อะโวคาโด (Avocado) หรือที่บ้านเราเรียกกันว่า ลูกเนย จัดเป็นผลไม้ชนิดหนึ่ง (Fruit) ที่มีถิ่นกำเนิดในเม็กซิโก ผลอะโวคาโดที่นำมารับประทานจะเป็นทรงกลมรีคล้ายๆ ลูกแพร์ เปลือกสีเขียวเข้มค่อนข้างหนา แต่บางพันธุ์อาจจะเข้มจนดำก็มี มีเมล็ดเดียวตรงกลาง เนื้อในที่ติดเปลือกจะเป็นสีเขียวเข้มแล้วสีด้านในที่ติดเมล็ดจะเป็นสีขาวอมเหลือง หรือเขียวอมเหลืองขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ เนื้ออะโวคาโดที่สุกแล้วจะค่อนข้างนิ่ม รสชาติมันๆ หน่อย และไม่หวานเหมือนกับผลไม้ชนิดอื่นๆ ถ้ารับประทานเปล่าๆ เหมือนกินเนยจืดที่รสชาติมันๆ

ในต่างประเทศนั้น อะโวคาโดจัดเป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางในฐานะอาหารเพื่อสุขภาพชั้นยอด ผลอะโวคาโดมี 2 แบบ คือ แบบปลูกในประเทศราคาไม่แพง ซึ่งสามารถหาซื้อได้ตามซุปเปอร์มาร์เก็ต หรือร้านของโครงการหลวง เวลามีงานของโครงการหลวงจะมีไอศครีมอะโวคาโดให้เลือกซื้อมาชิม และแบบที่สอง คือ แบบนำเข้าจากหลายๆ ประเทศ เช่น อเมริกา ออสเตรเลีย และยุโรป ซึ่งลูกจะใหญ่กว่าแบบปลูกในประเทศ แต่ราคาสูงพอสมควร
ขั้นตอนการเลือกซื้อก่อน อะโวคาโดที่กินอร่อยคือ แบบสุก เพราะเนื้อจะนิ่ม ให้ลองจับแล้วบีบเบาๆ หากนิ่มมือหน่อย ให้เลือกเลยค่ะ หากเจอแบบเนื้อแข็งเกินไปเวลานำมาทำอาหารอาจจะไม่อร่อยเท่าที่ควร
เมื่อมีอะโวคาโดไว้ในกำมือแล้ว คำถามต่อมา คือ แล้วเราจะเอามาทำอะไรกินดีล่ะ? ต้องแบบกินอร่อย ซึ่งก็แล้วตึความชอบ บางคนเอาทานคู่กับสลัด Guacamole หรือเครื่องจิ้มแบบ Mexican เครื่องดื่มอย่าง สมูลตี้แบบต่างๆและที่เพื่อนรุ่นพี่แนะนำว่า ให้เอามาผ่าครึ่งตามยาว แกะเมล็ดตรงกลางออก แล้วเอาคิคโคแมนใส่ตรงกลางหน่อย เอาช้อนตักกินเลย หรือที่เห็นร้านอาหารเอามาเสิร์ฟคู่กับสลัดเต้าหู้แบบญี่ปุ่นก็มี
ข้อควรระวัง คือ เนื้ออะโวคาโดที่สัมผัสอากาศนานเกินไปเนื้อจะดำ เนื่องจากปฏิกิริยาของเอมไซน์ที่ทำให้เนื้อเปลี่ยนสี ดังนั้นควรน้ำมะนาวลงไปในเนื้ออะโวคาโดเพื่อป้องกันไม่ให้ดำด้วย

แต่มีสิ่งหนึ่งที่ทำให้คนสนใบริโภคอะโวคาโดมากขึ้น เนื่องจากสรรพคุณมากมาย เช่น สามารถช่วยลดริ้วรอยแห่งวัยได้ ลดน้ำหนัก เป็นแหล่งของกรดไขมันดี มีโฟเลตสูง บำรุงผิวหนังและเส้นผมให้ชุ่มชื้น และเนื้ออะโวคาโดยังสามารถใช้แทนเนยสดได้ ดังนั้น เหตุผลเหล่านี้จะช่วยให้ผู้อ่านเพิ่มอะโวคาโดไว้ใน รายการต้องลองกินประจำตัวก็ดีนะคะ




