A Clay Café คาเฟ่กึ่งสตูดิโอเซรามิกที่แสนลงตัวในย่านสาธร บ้านหลังใหม่ของคุณแหวน เจ้าของแบรนด์ A Clay Ceramic ที่อยากส่งต่อความรัก และความอร่อย ผ่านถ้วยชามอันเป็นเอกลักษณ์ ในบรรยากาศสบายๆ นั่งได้ทุกวัน ที่สำคัญคือราคายังเฟรนด์ลี่แบบสุดๆ
คุณแหวนตั้งใจรีโนเวตทาวน์เฮาส์ยุค 80 ให้กลายเป็นสตูดิโอเล็กๆ สำหรับทำงานเซรามิก ประกอบกับอยากให้มีที่นั่งทานกาแฟ และอาหารง่ายๆ ซึ่งได้คุณปุ้ย สถาปนิกจาก Physicalist-architects เป็นคนออกแบบและรีโนเวทให้ใหม่ ภายในร้านแบ่งออกเป็น 3 โซน ชั้นล่างเป็นพื้นที่สำหรับเวิร์คชอปเซรามิก ขึ้นมาชั้นหนึ่งเป็นส่วนของคาเฟ่ และชั้นสามเป็นส่วนของอาร์ตแกลอรี่สำหรับแสดงงานศิลปะของคุณแหวนและเพื่อนศิลปิน (คุณแหวนบอกว่าอีกไม่นานเกินรอ)
คุณปุ้ยผู้ออกแบบ และเป็นหนึ่งในหุ้นส่วนของร้านเล่าให้ฟังว่า “เนื่องจากพื้นที่ของแต่ละชั้นเหลื่อมกันเยอะ ก็เลยออกแบบให้ระหว่างชั้นของคาเฟ่กับส่วนที่นั่งเชื่อมโยงกัน เพราะบางทีคนมากินกาแฟก็อยากจะคุยเรื่องเซรามิก คนนั่งทำเซรามิกก็สามารถใช้บริการคาเฟ่ได้ โดยร้านนี้เราหุ้นกันสี่คน มีแหวนดูแลเวิร์คชอป ปุ้ยดูแลเรื่องอาหารและบริการ แล้วก็เพื่อนอีก 2 คน เป็นกำลังเสริมเรื่องบริหารจัดการ”
ตัวดีไซน์ของร้านได้ถูกออกแบบมาในสไตล์อบอุ่น เน้นโทนสีน้ำเงินขาว โดยยังเก็บรูปแบบบ้านเดิมไว้ มีการเลือกใช้วัสดุของบ้านเก่ามาดัดแปลงใหม่ อย่างเช่น บานเหล็กดัด ที่ได้ปรับแปลงมาเป็นชั้นวางของในสตูดิโอ และบางส่วนของเคาน์เตอร์
คาเฟ่ด้านหน้าออกแบบให้มีสเปซต่อเนื่องไปกับโซนทีนั่งชั้นสอง มีเคาน์เตอร์กลางที่ออกแบบให้เป็นชั้นวางโชว์เซรามิกของคุณแหวน ให้ความเป็นส่วนตัวสำหรับคนที่มานั่งคนเดียว แบบไม่ต้องกลัวเปลี่ยวอีกด้วย “ด้วยความที่เราจบอาร์ตมาทั้งคู่ ก็จะช่วยกันออกแบบ เราอยากได้แบบไหนก็ออกแบบตรงนั้นเยอะหน่อย อย่างตรงบาร์พี่ปุ้ยก็จะดีไซน์แบบที่ชอบ ส่วนแหวนก็จะดูตรงสตูดิโอ โดยแต่ละมุมของร้าน ก็แอบจะโชว์เซรามิกไปด้วย ”
ชั้นล่างเป็นพื้นที่ของสตูดิโอเวิร์คช็อปเซรามิก และเป็นห้องทำงานของคุณแหวน ซึ่งได้ปรับเปลี่ยนส่วนครัวให้กลายเป็นพื้นที่สำหรับวางเตาอบ มีการปรับผนังด้านบนให้กลายเป็นช่องแสงและระบายอากาศ “ตอนแรกปัญหาของชั้นล่าง คือไม่ระบายอากาส เราก็เลยเจาะช่องด้านบนเพื่อดึงแสง มีการใช้วัสดุจากบ้านเดิมอย่างรั้วบ้าน ที่นำมาทำชั้นวางของ ข้างหลังตู้เป็นครัว พยายามใช้วัสดุที่มีอยู่เดิมมาดีไซน์ให้เข้ากับของใหม่ ”
สำหรับกิมมิกที่น่ารักของร้านคือการเสิร์ฟเครื่องดื่มในภาชนะเซรามิกซึ่งคุณแหวนและเพื่อนๆ ตั้งใจทำขึ้นมาเอง โดยแต่ละครั้งลูกค้าก็จะได้รับเครื่องดื่มที่เสิร์ฟมาในถ้วยชามน่ารักๆ ไม่ซ้ำกันเลย หากว่าใครชอบใบไหนเป็นพิเศษก็สามารถเลือกซื้อกลับบ้านไปได้ด้วยนะ ส่วนใครอยากเพ้นต์จาน หรือแก้วน้ำเอง ก็สามารถหยิบจานมาเพ้นต์ได้ตามใจชอบ โดยราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 400 บาทขึ้นไปต่อชิ้นรวมเผาด้วยนะคะ
ตัวเมนูที่เราได้ลองชิม และอยากนำเสนอมากๆ นั่นก็คือ น้ำย่านางใบเตยน้ำผึ้ง (45 บาท ) เป็นน้ำสมุนไพร ที่ให้กลิ่นหอมอ่อนๆ ของใบย่านาง ผสมกับความเปรี้ยวหวานของน้ำผึ้ง และ ชาเขียวมัจฉะร้อนๆ (50บาท) ทานคู่กับขนมกลีบลำดวนที่เสิร์ฟมาในถ้วย (เราชอบถ้วยนี้มาก)
“ เราคิดว่าย่านสาธรเป็นย่านที่ค่อนข้างเครียด ก็เลยอยากให้ที่นี่เป็นที่ๆ เอาไว้รีแลกซ์ก่อนกลับบ้านของชาวออฟฟิศ อารมณ์เหมือนเปิดบ้านให้เพื่อนมานั่งกิน อยากให้เค้าได้รับบริการดีๆ อาหารไม่ได้หวือหวา รอเครื่องดื่มไปก็เดินชมจานชามของเรา เราไม่ได้อยากให้ทุกคนมาเพราะมันเป็นคาเฟ่ที่ดูแปลกใหม่ แต่อยากให้มาเพราะว่ามันอร่อย ไม่ได้อยากทำอาหารเป็นอุตสาหกรรม แต่เราทำด้วยใจรัก
สำหรับตอนนี้ทางร้านยังเปิดเป็น Soft Opening อยู่ ซึ่งคุณปุ้ยกับคุณแหวนวางแพลนไว้ว่าหากเปิดเป็น Grand Opening แล้วก็จะมีอาหารสไตล์ Slow Cook เสิร์ฟตอนเย็นด้วย ใครที่อยากมาทานอาหาร ก็สามารถมาชิมกันได้ตั้งแต่ วันที่ 16 มิถุนายนนี้ค่ะ
พิกัด : สาทรซอย 8 ถนนสาทร (BTS ช่องนนทรี)
FACEBOOK : aclaycafe
เปิดบริการ 11.00 – 12.00 ( วันนี้ – 15 มิถุนายน)
11.00 – 22.00 (ตั้งแต่ 16 มิถุนายนเป็นต้นไป)