ดอกเล็กคุณค่ามหาศาล เก๊กฮวยกับเรื่องเล่าจากถ้วยชา

Chrysanthemum (ออกเสียงว่าคริ-แซน-เธอะ-มัม” หรือ “คริ-แซน-ธิ-มัม) หรือ Chrysanthemum Tea ได้ยินแค่ชื่อภาษาอังกฤษ บางคนอาจจะยังงงๆ ว่ามันคืออะไร แต่ถ้าเห็นดอกต้องร้อง อ้อ! เพราะมันคือ ชาดอกเก็กฮวยนั่นเอง

ดอกเก๊กฮวยเป็นพืชพื้นเมืองของประเทศจีน มีบันทึกว่าถูกนำมาชงเป็นเครื่องดื่มครั้งแรกในสมัยราชวงศ์ซ่ง (Song Dynasty (ช่วงค.ศ. 960–1279) ดอกเก๊กฮวยที่เราใช้กันอยู่ทุกวันนี้มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Chrysanthemum indicum Linn. จัดอยู่ในวงศ์ Compositae ถึงแม้ว่าจะจัดเป็นดอกไม้ตระกูลเดียวกับดอกเบญจมาศแต่มีขนาดเล็กกว่ามาก ในประเทศไทยนิยมเรียกว่าเบญจมาศหนู หรือเบญจมาศสวน ลักษณะของต้นเก๊กฮวยจะเป็นไม้ล้มลุกสามารถปลูกได้ดีในพื้นที่อากาศหนาว ดังนั้นในประเทศไทยนิยมปลูกในเขตภาคเหนือมากกว่า แต่คุณภาพของดอกไม่ดีเท่ากับที่ปลูกในประเทศจีน   มีฤทธิ์เป็นยาถอนพิษ ดับร้อน รักษา เวียนศีรษะ นอกจากนี้ยังช่วยป้องกันโรคเส้นเลือดหัวใจตีบ ช่วยขยายหลอดเลือด ลดการเกิดภาวะหัวใจล้มเหลว และโรคความดันโลหิตสูง

ดอกเก๊กฮวยมี 2 สี คือสีเหลือง และสีขาว ซึ่งมีสรรพคุณทางยาไม่เหมือนกัน เก๊กฮวยดอกเหลืองมีสารแคโรทีนอยด์ (Carotenoid) เป็นองค์ประกอบดังนั้นจึงช่วยบำรุงสายตา บำรุงตับ แก้ไข้ บรรเทาอาการวิงเวียนศีรษะ หน้ามืดได้ ในขณะที่เก๊กฮวยดอกขาวมีคุณสมบัติ แก้ร้อนใน หากใช้ร่วมกับใบไผ่ขม และสะระแหน่ จะช่วยแก้ไอและบำรุงปอด ตำรายาจีนระบุว่าเวลาที่เราใช้สายตามากเกินไปดวงตาจะล้า เก๊กฮวยขาวถือเป็นตัวยาหลักที่ใช้ในการรักษาโรคที่เกี่ยวกับสายตาโดยเฉพาะ

วิธีการต้มน้ำเก๊กฮวยค่อนข้างง่าย คือ ต้มน้ำให้เดือดก่อนแล้วจึงใส่ดอกเก๊กฮวยแห้งลงไป ต้มให้ได้สีและกลิ่นตามต้องการ กรองดอกออก แล้วจึงใส่น้ำตาลกรวด หรือน้ำตาลทรายขาวลงไปให้หวานตามชอบ หรือ ถ้าไม่สะดวกต้มที่ละหม้อก็สามารถชงใส่กระบอกเก็บความร้อนแบบชาจีนทั่วไปคือใส่ดอกเก็กฮวยลงไป 2-3 ดอกใส่น้ำร้อนลงไป สามารถจิบไปเรื่อยๆได้ทั้งวัน

แหล่งซื้อดอกเก๊กฮวยคุณภาพดีคงไม่พ้นเยาวราชแต่ปัจจุบันก็มีสวนดอกไม้กินได้ที่ปลูกดอกเก็กฮวยขายทั้งแบบonline และ วางขายหน้าร้านอยู่ทั่วไป เวลาซื้อต้องดูสภาพดอกให้ดีว่าดอกใหญ่หรือเปล่า สภาพดอกสมบูรณ์หรือไม่ พยายามหลีกเลี่ยงแบบกดอกแตก หรือ ช้ำ ดอกแห้งควรสีอ่อนจะดีกว่าสีคล้ำ เพราะเป็นของใหม่ จะเก็บได้นานกว่า และคุณภาพดีกว่า

สำหรับคนที่มือเย็นการปลูกต้นเก๊กฮวยคงไม่ยากเท่าไรเพราะสามารถหาพันธุ์ได้ตามร้านขายต้นไม้  เวลาเก็บควรเลือกดอกสวยๆ เมื่อได้แล้วค่อยๆ ล้างน้ำเพื่อกำจัดสิ่งสกปรกออกให้หมด ก่อนเด็ดใบเขียวๆ ออก นำดอกที่ล้างแล้วใส่ในกระทะหรือหม้อ คั่วด้วยไฟอ่อนๆ จนมีสีเหลืองเล็กน้อย จึงพรมเหล้าขาวและน้ำลงไป จากนั้นจึงนำไปตากแดดให้แห้งหรือจะใช้เครื่องอบไล่ความชื้นก็ได้   เมื่อแห้งแล้วให้เก็บไว้ในภาชนะแห้งสะอาดปิดให้มิดชิด แต่ถ้าไม่ไหวจะซื้อซื้อเอาก็เป็นทางเลือกที่ง่ายกว่า 

Petchlada

Petchlada

ฝ่ายอาหารของ@Kitchen ทีว่างเป็นไม่ได้ต้องจัดทริปไปชิมของอร่อย