Garden Kitchen & Home

D’ Villa Dream Garden ปลูกกุหลาบไม่ยากอย่างที่คิด


คุณดาว-ดร. วราภรณ์ ตั้งจิตรเจริญ เริ่มต้นปลูกกุหลาบจากความชอบและหลงใหลในเสน่ห์ของมัน ไม่ว่าจะเป็นความสวยงามของกลีบดอก สีสันที่แสนสดใส ทั้งยังให้กลิ่นหอมเย้ายวนใจ จากทดลองปลูกเพียงไม่กี่ต้นก็เพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อยๆ จนต้องหาพื้นที่เพื่อขยับขยาย จึงเป็นที่มาของสวนกุหลาบ D’ Villa Dream Garden แห่งนี้ นอกจากจะมีกุหลาบหลากหลายสายพันธุ์ให้นักปลูกได้มาเลือกชมเลือกซื้อกันแล้ว ที่นี่ยังเปิดต้อนรับทุกคนที่อยากแวะเวียนมาเดินเล่นหรือนั่งพักผ่อนท่ามกลางบรรยากาศร่มรื่นภายในสวน ซึ่งคุณดาวตั้งใจออกแบบตกแต่งให้มีกลิ่นอายแบบสวนสไตล์อังกฤษ น่ารัก และอบอุ่นมากเลยทีเดียว

เราใช้เวลาขับรถออกจากกรุงเทพฯ ไม่ถึง 2 ชั่วโมงก็เดินทางมาถึงสวนกุหลาบของคุณดาวที่บางพระ จังหวัดชลบุรี หลังจากกล่าวคำทักทายและเล่นกับเจ้ามูแลง (แมวส้มของคุณดาวที่มีชื่อมาจากสายพันธุ์กุหลาบซึ่งมีดอกสีส้ม) เล็กน้อย บทสนทนาของพวกเราก็เริ่มต้นขึ้น “ย้อนไปช่วงโควิด-19 ทุกคนต้องรักษาระยะห่างกักตัวอยู่บ้านกัน เราเลยอยากหาอะไรมาปลูกก็นึกถึงดอกกุหลาบเป็นอย่างแรก เพราะปกติจะเป็นคนที่ชอบซื้อดอกกุหลาบไปถวายพระอยู่แล้ว เราก็ไปหาซื้อที่สวนมาทดลองปลูกก่อน 5 ต้น จนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เกือบ 200 ต้น พื้นที่ในบ้านเริ่มไม่พอเลยรู้สึกว่าอยากมีที่ที่เอาไว้ปลูกกุหลาบได้เยอะๆ จากนั้นก็มองหาที่ดินจนมาเจอที่นี่ดูสงบร่มรื่นและอยู่ไม่ไกลจากบ้าน สามารถเดินทางมาดูแลได้สะดวก” คุณดาวเล่าให้ฟังอย่างเป็นกันเอง

โดยความตั้งใจแรกเพียงแค่อยากปลูกเป็นงานอดิเรก “ตอนแรกไม่ได้คิดว่าจะทำเป็นร้านกุหลาบอะไรเลย แค่ออกแบบเลย์เอาต์ว่าเราจะปลูกกุหลาบยังไง อยากได้เป็นสวนสไตล์อังกฤษ มีโรงเรือน มีบ้านพักหลังเล็กๆ จากนั้นก็ให้คนมาจัดสวนตามไอเดียของเรากับสั่งทำบ้านน็อกดาวน์ พอทำพื้นที่ส่วนแรกเสร็จเรียบร้อยออกมาสวยอย่างที่คิดไว้ ประกอบกับยังมีพื้นที่เหลืออีกเยอะเลยค่อยๆ ทำส่วนอื่นเพิ่มเติม โดยหลักๆ จะมีเรากับแม่เข้ามาดูแล เวลากุหลาบออกดอกสวยงามก็จะมีแค่พวกเราที่ได้เห็น เลยมีความคิดว่าอยากเปิดให้คนอื่นได้เข้ามาชมความสวยงามของกุหลาบอย่างที่เราได้เห็นบ้าง”            

“นอกจากนี้ยังคิดในมุมตอนที่เราเป็นลูกค้า ตอนเริ่มปลูกแรกๆ เราหาซื้อกุหลาบทั้งในชลบุรีและจังหวัดใกล้เคียงว่ามีที่ไหนให้ไปเดินเลือกซื้อต้นกุหลาบได้บ้าง ปรากฏว่าไม่มีเลย ส่วนใหญ่ต้องสั่งซื้อออนไลน์จากจังหวัดเชียงใหม่ หากมีสวนให้ได้เข้ามาเลือกดูกุหลาบ ถ้าเราเป็นลูกค้าเราคงชอบแบบนี้เหมือนกัน เลยกลายเป็น D’ Villa Dream Garden แห่งนี้ขึ้นมา จากเดิมที่มีแค่โรงเรือนเดียวเล็กๆ เราจึงทำโรงเรือนเพิ่ม ออกแบบสวนให้เต็มพื้นที่ ทำมุมน้ำตกสร้างบรรยากาศให้ร่มรื่นใกล้ชิดธรรมชาติ ถึงจะเน้นซื้อขายกุหลาบเป็นหลัก แต่เราก็อยากให้ทุกคนที่มาได้ฮีลใจ และได้ชาร์จพลังกลับไปด้วย”

ส่วนการปลูกกุหลาบที่ใครๆ บอกว่ายากนั้น “จริงๆ ไม่ยากแต่ก็ไม่ได้ง่าย (หัวเราะ) เหมือนเป็นกับดักของคนที่เข้าวงการกุหลาบ ตอนแรกปลูกได้ออกดอกสวยคล้ายหลอกให้ตายใจ พอปลูกไปเรื่อยๆ จะรู้ว่ามีรายละเอียดค่อนข้างเยอะ มีโรคแทบทุกฤดูกาล ต้องมีวินัย ใส่ใจดูแลเขาทุกวัน เลยเริ่มเข้าใจว่ามันไม่ง่ายเลยแต่สิ่งนี้กลับเป็นเสน่ห์ที่ทำให้เราหลงใหลในการปลูกกุหลาบ ท้าทายให้เราต่อสู้เอาชนะ จริงๆ ปลูกกุหลาบเหมือนเปลี่ยนชีวิต ทำให้เรามีระเบียบวินัย เอาจริงเอาจัง เช่น ต้องรดน้ำทุกวัน ตัดแต่งกิ่ง เด็ดใบร่วง คอยดูว่ามีแมลงไหม ทุก 7 วันต้องให้ปุ๋ยให้ยา เหนื่อยแค่ไหนก็ต้องทำ ถ้าเราทำได้กุหลาบก็จะออกดอกสวยให้ได้ชื่นชมอย่างแน่นอน แต่ถ้าไม่สวยก็เหมือนเป็นสัจธรรมให้เราได้เรียนรู้ที่จะปล่อยมันไป การปลูกกุหลาบจึงค่อนข้างมีความละเอียดอ่อนมาก

“ถ้าจะให้แนะนำสำหรับมือใหม่ที่อยากปลูกกุหลาบ อย่างแรกต้องมีแดด ถ้าเราเลี้ยงใต้ต้นไม้ใหญ่เขาจะไม่ตายแต่ไม่ออกดอก หรืออาจจะค่อยๆ โทรมลง เพราะกุหลาบเป็นไม้ดอก ชอบน้ำ ชอบแดด ต้องสังเคราะห์แสง เพราะฉะนั้นพื้นที่ที่จะปลูกควรมีแดดอย่างน้อยครึ่งวันหรืออย่างน้อย 4 ชั่วโมงต่อวัน แต่กุหลาบบางสายพันธุ์ก็สามารถปรับตัวและอยู่ได้ ไม่มีกฎเกณฑ์ตายตัว ระหว่างปลูกต้องเรียนรู้อยู่ตลอดเวลา กุหลาบแต่ละสายพันธุ์ก็จะมีนิสัย มีคาแรกเตอร์ไม่เหมือนกัน บางพันธุ์ปลูกในที่มีแดดจัดๆ ถึงจะออกดอก บางพันธุ์แค่แดดรำไรๆ ก็ให้ดอกสวยงามแล้ว เรื่องสภาพอากาศก็เป็นส่วนสำคัญ เราปลูกที่ชลบุรียังไงก็ต้องต่างกับกุหลาบที่ปลูกในจังหวัดเชียงใหม่ ทุกคนต้องปรับให้เข้ากับพื้นที่หรือบ้านของตัวเอง เราเองก็เรียนรู้จากประสบการณ์ ปลูกตายไปก็เยอะ ทุกวันนี้ก็ยังมีตาย แต่แค่ตายน้อยลง”

“สำหรับดอกกุหลาบสายพันธุ์ญี่ปุ่นจะเลี้ยงง่าย เป็นที่นิยม กลิ่นหอม มีสไตล์ กลีบดอกหลากหลายต่างจากสายพันธุ์อังกฤษ ปลูกแล้วรู้สึกมีกำลังใจ อย่างน้องชาร์มมีแล้วก็อยากมีอีก บอกเลยว่าวงการกุหลาบเข้าแล้วออกยาก คนที่ชอบปลูกกุหลาบทุกคนน่าจะเป็นเหมือนกัน”            

สำหรับโรคที่มากับกุหลาบ คุณดาวบอกเพิ่มเติมว่า “โรคยอดฮิตในฤดูร้อนคือโรคที่มากับเพลี้ยไฟ จะทำให้หน้าดอกไหม้ เพลี้ยไฟจะดูดกินน้ำเลี้ยงของดอกและใบจนดำ คนที่ปลูกกุหลาบแรกๆ เห็นแล้วจะรู้สึกห่อเหี่ยว หมดกำลังใจได้ พอฤดูฝนจะเบาลง เพราะเพลี้ยไฟไม่ชอบความเย็นแต่สิ่งที่จะมาแทนคือราต่างๆ ราดำ ราสนิม ราใบจุด ส่วนโรคทั่วไปที่มีอยู่ทุกฤดูคือไรแดง”

แล้วการปลูกในโรงเรือนแบบนี้มีข้อดีอย่างไรบ้าง เราถามต่อ “ไม่ใช่ว่ามีโรงเรือนแล้วเพลี้ยไฟเข้าไม่ได้นะ แต่ช่วยป้องกันแมลงปีกแข็งที่ชื่อว่าด้วงกุหลาบ เขาจะมากัดกินใบและทำให้ต้นโทรมจนตาย ใบของดอกกุหลาบที่ปลูกด้านนอกจะไม่สวยเท่าต้นที่อยู่ในโรงเรือน เป็นด้วงที่จะกินแค่กุหลาบตามชื่อเลย และข้อดีของโรงเรือนยังช่วยกรองแสงและลดความแรงของฝนได้อีกด้วย”

สุดท้ายถามถึงเสน่ห์ของกุหลาบและสายพันธุ์ที่คุณดาวชื่นชอบเป็นพิเศษ “ความไม่น่าเบื่อในการปลูกกุหลาบคือเขามีกลิ่นหอม กลิ่นของแต่ละสายพันธุ์จะไม่เหมือนกันเลย แล้วดอกกุหลาบมีเป็นร้อยเป็นพันสายพันธุ์ ซึ่ง 1 สายพันธุ์จะมีแค่ 1 สี ไม่มีซ้ำ ถ้าเราไปต่างประเทศอย่างญี่ปุ่นก็จะเจอสายพันธุ์ที่ไม่เคยรู้จักอีกมากมาย เสน่ห์ของกุหลาบมันไม่มีวันจบสิ้น เราเองก็เหมือนได้เรียนรู้อยู่ตลอดเวลา ในสวน D’ Villa Dream Garden ก็มีกุหลาบหลายร้อยสายพันธุ์แต่ที่เราชอบที่สุดคือ ชาร์ม (Charm) แปลว่ามีเสน่ห์ตามชื่อสายพันธุ์ของเขาเลย บางคนอาจจะเรียกว่าชาร์มมิ่ง มีสีม่วงอ่อน กลิ่นหอมมากและบานอยู่นาน

หลังจากพูดคุยกับคุณดาวเรียบร้อยแล้วก็ถึงเวลาเดินชมความสวยของดอกกุหลาบกันแล้วล่ะ ป.ล. ที่นี่มีเครื่องดื่มสูตรโฮมเมดของแม่คุณดาวไว้บริการด้วย …ส่วนเราขอตัวไปเดินชมสวนจิบเครื่องดื่มให้ชื่นใจก่อนนะ

เปิดวันเสาร์-อาทิตย์ 9.30 – 16.30 น.
ดูข้อมูลวันและเวลาเปิด/ปิด เพิ่มเติม ได้ทาง Facebook : D’Villa Dream Garden Instagram : d.villa.dream.garden
หรือโทร. 06 2639 4515


You Might Also Like...