Kitchen & Home Pet Club

ขนมหมาจากโปรตีนแมลง ที่ใส่ใจทั้งสุขภาพ และช่วยเรื่องความยั่งยืน


หากย้อนกลับไปในปี ค.ศ. 1957 ซึ่งตรงกับ พ.ศ. 2500 ในเดือนพฤศจิกายน มีสิ่งมีชีวิตที่ถูกส่งขึ้นไปบนอวกาศครั้งแรกนั่นก็คือสุนัขที่ชื่อว่า “ไลก้า” เรียกว่าเป็นเรื่องราวประวัติศาสตร์โลกที่ส่งผลต่อความรู้สึกให้กับมนุษย์เดินดินอย่างเราอยู่ไม่น้อย

จากสุนัขไลก้าที่เปรียบเสมือนฮีโร่ซึ่งถูกมอบหมายให้ไปทำภารกิจนอกโลก กลายเป็นที่มาของขนมสุนัขแบรนด์ Laika (ไลก้า) ที่กลายเป็นแรงบันดาลใจให้คุณเพชร-พชรพล อัฉริยะศิลป์ และคุณโด่ง-อิทธิกร เทพมณี ผู้ก่อตั้งแบรนด์ขนมสุนัขเมื่อ 3 ปีก่อน โดยปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็น Jaikla (ใจกล้า) โดยมีภารกิจไม่ต่างจากไลก้าแต่เป็นการสำรวจแหล่งอาหารใหม่ที่ดีต่อสุขภาพ และเน้นเรื่องของความยั่งยืน นำโปรตีนจากแมลงมาแปรรูปสู่ขนมสุนัข

ขนมที่ดีต่อสุนัขและสิ่งแวดล้อม

เรารู้สึกว่าธุรกิจเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงเริ่มโตขึ้นเรื่อยๆ ก็จริง ในขณะที่ธุรกิจอื่นๆ ทุกเซ็กเตอร์มีโปรดักต์ที่ดีเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะกับคนแต่สำหรับสัตว์เลี้ยงเราไม่ค่อยเห็น เพราะฉะนั้นน้องหมาก็เป็นส่วนหนึ่งกับพวกเราได้เช่นกัน เราพยายามพัฒนาสินค้าหรือแบรนด์ที่ใส่ใจเรื่องนี้ขึ้นมา ซึ่งแบ็กกราวนด์ของโด่งทำเกี่ยวกับไฟแนนซ์แล้วเขาค้นคว้าเรื่องโปรตีนจากแมลง ผมมองว่าเป็นเรื่องที่น่าสนใจ ถ้ามองภาพแบบเร็วๆ เลยคือ ใช้ทรัพยากรธรรมชาติน้อย ใช้น้ำน้อย ใช้พื้นที่น้อย มีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกน้อย แต่ยิ่งไปกว่านั้นเราไปค้นพบสปีชีส์หนึ่งคือแมลงที่ชื่อว่า Black Soldier Fly เป็นแมลงที่อยู่ในประเทศเราอยู่แล้ว ไม่แพร่เชื้อ เป็นสปีชีส์ที่ทางยุโรปและอเมริกาอนุญาตให้เป็นอาหารสำหรับสัตว์เลี้ยง

จาก Food Waste แปรรูปเป็นอาหารให้แมลง

แมลง Black Soldier Fly สามารถย่อยอาหารได้เก่งมากในธรรมชาติ หลักๆ เรานำผัก ผลไม้ ขนมปังที่ได้มาจากอาหารส่วนเกินที่มนุษย์ผลิตมาแล้วไม่ได้ใช้เต็มที่ หรือที่มนุษย์กินไม่หมด หรือกระบวนการ Food Supply Chain ส่งช้าไปเริ่มเสียหรือช้ำแล้วไม่สามารถขายได้ต้องทิ้งแต่สารอาหารยังอยู่ครบ เราเลยใช้ประโยชน์จากตรงนี้ด้วยการให้แมลงที่เราเลี้ยงกิน ซึ่งต้องเป็นผักปลอดสารและไม่มียาฆ่าแมลง

ดังนั้นการให้แมลงกินผักเหลือแบบนี้กลายเป็น Upcycle สามารถลดปริมาณขยะได้ลงถึง 48-50 ตัน (ตั้งแต่ต้นปีนี้) เมื่อแมลงกินเข้าไปกลายเป็นโปรตีนที่สะอาดมาก เพราะไม่มีสารเคมีตั้งแต่ต้น โดยเรานำไปวิจัยร่วมกับอาจารย์จากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ค้นพบว่าแทนที่จะเป็นโปรตีนอย่างเดียว น้องหมาก็ต้องการสารอาหารอย่างอื่นด้วยเหมือนกัน เลยกลายเป็นที่มาของการออกแบบสูตรต่างๆ แล้วพัฒนาไปเป็นขนม เพราะเราไม่อยากให้ขนมเป็นแค่ High Protein เท่านั้น  

น้องหนอนและน้องหมาคือผู้ช่วยตัวน้อย

สิ่งที่เหลือจากการผลิตของเราเรียกว่ามูลแมลง หรืออึแมลง (Organic Compost) ปุ๋ยธรรมชาติที่เรานำส่งกลับไปให้กับเกษตรกรที่เป็นพาร์ตเนอร์กับ TOPS และ Gourmet ซึ่งเกษตรกรกลุ่มนี้เขาใช้ปุ๋ยอินทรีย์ เราส่งปุ๋ยให้เขานำไปปลูกผัก เติบโตได้ดี แล้วก็นำผักกลับมาส่งตามซูเปอร์มาร์เก็ตอีกครั้ง ผู้บริโภคก็ซื้อกลับไป แต่ถ้าขายไม่ทันก็จะส่งกลับไปที่ฟาร์มของเราเกิดเป็นเศรษฐกิจหมุนเวียน นี่คือสิ่งที่เราอยากสร้างขึ้น แต่เราไม่สามารถทำคนเดียวได้ เพราะฉะนั้นก็ต้องมีน้องหนอนมาช่วยจัดการสร้างตรงนี้ แต่จะมีน้องหนอนอย่างเดียวไม่ได้ เพราะหนอนได้โปรตีนเสร็จแล้วทำอย่างไรต่อ ก็ต้องมีน้องหมาเข้ามาช่วย ยิ่งเขากินขนมเยอะมากเท่าไหร่ก็จะยิ่งสร้างอิมแพกต์ตรงนี้ได้เยอะขึ้นเท่านั้น

ปริมาณอาหารที่เหลือก็ Upcycle ได้เยอะ นี่คือสิ่งที่เราตั้งใจทำ เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกให้กับคนเลี้ยงน้องหมา แถมยังดีต่อสุขภาพ เพราะมีอาจารย์ที่มีความรู้ด้านโภชนาการมาช่วยออกแบบสูตรขนมให้

ขนมจากโปรตีนแมลง+โภชนาการที่จำเป็น

เรามีสูตรอาหารที่เหมาะกับหนอนในแต่ละช่วงวัย พอหนอนโตถึงวัยที่มีโปรตีนดีที่สุดสำหรับน้องหมาเราก็จะนำหนอนไปต้มเพื่อฆ่าเชื้อ จากนั้นนำไปอบแล้วสกัดเป็นผงเพื่อทำเป็นโปรตีน โดยทำงานร่วมกับมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ หน่วยโรงงาน Food Science กับ RD (Research Development) พัฒนาออกเป็นขนม 3 สูตร ประกอบด้วย Happy Vitamins เสริมสร้างเรื่องภูมิคุ้มกัน มีแครอตและฟักทองเป็นส่วนประกอบ สูตร Cotton Touch ดีต่อผิวและขน ใส่พวกน้ำมันปลา เมล็ดเจีย และสูตรใหม่ Wagging Green ควบคุมน้ำหนักและช่วยเรื่องการเผาผลาญไขมันได้ดีขึ้น มีส่วนผสมของสาหร่ายสไปรูรินาและแอลคาร์นิทีน

Jaikla กับรางวัล DEmark Award

เราได้รับรางวัล DEmark ปี ค.ศ. 2022 ด้านดีไซน์และแบรนดิง ซึ่งจุดนี้เป็นอีกส่วนที่เราให้ความสำคัญ เพราะคนซื้อเพราะแพ็กเกจจิงก็มี โดยเราพัฒนาแพ็กเกจมาเรื่อยๆ จนกลายเป็นดีไซน์อย่างที่เห็นในปัจจุบัน ด้านหลังจะเห็นภาพของน้องหมาที่มากันเป็นแก๊ง เราตั้งใจจะสื่อด้วยการใช้น้องหมาหลายๆ แบบมาสร้างความเปลี่ยนแปลงให้มนุษย์ โดยมีพวกเรามาช่วยคุณนะ การใช้น้องหมาหลายๆ แบบก็มีที่มา เนื่องจากเราเชื่อเรื่องความเท่าเทียม เชื่อเรื่องความหลากหลาย น้องหมาที่ถูกนำไปเป็นภาพลักษณ์ของแบรนด์ส่วนใหญ่จะใช้หมาประกวด แต่ผมว่ายุคนี้ไม่จำเป็นต้องใช้หมาประกวดก็ได้ที่เข้ามาช่วยในเรื่องของสิ่งแวดล้อม ไม่ว่าจะเป็นน้องหมาสายพันธุ์อะไรก็สามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงบนโลกนี้ได้เหมือนกัน ซึ่งน้องหมาแต่ละตัวก็จะมีแบ็กกราวนด์ของตัวเองที่เราสอดแทรกเรื่องราวลงไปบนโซเชียลมีเดียของเรา

ด้วยความที่เราอยากบอกและต้องการสื่อสารว่าน้องหมาสามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงได้ เราจึงส่งเรื่องดีไซน์เข้าร่วม ซึ่งแต่ละส่วนผ่านการคิดมาละเอียดและเยอะมาก รวมถึงรูปแบบของซองที่เราดีไซน์ก็มีผลต่อคนเลี้ยง พกพาง่าย หยิบสะดวก ซึ่งเรื่องเหล่านี้มันมีไอเดียที่เราคิดไว้ซ่อนอยู่

น้ำผลไม้ที่ช่วยให้น้องหมากินน้ำได้ง่ายขึ้น

นอกจากเราจะให้ความสำคัญกับเรื่องของความยั่งยืนและสิ่งแวดล้อมแล้ว เราอยากให้ลูกค้าอยู่ใกล้ชิดธรรมชาติมากขึ้น โดยปกติพฤติกรรมของคนเลี้ยงน้องหมาจะต้องพาหมาไปเดินเล่น ฉะนั้นเมื่อเราต้องพาน้องหมาออกไปเที่ยวทำให้เขาดื่มน้ำได้น้อย การพกพาอะไรที่ง่ายติดไปด้วยก็น่าจะเป็นสิ่งที่ดี ไอเดียของผลิตภัณฑ์ตัวนี้เริ่มจาก สมิง(กี้) (น้องหมานายแบบ) ดื่มน้ำยาก ไปวิ่งเล่นกลับมากินน้ำได้น้อย เราเลยทำน้ำผลไม้ตัวนี้ขึ้นมา เป็นน้ำผักเพื่อให้เขาดื่มน้ำได้เยอะขึ้น แล้วเพิ่มวิตามินให้ครบถ้วน เช่น ช่วยเรื่องภูมิคุ้มกัน ลำไส้ แบ่งออกเป็น 2 สูตรได้แก่ Fish Broth น้ำต้มปลา และ Plant Based ถือเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ช่วยส่งเสริมเรื่องเศรษฐกิจหมุนเวียน นอกจากเราจะเป็นทางเลือกให้กับน้องหมาในเรื่องของสุขภาพแล้ว ขณะเดียวกันเมื่อลูกค้าอยู่กับแบรนด์ไปเรื่อยๆ เขาคือส่วนหนึ่งที่ช่วยเรื่องสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืนเพื่อให้โลกใบนี้น่าอยู่ขึ้น

ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติม https://www.facebook.com/jaiklapet/ และ https://linktr.ee/jaiklapet


You Might Also Like...