผมรีไทร์แล้วน่าจะมีเวลาอยู่บ้านมากขึ้น ต้องการทำตามฝันของตัวเอง เลยอยากทำบ้านในแบบที่อยากอยู่ กลายเป็นบ้านหลังนี้ออกมาเป็นสไตล์โมเดิร์นสมัยใหม่ แตกต่างจากบ้านที่เขาใหญ่ที่เป็นแนวคันทรีมากๆ มีไม้เต็มไปหมด แต่ถึงที่นี่จะเป็นบ้านโมเดิร์นการตกแต่งภายในก็ยังคงให้ความรู้สึกอบอุ่น ผมให้โจทย์กับทีมสถาปนิกและอินทีเรียด้วยการกำหนดคำ 3 คำ เมื่อเดินเข้าบ้านหลังนี้แล้วต้องรู้สึก “โอ้” “ว้าว” และ “โอ้มายก้อด”
ก่อนจะตัดสินใจเลือกที่ดินแปลงนี้คุณพิเสฐตระเวนดูทำเลมาแล้วหลากหลายที่ ตั้งแต่บ้านขนาดใหญ่ที่สร้างไว้เสร็จพร้อมเข้าอยู่ แต่ไม่ตรงกับความชอบ จึงเลือกสร้างบ้านในสไตล์ที่เป็นตัวเอง “บ้านที่ผมไปดูเป็นแนวลักซ์ชัวรีเสียส่วนใหญ่ ไม่ใช่แนวที่ชอบเลย พอดีเพื่อนแนะนำให้มาที่นี่ซึ่งเป็นหมู่บ้านเก่าแก่ ประมาณ 50 กว่าปี ดูร่มรื่น น่าอยู่ และปลอดภัย แล้วเขาก็ทำบ้านสำเร็จรูปขายด้วยเหมือนกันแต่ก็ยังไม่ชอบ เผอิญมาเจอบ้านที่สร้างอยู่บนที่ดินแปลงนี้ประมาณ 2 ไร่กว่า ก็รู้สึกถูกใจที่ดินตรงนี้ เราตัดสินใจทำบ้านใหม่โดยไม่รีโนเวท รื้อโครงสร้างเก่าออกทั้งหมด แล้วให้แนวคิดกับสถาปนิกว่าต้องการบ้านสไตล์โมเดิร์น เรียบง่าย โปร่งโล่ง ที่สำคัญคือผมอยากได้เสาบ้านที่เป็น Sculpture ไม่ใช่เสาตรงๆ พอเขาออกแบบมาแล้วถูกใจเลย นั่นอาจจะเป็นเพราะเรารู้ว่าเราต้องการอะไร ภาพที่ออกมาก็เลยชัดเจน”
ด้วยความที่ตัวบ้านอยู่ติดกับสนามกอล์ฟ ทางสถาปนิกจึงออกแบบอาคารให้อยู่ในทิศตะวันตกซึ่งใกล้กับเพื่อนบ้าน แล้วใช้ในส่วนของอาคารเซอร์วิสเป็นตัวบดบังให้มีความเป็นส่วนตัวมากยิ่งขึ้น จากนั้นในส่วนของสวนออกแบบให้เชื่อมต่อกับสนามกอล์ฟ เพื่อให้ดูเป็นพื้นที่ต่อเนื่องถึงกัน เพื่อให้ได้มุมมองที่เป็นวิวสวนขนาดใหญ่
โครงสร้างของบ้านเป็นสเต็ปที่ลดหลั่นกัน
หากสังเกตจากด้านหน้าจะเห็นโครงสร้างของบ้านเป็นสเต็ปที่ลดหลั่นกัน ด้วยข้อจำกัดของหมู่บ้านที่กำหนดให้บ้านมีความสูงไม่เกิน 12 เมตร ทางสถาปนิกจึงออกแบบเป็นพื้นท้องเรียบไร้คาน (Post Tension) ผลลัพธ์ที่ได้ทำให้โครงสร้างบ้านดูบางเฉียบถึงแม้จะประกอบไปด้วยกลุ่มก้อนของตัวอาคารทั้งหมด 3 ส่วนก็ตาม
ก่อนเข้าสู่พื้นที่ภายในบ้านจะเจอกับโถงทางเข้าที่ได้รับการออกแบบไว้อย่างเรียบง่าย ตกแต่งผนังด้วยวัสดุหินเลือกใช้สีโทนอ่อนให้ตัดกับโรงจอดรถซึ่งใช้โทนเข้มกว่าเล็กน้อย เพิ่มลูกเล่นด้วยการทำช่องแสงสกายไลท์เกิดแสงเงาที่น่าสนใจ เมื่อเราเปิดประตูไม้บานใหญ่เข้าไปจะเจอกับสเปซที่ค่อนข้างกระชับขึ้น เป็นการสร้างอารมณ์ให้ผู้มาเยือนเกิดการรับรู้ทางความรู้สึก เปลี่ยนภาพจากมุมมองภายนอกที่เห็นทัศนียภาพของสวนอย่างเต็มตาแล้ว เข้าสู่พื้นที่ภายในที่ออกแบบให้สเปซแคบลง ซึ่งเป็นความตั้งใจของสถาปนิกและคุณพิเสฐ
“หลังประตูไม้สีน้ำตาลอ่อนซึ่งเป็นทางเข้าหลัก ออกแบบให้มีดีไซน์และฟังก์ชันควบคู่ไปด้วยกัน มีห้องสำหรับสุนัข ห้องเก็บรองเท้า อีกฝั่งดีไซน์ให้เป็นตู้สำหรับเก็บของ ทางสถาปนิกออกแบบตำแหน่งของห้องสุนัขอยู่ใกล้กับพื้นที่จอดรถและห้องเมทเพื่อง่ายต่อการดูแล ดีไซน์ห้องสุนัขเป็นช่องกระจกบางส่วน เพื่อให้สุนัขมองเห็นเวลาเรากลับถึงบ้านและสุนัขก็สามารถแอบมองออกมาได้”
บ้านหลังนี้มีลูกเล่นโดยล้อไปกับอารมณ์ความรู้สึก
ด้วยโจทย์ที่ทางคุณพิเสฐต้องการให้บ้านหลังนี้มีลูกเล่นโดยล้อไปกับอารมณ์ความรู้สึก เพื่อให้ทั้งเจ้าของบ้านเองรวมถึงแขกผู้มาเยือนเกิดการรับรู้ นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมพื้นที่บริเวณ Sub-Entrance จึงได้รับการดีไซน์ให้มีสเปซที่กระชับ และเมื่อประตูบานใหญ่สีดำถูกเปิดออกกลับสร้างความประหลาดใจได้อย่างมากตรงกับแนวคิดที่คุณพิเสฐให้ไว้กับสถาปนิก เพราะจากพื้นที่แคบๆ นำไปสู่โซนลิฟวิงรูมออกแบบดับเบิล
วอลลุ่ม ซึ่งข้อดีของการดีไซน์เพดานสูงไม่เพียงจะเปิดช่องแสงขนาดใหญ่เท่านั้น แต่ยังส่งผลให้บ้านดูโอ่โถง สง่างามและโดดเด่น ทั้งยังถูกล้อมไปด้วยพื้นที่สีเขียวเชื่อมพื้นที่ระหว่างภายนอกและภายในให้รู้สึกต่อเนื่อง
“โซนนี้พยายามทำให้เป็นพื้นที่มัลติฟังก์ชันหน่อย รับแขก กินข้าว ครัวเปิดโล่ง โดยเป็นสเปซกว้างๆ ที่เชื่อมกันหมด เวลาแขกมาก็จะเพลิดเพลินกันอยู่ในห้องนี้มาก สามารถนั่งได้นานๆ เพราะทำ High Ceiling กระจกโปร่งเชื่อมต่อให้มองเห็นสวน บ่อปลาคาร์ฟ สระว่ายน้ำ รวมถึงการสร้างสตอรีให้อยู่ในชิ้นงานศิลปะซึ่งผมให้คุณอภิวัฒน์ ซึ่งเป็นศิลปินช่วยออกแบบให้ อย่างเช่น กีตาร์ หมา ปลาคาร์ฟ เป็นเรื่องราวที่ผมชอบผสมอยู่ในนั้น บ่งบอกตัวเราแล้วนำไปตกแต่งไว้ตรงผนังเหนือทีวี”
ภายนอกที่ดูเป็นโมเดิร์นทันสมัย แต่ภายในกลับดูอบอุ่น
จากโครงสร้างภายนอกที่ดูเป็นโมเดิร์นทันสมัย แต่ภายในกลับดูอบอุ่น หนึ่งในนั้นคือ งานผนังจากไม้แดงที่ผ่านการตากแดดมาเป็นระยะเวลา 6 เดือนจนเปลี่ยนกลายเป็นสีเทา และด้วยเสน่ห์ของงานไม้จึงทำให้มีเฉดเข้มอ่อนไม่เท่ากัน รวมถึงพื้นกระเบื้องเลือกใช้ที่ดูแลรักษาง่ายเป็น Pet Friendly
นอกจากโซนลิฟวิงที่ออกแบบไว้อย่างน่าสนใจแล้ว บริเวณโต๊ะรับประทานอาหารก็ดูมีเอกลักษณ์ที่แสนจะพิเศษ ตั้งแต่ขนาดที่ยาวเกือบ 5 เมตร เพื่อให้สอดคล้องกับเนื้อที่ใช้สอย ขาโต๊ะที่เป็นหัวสิงห์ และแผ่นไม้อคาเซียที่มีลายเหมือนเสือเบงกอล ซึ่งเป็นการดีไซน์เฟอร์นิเจอร์ให้เป็นไปในทิศทางเดียวกันกับขาโต๊ะ นอกจากจะเป็นโต๊ะรับประทานอาหารที่รองรับแขกและกลุ่มเพื่อนฝูงแล้วยังเป็นเสมือน Sculpture ชิ้นหนึ่งเพื่อสร้างสีสันให้บริเวณนี้ดูโดดเด่น รวมถึงไฟเซ็นเตอร์พีซเหนือโต๊ะรับประทานอาหารที่โชว์ความเรียบง่ายและรู้สึกว้าวไปพร้อมกัน
ถัดจากโต๊ะรับประทานอาหารมี Wall Sculpture ที่สะท้อนไลฟ์สไตล์ของคุณพิเสฐ จัดวางของสะสมซึ่งมีทั้งจากของสะสมตั้งแต่รุ่นบรรพบุรุษรวมถึงของสะสมของคุณพิเสฐที่ได้จากการท่องเที่ยว ดีไซน์ตู้ขนาดเฉพาะโดยคำนวนระยะให้มีความใกล้เคียงกับฝ้าเพดานที่สูงเกือบ 6 เมตร
จากพื้นที่รับประทานอาหารเข้าสู่ห้องครัวซึ่งเป็นอีกหนึ่งหัวใจหลักของบ้าน จึงออกแบบให้มีเนื้อที่ใช้สอยขนาดใหญ่และกว้าง เนื่องจากคุณนีซ-ทวีลาภ โอสถหงส์ ชื่นชอบการทำอาหาร “เราไปดูครัวมาหลายที่ตามโชว์รูมต่างๆ ส่วนใหญ่ที่เห็นกันก็จะเป็นสีขาว เทา ดำ พอผมกับแฟนไปเห็นครัวสีนี้ก็ชอบเลย ดูไม่น่าเบื่อ ใช้งานได้ครอบคลุม ด้วยบ้านมีสเกลค่อนข้างใหญ่ เราเลยได้พื้นที่ครัวที่ใหญ่ตามไปด้วย”
คุณนีซอธิบายรายละเอียดเกี่ยวกับฟังก์ชันและดีไซน์ห้องครัวเพิ่มเติมว่า “ด้วยโทนของบ้านที่ค่อนข้างเรียบ ก็เลยอยากได้ครัวที่มันดู outstanding หน่อย ตอนแรกดีไซเนอร์เลือกใช้สีที่ค่อนข้างเซฟอย่างขาว เทา เราคิดว่าน่าจะกลืนไป พอดีไปเห็นตัวอย่างสีชุดครัวนี้ที่ทองหล่อก็เลยตัดสินใจเลือก ส่วนแปลนครัวเราออกแบบเอง อยากได้สตูลนั่งตรงเคาน์เตอร์เป็นมินิบาร์ เวลากินอาหารง่ายๆ ก็สามารถนั่งตรงนี้ได้เลย โคมไฟเลือกดีไซน์อินดัสเทรียล”
ดังนั้นหน้าบานชุดครัวสี Spicy Red จึงเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งให้กับการออกแบบพื้นที่ภายในบ้านได้อย่างสมบูรณ์ เติมเต็มความสวยงามด้วยเวิร์คทอปหินไวท์อินเดียซึ่งมีทั้งสีขาว สีเทา และสีแดงดูกลมกลืนกันกับหน้าบานครัว และเก้าอี้สตูล
แปลนครัวออกแบบเป็นรูปตัวแอล กำหนดฟังก์ชันไว้เป็นหมวดหมู่เริ่มตั้งแต่บิลต์อินเครื่องใช้ไฟฟ้าไว้ด้วยกันอย่าง ตู้เย็น เตาอบ ไมโครเวฟ ต่อเนื่องด้วยพื้นที่ส่วนปรุงซึ่งเลือกใช้เตาไฟฟ้า ใกล้ๆ กันเป็นส่วนล้างโดยพื้นที่เหนืออ่างล้างจานเปิดมุมมองด้วยกระจกบานใหญ่ มองออกไปเห็นต้นมะกอกโอลีฟฟอร์มสวย เพิ่มพื้นที่ใช้สอยให้ใช้งานได้มากขึ้นด้วยไอส์แลนด์ขนาดใหญ่ ใช้งานได้เอนกประสงค์ตั้งแต่พื้นที่สำหรับเตรียมอาหาร รอจัดเสิร์ฟไปยังโต๊ะรับประทานอาหาร นอกจากนี้ยังเพิ่มอ่างล้างจานไว้อีกหนึ่งจุด โดยไม่ต้องรอหากต้องการใช้งานในช่วงเวลาเดียวกัน บนไอส์แลนด์ยังเพิ่มลูกเล่นด้วยการติดตั้งแผ่นไม้ขนาดใหญ่ นอกจากจะไว้สำหรับกำหนดขอบเขตเป็นพื้นที่สำหรับรับประทานอาหารมื้อง่ายๆ แล้วยังเป็นการโชว์ดีไซน์ที่เข้ามาเบรคพื้นที่ห้องครัวที่เลือกใช้สีโทนร้อน
พื้นที่ใช้สอยในมุมถัดไปถูกดีไซน์ให้ดูกระชับขึ้น
พื้นที่ใช้สอยในมุมถัดไปถูกดีไซน์ให้ดูกระชับขึ้น จากฝ้าเพดานสูงกดต่ำลง บีบสเปซคอร์ริดอร์ที่แคบลง เป็นการปรับอารมณ์ให้เกิดอีกหนึ่งความรู้สึกก่อนจะเข้าสู่มุมด้านในซึ่งเป็นวอลล์แกลอรีของคุณนีซที่เข้าคอร์ส เรียนรู้เทคนิคการทำอาหารที่เลอ กอร์ดอง เบลอ และประสบการณ์ทำงานในการเป็นเชฟตามที่ต่างๆ โดยบริเวณนี้ตกแต่งผนังด้วยไม้ยาคิสุกิ (ไม้สนญี่ปุ่นเผาไฟ) และพื้นกระเบื้องที่คุมโทนสีให้กลมกลืนกับโครงสร้างภายนอก เป็นอีกโซนน่าสนใจที่ออกแบบทางเดินให้คู่ขนานไปกับสวนหินโดยมีต้นมะกอกโอลีฟปลูกอยู่ตรงกลางดูโดดเด่น
เชื่อมเข้าสู่พื้นที่ส่วนตัวเป็นบันไดทางขึ้นไปยังห้องนอนซึ่งอยู่บริเวณชั้น 2 และชั้น 3 ใช้วัสดุเรียบง่ายผสมผสานด้วยงานเหล็ก ไม้ กระจก ออกแบบเป็นโถงขนาดใหญ่ ตกแต่งด้วย Sculpture ที่ทำจากเศษวัสดุ “ผมสั่งศิลปินท่านหนึ่งเขาเป็นคนรุ่นใหม่ ประกิต สีหะวงษ์ โดยให้โจทย์และคอนเซ็ปต์ว่า Listen to Your Heart ใส่เรื่องราวของผมลงไปในชิ้นงาน ว่าในใจผมมันมีอะไร งานชิ้นนี้ก็จะรวบรวมสิ่งที่ชอบทั้งเรื่องของดนตรี ดำน้ำ กอล์ฟ ดำน้ำ อาหาร ท่องเที่ยว และการเดินทาง”
ห้อง Stuckbar เล่าเรื่องราวของเจ้าของบ้าน
อีกหนึ่งห้องที่น่าสนใจมากๆ ก็คือ ห้อง Stuckbar สามารถถ่ายทอดตัวตนของเจ้าของบ้านได้เป็นอย่างดี “ห้องนี้ออกแบบคล้ายๆ มิวเซียม เหมือนเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับชีวิตผม ตั้งใจไว้ว่าเวลากินข้าวเสร็จก็มานั่งฟังเพลง เล่นดนตรี คุยกันอยู่ในห้องนี้ บรรยากาศคล้ายบ้านที่เขาใหญ่ มีของเก่าที่ผมได้รับมรดกตกทอดมาตั้งแต่รุ่นคุณปู่ที่ท่านสะสมไว้ ก็เลยนำมาตกแต่งไว้ในห้องนี้ คิดว่าได้ประโยชน์และดีกว่าเก็บไว้ในห้องเก็บของ นอกจากนั้นก็มีเรื่องราวที่เล่าด้วยภาพถ่ายสมัยตอนผมเป็นเด็กๆ เกี่ยวกับการเดินทาง ผมคิดว่าห้องนี้เป็นห้องที่รีแลกซ์ละลายความเป็นทางการ มาแล้วคุยกันเฮฮา สบายๆ ตกแต่งในสไตล์ที่ผมชอบ แล้วตั้งชื่อว่า Stuckbar จริงๆ ตั้งใจจะทำไว้ที่ออฟฟิศ แต่ทำได้ไม่เต็มที่ผมก็เลยดีไซน์ใส่ไว้ที่นี่ให้เต็มรูปแบบไปเลย สามารถออกไปนั่งข้างนอกได้ โดยเราทำพื้นที่นอกชานนั่งด้านนอก บรรยากาศเหมือนผับสไตล์อังกฤษออกไปสูบบุหรี่ สูบซิการ์ได้”
พื้นที่นอกชานเชื่อมต่อระหว่างพื้นที่ภายในและภายนอก
พื้นที่นอกชานขนาดใหญ่เชื่อมต่อระหว่างพื้นที่ภายในและภายนอกเปิดรับลมและมองเห็นวิวสวน สนามกอล์ฟ ตกแต่งด้วยบ่อปลาคาร์ฟและต้นเสม็ดแดง เรียกว่าต้นไม้ต้นนี้เปรียบเสมือน Sculpture Form ที่สวยงามด้วยรูปฟอร์มของกิ่งไม้ที่โน้มเอียงเข้าหาบ่อปลาคาร์ฟและห้องนั่งเล่น ส่วนพื้นที่ถัดไปต่อจากบ่อปลาคาร์ฟเป็นสระว่ายน้ำยาวขนานอยู่ภายใต้โครงสร้างที่มีลักษณะเหมือนงาน Sculpture ที่บอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับสถาปัตยกรรมแบบ Brutalist ด้วยการใช้คอนกรีตเปลือย แสดงเนื้อแท้ของวัสดุที่เป็นตัวเองอย่างชัดเจน
บ้านหลังนี้สะท้อนให้เราเห็นถึงความฝันของเจ้าของบ้านที่ผันแปรไปตามยุคตามสมัย แต่เรื่องราวที่ไม่เคยเปลี่ยนเลยคือความชอบที่บอกเล่าตัวตนของคุณพิเสฐ จึงแย้มปิ่น ซึ่งภายในถูกประดับประดาไปด้วยงานประติมากรรม เฟอร์นิเจอร์และของสะสม หลอมรวมให้ที่นี่เต็มไปด้วยเสน่ห์ โดยไม่ยึดติดกับกรอบเดิมๆ กลายเป็นบ้านโมเดิร์นแต่อบอุ่นแบบไม่อิงกระแสที่ไม่เพียงเล่นกับอารมณ์ความรู้สึกให้กับผู้มาเยือนเท่านั้นแต่ยังเผยตัวตนของเจ้าของบ้านไว้อย่างชัดเจน