La Prima Vera บ้านหลังที่สองของต้นโอลีฟโบราณ ภารกิจกู้ภัยต้นไม้จากยุโรปสู่เมืองไทย

La Prima Vera ไม่ได้เป็นเพียงสวนที่จำหน่ายต้นโอลีฟนำเข้า แต่เป็นพื้นที่ที่เปี่ยมด้วยความรักและความหมาย ก่อตั้งโดย
คุณเค-ภควัฒน์ ทวียศ ผู้ซึ่งเดินทางไปคัดเลือกต้นโอลีฟด้วยตัวเองถึงแหล่งผลิตในสเปนและอิตาลี เพื่อให้มั่นใจว่าทุกต้นมีเอกลักษณ์ที่โดดเด่นและระบบรากที่แข็งแรง สามารถเติบโตอย่างสง่างามในสภาพอากาศของประเทศไทย  

จากแรงบันดาลใจสู่สัญลักษณ์แห่งการเริ่มต้นใหม่

แรงบันดาลใจในการสร้าง La Prima Vera มาจากการที่คุณเคได้เห็นต้นโอลีฟใน พระราชวัง Highgrove House ที่ประเทศอังกฤษ ทำให้เขาค้นพบว่าต้นโอลีฟเป็นมากกว่าไม้ประดับ แต่เป็นสัญลักษณ์แห่งการ เริ่มต้นใหม่ ความสงบสุข และความรัก ซึ่งมีที่มาจากเรื่องราวในพระคัมภีร์ไบเบิล ชื่อ “La Prima Vera” ที่แปลว่า “ฤดูใบไม้ผลิ” จึงสะท้อนถึงการก่อกำเนิดที่เต็มไปด้วยความรักและเป็นจุดเริ่มต้นใหม่ของชีวิต  

ผู้พิทักษ์ต้นโอลีฟ

นอกจากความพิถีพิถันในการคัดเลือกต้นไม้แล้ว La Prima Vera ยังมีพันธกิจที่น่ายกย่องในฐานะ “Olive Tree Rescuer” หรือผู้ช่วยเหลือต้นโอลีฟ คุณเคเล่าว่าในยุโรป ต้นโอลีฟจำนวนมากกำลังจะถูกโค่นทิ้งเพื่อสร้างสิ่งก่อสร้างใหม่ ๆ ทำให้เขาตัดสินใจเข้าเจรจาขอซื้อต้นไม้โบราณเหล่านี้ เพื่อมอบโอกาสครั้งที่สองให้พวกมันได้เติบโตในที่แห่งใหม่   ยิ่งไปกว่านั้น La Prima Vera ยังมุ่งมั่นในการทำธุรกิจอย่างยั่งยืน โดยร่วมงานกับฟาร์มในยุโรปที่ปฏิบัติตามกฎระเบียบของ EU เน้นการทำฟาร์มแบบไม่ใช้ GMO และลดการใช้สารเคมีให้น้อยที่สุด สำหรับต้นโอลีฟที่นำเข้ามาในไทยก็ใช้เพียงปุ๋ยอินทรีย์สูตรอ่อนที่ปลอดภัยต่อระบบนิเวศ  

บริการที่เหนือกว่า พร้อมการดูแลอย่างใกล้ชิด

La Prima Vera เติบโตจนกลายเป็นหนึ่งในผู้บุกเบิกและผู้เล่นรายใหญ่ในธุรกิจนี้ ด้วยการบริการที่ใส่ใจในทุกรายละเอียดตั้งแต่การต้อนรับลูกค้าที่เดินทางมาจากทั่วประเทศ ไปจนถึงการให้คำแนะนำอย่างมืออาชีพ คุณหนุ่ม-รชฏ ตั้งศักดิ์ยืน (ผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการ) กล่าวว่าต้นโอลีฟของที่นี่มีให้เลือก 5 สายพันธุ์หลัก ได้แก่ Lechin, Farga, Leccino, Arbequina และ Hojiblanca ซึ่งแต่ละต้นมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว   ทีมงานยังให้คำปรึกษาเรื่องการปลูกและดูแลรักษาอย่างละเอียด เพราะถึงแม้ต้นโอลีฟจะทนทานและดูแลไม่ยาก แต่ก็ต้องการแสงแดดที่เพียงพอและดินที่ระบายน้ำได้ดี ที่สำคัญคือมีบริการหลังการขายที่แข็งแกร่งด้วยทีมงาน “Olive Man Service” ที่พร้อมให้คำปรึกษาและแก้ไขปัญหาต่างๆ ถึงหน้างาน  

คุณหนุ่ม-รชฏ ตั้งศักดิ์ยืน (ผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการ) ผู้ดูแลหลังการขายเสริมว่า “เบื้องต้นเราแนะนำให้ลูกค้าเลือกฟอร์มต้นไม้ที่ชอบก่อน ขึ้นอยู่กับความชอบของลูกค้าแต่ละคน เพราะฟอร์มของต้นโอลีฟมีหลากหลาย ตั้งแต่ฟอร์มต้นสูงตรง ต้นเตี้ย ตะปุ่มตะป่ำ บิดเกลียว เอียง มีโพรงธรรมชาติ หรือต้นที่มีกิ่งก้านแผ่สวยงาม โดยต้นโอลีฟของเรามีให้เลือกด้วยกันหลักๆ 5 สายพันธุ์ ได้แก่ Lechin, Farga, Leccino, Arbequina และ Hojiblanca ซึ่งแต่ละต้นมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว”

หลังจากลูกค้าเลือกต้นไม้ที่ถูกใจแล้ว ทีมงานจะให้คำแนะนำอย่างละเอียดเกี่ยวกับการปลูก การดูแลรักษา ไม่ว่าจะเป็นแสงแดดที่เพียงพอ ดินที่ระบายน้ำได้ดี และการรดน้ำที่เหมาะสม ต้นโอลีฟเป็นต้นไม้ที่ทนทานและดูแลไม่ยาก สามารถเติบโตได้ดีในประเทศไทย “โอลีฟเป็นต้นไม้ที่ทนแดด ดูแลไม่ยาก ตราบใดที่มีแสงเพียงพอ ดินระบายน้ำดี มีการรดน้ำที่เหมาะสม โอลีฟสามารถปลูกในไทยได้สบายๆ ไม่ได้ดูแลยุ่งยากวุ่นวาย โตได้ดีด้วย ดีกว่ายุโรปตรงที่มีความชื้นมากกว่า แต่สิ่งสำคัญคือแสงแดด ทำให้โตดีกว่า ใบเยอะกว่ายุโรป” คุณหนุ่มกล่าว

La Prima Vera ยังมีบริการหลังการขายที่แข็งแกร่ง มีทีมงานพร้อมให้คำแนะนำปรึกษาและบริการ Olive Man Service ถึงหน้างาน เพื่อช่วยแก้ไขปัญหาที่อาจเกิดขึ้นกับต้นไม้ เช่น ศัตรูพืชทั่วไปอย่างเพลี้ย โดยมีการให้คำปรึกษาและใช้วิธีการที่ปลอดภัยและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

บทเรียนจากต้นโอลีฟ การรอคอยและความหมายของชีวิต

การทำธุรกิจต้นโอลีฟสอนให้คุณเคซึ่งเคยเป็นคนใจร้อน ได้เรียนรู้ถึงความอดทนและการรอคอย ต้นโอลีฟบางต้นต้องใช้เวลานานหลายเดือนกว่าจะเดินทางมาถึงและใช้เวลาอีกเป็นปีในการพักฟื้น แต่การรอคอยนี้เองที่ทำให้คุณเคได้เห็นเป้าหมายระยะยาวและกลายเป็นคนที่มีความใจเย็นมากขึ้นอย่างไม่รู้ตัว สำหรับคุณเคแล้ว La Prima Vera จึงเป็นมากกว่าธุรกิจ แต่คือการได้ค้นพบความหมายใหม่ของชีวิตที่ขับเคลื่อนด้วยความรักและความปรารถนาที่จะแบ่งปันความสงบสุขจากต้นโอลีฟไปสู่ทุกคน

La Prima Vera
ซอยบางนา-ตราด 48 แขวงบางนาใต้ เขตบางนา กรุงเทพฯ
โทร.  08 6974 8573

wassukon

wassukon

ไม่ได้จบโดยตรงด้านออกแบบ แต่ฝันอยากเป็นสถาปนิกแล้วโลกก็เหวี่ยงให้มาเขียนงานด้านออกแบบเป็นสิบปี ตอนนี้เลยมีโลกส่วนครัวมากกว่าโลกส่วนตัวไปแล้ว