บ้านพักตากอากาศหลังนี้เริ่มต้นจากโจทย์ความต้องการของ Mr.Lothar Wuellner เจ้าของบ้าน โดยมีคีย์หลักอยู่ 3 อย่างด้วยกัน หนึ่งสไตล์บาหลี สองหน้าต่างกลม และสามหินลาวา ส่วนฟังก์ชันใช้สอยอยากให้แบ่งพื้นที่ระหว่างไพรเวตโซนกับลิฟวิงสเปซให้เป็นสัดส่วนชัดเจน จากนั้นทาง V asia Group Co.,Ltd ผู้ออกแบบจึงนำโจทย์ดังกล่าวมาออกแบบ ดีไซน์เป็นบ้านกึ่งรีสอร์ตสไตล์บาหลีที่มีกลิ่นอายทรอปิคอลเข้ามาผสมผสาน ให้ความรู้สึกอบอุ่นและอยู่สบาย ท่ามกลางบรรยากาศร่มรื่นเป็นส่วนตัว


ในวันที่ท้องฟ้าของเกาะสมุยมีเมฆมากและดูเหมือนว่าฝนกำลังจะตก Mr.Lothar เปิดประตูออกมาต้อนรับพวกเราด้วยใบหน้ายิ้มแย้มสดใส กล่าวคำทักทายอย่างเป็นกันเอง ก่อนจะชวนทุกคนเดินเข้าสู่พื้นที่ภายในบ้าน พร้อมบอกเปรยๆ ว่า “อยู่ๆ ที่อยู่สมุยฝนก็ตกทั้งที่หลายวันก่อนนี้อากาศดี แดดออก ท้องฟ้าแจ่มใสมากเลย แต่ไม่เป็นไรนะ Everything it’s okay” หลังจากพาเราสำรวจมุมต่างๆ Mr.Lothar ก็เล่าถึงคอนเซ็ปต์ที่มาที่ไปของบ้านหลังนี้ให้ฟัง


“จริงๆ เรามีบ้านบนเกาะสมุยอยู่แล้วและบินมาเที่ยวพักผ่อนเป็นประจำ แต่ตอนช่วงโควิด-19 เราทำงานอยู่ฮ่องกง พอเกิดการระบาดขึ้นทำให้ไม่สามารถเดินทางไปไหนได้เป็นเวลากว่า 3 ปี หลังจากสถานการณ์เริ่มดีขึ้นก็เป็นช่วงที่กำลังจะเกษียณอายุเลยมาอยู่ที่สมุยเป็นหลัก จึงมีไอเดียว่าอยากมีบ้านอีกหลังไว้พักผ่อนตากอากาศกับครอบครัว มีพื้นที่สำหรับปาร์ตี้สังสรรค์กับเพื่อนๆ แล้ววาดแบบวิลลาในฝันของเราลงกระดาษ และค่อยๆ ใส่รายละเอียดที่อยากได้เพิ่มเติมทีละเล็กทีละน้อย คอนเซ็ปต์จะเป็นวิลลาชั้นเดียวสไตล์บาหลี ล้อมรอบสระว่ายน้ำ ฟังก์ชันใช้สอยต้องรองรับการอยู่อาศัยในวัยเกษียณด้วย แล้วให้ทางคุณหน่อยจาก V asia Group Co.,Ltd มาช่วยดูแลออกแบบให้”


ออกแบบบ้านโดยแยกตัวอาคารระหว่างพื้นที่ส่วนตัวกับส่วนลิฟวิง มีสระว่ายน้ำและสเปซเอาต์ดอร์อยู่บริเวณใจกลางของบ้าน “จากโจทย์ที่ได้มาเราจึงดีไซน์บ้านให้เป็นกึ่งรีสอร์ตในสไตล์บาหลี ผสมผสานกับความเป็นทรอปิคอล ลักษณะของที่ดินจะเป็นพื้นราบรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า ไม่มีมุม Sea View เพราะเจ้าของบ้านเดินทางมาสมุยบ่อยอยู่แล้วจึงรู้สึกว่าไม่จำเป็นต้องมองเห็นวิวทะเลก็ได้ แต่ด้วยตำแหน่งที่ดินเรามองว่าในอนาคตอาจจะมีบ้านหรือสิ่งปลูกสร้างอื่นมาบดบังพื้นที่รอบๆ ซึ่งจะทำให้ไม่มีมุมมองทิวทัศน์จากภายนอกเลย ดังนั้นจึงต้องสร้างสิ่งแวดล้อมภายในของเราเอง โดยให้ตัวอาคารอยู่ชิดขอบทั้ง 4 ด้านของที่ดิน แล้วให้สระว่ายน้ำและพื้นที่เอาต์ดอร์อยู่ตรงกลาง นอกจากความสวยงามแล้วเราจะเน้นการออกแบบให้บ้านมีความโปร่งโล่ง เปิดรับแสงสว่างจากธรรมชาติ มีลมพัดให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก เหมาะกับบ้านเราที่เป็นเมืองร้อน” คุณหน่อยช่วยอธิบายเพิ่มเติม

อาคารหลังแรกจะเป็นส่วนลิฟวิง แชริ่งสเปซศูนย์กลางของบ้านไว้ให้สมาชิกครอบครัวมาใช้พื้นที่และเวลาร่วมกันในการทำกิจกรรมต่างๆ รวมถึงใช้ต้อนรับแขกเวลามีเพื่อนมากินข้าวสังสรรค์ที่บ้าน นอกจากมุมนั่งเล่นแล้วยังออกแบบให้มีครัวพร้อมไอส์แลนด์ขนาดใหญ่ไว้รองรับการใช้งาน เพื่อเติมเต็มความสมบูรณ์แบบและฟังก์ชันใช้สอยให้กับพื้นที่
Mr.Lothar บอกว่า “ตอนแรกตั้งใจจะไปเลือกดูชุดครัวสำเร็จ แต่ด้วยพื้นที่ที่ค่อนข้างใหญ่ คุณหน่อยบอกว่าน่าจะหาครัวขนาดที่มันลงตัวได้ยาก เลยช่วยออกแบบทำครัวบิลต์อินให้แทน สำหรับฟังก์ชันก่อนหน้านี้ตอนอยู่ฮ่องกงตรงห้องครัวจะมีหน้าต่างเยอะมาก ไม่มีที่ให้ติดแฮงกิง (Hanging) ไว้แขวนอุปกรณ์ต่างๆ เลยอยากให้ครัวนี้มีเชลฟ์สำหรับวางของและแขวนอุปกรณ์ที่ต้องหยิบใช้งานเป็นประจำ


“นอกจากนี้ก็อยากให้มีตู้กับลิ้นชักที่สามารถจัดเก็บทุกอย่างไว้ด้านในได้ ไม่ว่าจะเป็นแก้ว จาน ชาม ช้อน ส้อม คิตเชนแวร์ เพื่อให้ครัวเป็นระเบียบเรียบร้อย อีกอย่างคืออยากได้ไอส์แลนด์ขนาดใหญ่เป็นเซ็นเตอร์พีซไว้นั่งเล่น กินข้าว ปาร์ตี้สังสรรค์ หรือไม่ว่าจะทำอะไรส่วนใหญ่เราก็จะอยู่กันตรงไอส์แลนด์ เพราะมันให้ความรู้สึกง่ายๆ สบายๆ สะดวกคล่องตัวมากกว่า แทบจะไม่มีใครไปนั่งตรงโต๊ะกินข้าวเลย (หัวเราะ)”
ดีไซน์ชุดครัวเน้นความเรียบง่าย ดูโมเดิร์น ไม่ว่าจะผ่านเวลาไปนานแค่ไหนก็ยังทันสมัย มองแล้วไม่น่าเบื่อ หน้าบานเลือกใช้โทนสีดำตัดกับทอปเคาน์เตอร์หินที่มีลวดลายธรรมชาติสวยงาม ฟังก์ชันติดตั้งเตาและเครื่องดูดควันไว้ตรงกลางสำหรับเป็นโซนคุกกิง ผนังเหนือเตามีเชลฟ์ไว้วางของและแขวนอุปกรณ์ตามโจทย์ที่ Mr.Lothar ต้องการ ส่วนด้านข้างจะเป็นโซนเครื่องใช้ไฟฟ้า ดีไซน์ตู้สูงสามารถเก็บของได้เต็มพื้นที่ บิลต์อินเตาอบ ไมโครเวฟ และมีช่องสำหรับใส่ตู้เย็นให้เป็นสัดส่วน

นอกจากครัวแล้วลิฟวิงสเปซยังมีไฮไลต์อีกอย่างหนึ่งที่ไม่พูดถึงคงไม่ได้ “หน้าต่างกลม 1 บานที่ต้องมีตามรีเควสเจ้าของบ้าน เราออกแบบให้อยู่ตรงมุมโซฟาสามารถมองออกไปเห็นสวนภายนอกได้ ซึ่งพอมีหน้าต่างกลมแล้วเราก็ต้องมาคิดต่อว่ามันจะไปสัมพันธ์กับอะไรในบ้านได้บ้าง เลยพยายามทำให้พื้นที่ในบ้านมีความเป็นญี่ปุ่นเพื่อมารับโจทย์ข้อนี้ โดยเลือกโทนสีและวัสดุให้กลมกลืนไปกับธีมหลักของบ้านที่เป็นสไตล์บาหลี ส่วนฝ้าเพดานก็จะโชว์ให้เห็นความสวยงามของเท็กซ์เจอร์ไม้ ดูทรอปิคอล” คุณหน่อยเล่าเสริม

เดินออกจากลิฟวิงมาทางด้านขวามือเล็กน้อย จะเป็นไพรเวตโซนที่ออกแบบตัวอาคารเป็นรูปตัวแอล (L) ประกอบไปด้วย 4 ห้องนอน ภายในมีห้องน้ำและสเปซนั่งเล่นส่วนตัว ทุกห้องสามารถมองเห็นวิวสระว่ายน้ำและสวนด้านนอก ให้ความรู้สึกผ่อนคลาย สบายตา สบายใจ และใช้พื้นที่ส่วนมุมออกแบบเป็นห้องฟิตเนส ส่วนด้านซ้ายจะเป็นศาลาไว้นั่งเล่นเอาต์ดอร์ มีแพนทรีกับเตาให้ทำบาร์บีคิวหรือปิ้งย่าง


“เราอยากให้ที่นี่เป็นเหมือนวิลลาตากอากาศของครอบครัว ทุกคนมีพื้นที่ส่วนตัวของตัวเองแต่ขณะเดียวกันก็มีสเปซส่วนกลางให้มาจอยมาใช้เวลาด้วยกันได้ ตื่นเช้าสามารถเปิดประตูหน้าต่างรับลมชมวิว เดินออกมานั่งจิบกาแฟ ทำอาหาร นั่งเล่น ดูทีวี เปิดโน้ตบุ๊กเช็กอีเมล นั่งทำงาน ตกเย็นนั่งจิบเครื่องดื่มเย็นๆ ตรงสระว่ายน้ำ หรือจะชวนเพื่อนมากินข้าว ทำบาร์บีคิวปาร์ตี้สังสรรค์กันก็ได้ เราสามารถใช้ชีวิตอยู่ในบ้านเหมือนกับทุกวันเป็นวันพักร้อน” Mr.Lothar ขยายความให้เราเห็นภาพมากขึ้น


ก่อนบทสนทนาจะจบลงเราถามคุณหน่อยถึงดีเทลการออกแบบตกแต่งเพิ่มเติมเรื่องการเลือกใช้แมตทีเรียลในส่วนต่างๆ อย่างหินลาวา ซึ่งถือเป็นอีกโจทย์หลักของบ้านหลังนี้ “จริงๆ พื้นที่ของบ้านไม่ได้ใหญ่มากแต่เราพยายามออกแบบให้ดูกว้างไม่อึดอัด อย่างการให้ตัวบ้านอยู่ด้านข้างทั้งหมดก็เพื่อเปิดมุมมองตรงกลางให้บ้านมีสเปซได้หายใจ ช่วยสร้างความเป็นส่วนตัวในการอยู่อาศัย ส่วนวัสดุของบ้านที่ Mr.Lothar อยากให้ใช้หินลาวาเพราะเขาไปเห็นแบบบ้านบาหลีที่ใช้หินลาวาแล้วชอบ นอกจากมีผิวสัมผัสและโทนสีที่สวย มีความเป็นธรรมชาติแล้ว คุณสมบัติของหินลาวายังช่วยลดอุณหภูมิให้บ้านไม่ร้อน เนื่องจากมีรูพรุนระบายอากาศได้ดี ซึ่งนำมาใช้ในส่วนผนังบ้านเกือบทั้งหมด นอกจากนี้หลักๆ ถ้าเป็นในบ้านเราจะใช้เป็นงานไม้จริง แต่ส่วนเอาต์ดอร์กับกึ่งเอาต์ดอร์จะเป็นไม้เทียม เพราะทนทานกว่า ซึ่งเราก็บอกเขาว่าที่สมุยปลวกดุนะ ต่อให้จ้างบริษัทกำจัดปลวกมาดูแลยังไงก็เยอะอยู่ดี บวกกับอากาศที่ร้อนชื้น ถ้าใช้ไม้จริงอายุการใช้งานมันจะสั้น เราก็พยายามช่วยเลือกวัสดุให้มันอยู่กับบ้านได้ถึง 10-20 ปี

“และอีกอย่างที่เราเกริ่นไว้ตอนต้นว่าบ้านไม่มีวิวจากภายนอก เราต้องสร้างสิ่งแวดล้อมทุกอย่างขึ้นมาเอง ซึ่งโจทย์อีกอย่างหนึ่งคือ Mr.Lothar อยากได้พื้นที่สวนแต่ไม่อยากดูแล (หัวเราะ) เราเลยออกแบบเป็นสวนหินรอบสระว่ายน้ำ โดยใช้หินแผ่นใหญ่ๆ มาจัดวางแทนสนามหญ้าแล้วปลูกต้นไม้รอบๆ เพิ่มความร่มรื่น มองแล้วสบายตา อย่างสระว่ายน้ำก็เลือกใช้กระเบื้องซูกาบูมิ (Sukabumi Stone) หรือที่เรียกกันว่าบาหลีสโตน ตรงกับสไตล์ของบ้าน และกระเบื้องจะเป็นโทนสีเขียว ในเมื่อบ้านไม่มีมุม Sea View ดังนั้นเราจึงไม่จำเป็นต้องมีสีฟ้าก็ได้ แต่บ้านไม่มีทิวทัศน์จากธรรมชาติโดยรอบเลย การเลือกใช้กระเบื้องซูกาบูมิเวลาโดนแสงก็จะสะท้อนเป็นสีเขียวๆ ช่วยเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้บ้านโดยที่ไม่ต้องมีสวนก็ได้” คุณหน่อยบอกทิ้งท้าย
Baan Koabsook เป็นชื่อบ้านที่ Mr.Lothar ตั้งชื่อเองเช่นเดียวกัน มีความหมายนัยๆ ที่แปลแบบไทยๆ ได้ว่า “บ้านที่โอบล้อมด้วยความสุข”
เจ้าของ : Mr.Lothar Wuellner
ออกแบบ : V asia Group Co.,Ltd





