ลิ้มลองประสบการณ์โอมากาเสะชั้นเลิศที่ Nikaku Bangkok

ครั้งนี้เราจะพาทุกคนไปสัมผัสกับการเสิร์ฟซูชิแบบโอมากาเสะของแท้กันที่ Nikaku Bangkok ซึ่ง Nikaku เป็นร้านอาหารสองดาวมิชลินจากคิตะคิวชู ประเทศญี่ปุ่น

นอกจากได้สองดาวมิชลินแล้ว นี่คือร้านโอมากาเสะเก่าแก่แถมมีชื่อเสียงมากแห่งหนึ่ง และเปิดมานานกว่า 60 ปี ซึ่งในปัจจุบันสืบทอดโดยเชฟซูชิรุ่นที่ 3 ของตระกูลแล้ว นั่นก็คือ เชฟเซตสึโอะ ฟูนาฮาชิ (Setsuo Funahashi) เป็นผู้ที่เปลี่ยนร้านซูชิธรรมดาๆ ของครอบครัวให้กลายเป็นร้านโอมากาเสะชื่อ ‘Edomae Sushi Nikaku’ ตั้งแต่เมื่อ 20 ปีก่อน กลายเป็นที่รู้จักและโด่งดังในเรื่องการเสิร์ฟซูชิสไตล์เอโดะมาเอะขนานแท้ รวมถึงเอกลักษณ์ในรสชาติที่เป็นสูตรต้นตำรับ ถือเป็นหัวใจของร้านอาหารญี่ปุ่นแห่งนี้ ซึ่งมีสาขาแรกตั้งอยู่ที่เมืองคิตะคิวชู ตามแบบฉบับสไตล์ญี่ปุ่นแล้ว เมนูโอมากาเสะจะเสิร์ฟให้แก่ลูกค้าเพียง 12 ที่ โดยให้นั่งรอบเคาน์เตอร์ครัวที่สามารถมองเห็นเชฟปรุงอาหารได้

ซึ่งที่ Nikaky Bangkok ก็ดึงเอาต้นแบบจากที่ประเทศญี่ปุ่นด้วยการจัดที่นั่งเป็นเคาน์เตอร์ล้อมรอบรองรับประมาณ 12-13 ที่นั่ง โดยแต่ละที่สามารถมองเห็นการทำซูชิกันแบบสดๆ จากเชฟในระยะประชิดตัว

ด้วยรูปแบบของการเสิร์ฟอาหารแบบโอมากาเสะ เราจะไม่รู้เลยว่าเชฟจะสร้างสรรค์เมนูอะไรออกมาให้เราได้ชิมบ้าง ซึ่งวัตถุดิบจะขึ้นอยู่กับว่าในแต่ละวันเชฟหาได้ปลาอะไรมา หรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับฤดูกาล แต่ปลาส่วนใหญ่จะมาจากจากช่องแคบคันมน และทะเลรอบๆ เกาะคิวชูแล้วนำมาสร้างสรรค์เป็นเมนูที่พิถีพิถันตั้งแต่เนื้อปลา การปรุงรสของข้าวที่กลมกล่อมอร่อย หรือที่ทางร้านเรียกว่า “Anbai” เป็นคำที่ใช้ในการปรุงอาหารซึ่งหมายถึงความสมดุลของเกลือและน้ำส้มสายชู เชฟบอกว่าอาหารที่มีความสมดุลสมบูรณ์แบบนั้น ถือเป็นการปรุงรสอาหารที่ทำได้ดี ซึ่งที่ Nikaku นั้นหุงข้าวด้วย Anbai ชั้นดี เพื่อดึงรสชาติที่ดีที่สุดของวัตถุดิบออกมา

จึงไม่แปลกใจว่าซูชิในแต่ละคำที่เสิร์ฟมานั้น อร่อยขนาดไหน ด้วยรสสัมผัสของวัตถุดิบชั้นดีแล้ว การปรุงแต่งรสชาติก็เป็นไปอย่างลงตัว ส่วนที่มาของคำว่า Nikaku (นิคาคุ) นั้นแปลว่า นกกระเรียนคู่หนึ่ง นกกระเรียนถือเป็นนกนำโชคในญี่ปุ่น และนกกระเรียนสองตัวเป็นสัญลักษณ์ของความเจริญรุ่งเรืองที่ยั่งยืน

นอกจากจะมีการเสิร์ฟเมนูแล้วยังมีการจับคู่ชาเพื่อเพิ่มรสชาติมากเข้าไปอีก โดยเชฟจะพาเราเปิดประสบการณ์ไปกับชาจากเกาะคิวชู คัดเลือกชาคุณภาพดีที่สุดที่มีอยู่ ซึ่งชงด้วยน้ำแร่นำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น เพลิดเพลินไปกับชาที่มีเอกลักษณ์ 7 ชนิดจากแต่ละจังหวัดเพื่อลิ้มรสตลอดระหว่างมื้ออาหาร

ปิดท้ายด้วยขนมจากเชฟคาซึมิ ฟูนาฮาชิ (Kazumi Funahashi) ภรรยาของเชฟเซตสึโอะ เธอเกิดและเติบโตในสภาพแวดล้อมที่ทำให้เธอได้สัมผัสกับวัฒนธรรมดั้งเดิมของญี่ปุ่นตั้งแต่อายุยังน้อย โดยได้รับคำแนะนำจากแม่ของเธอ ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านอิเคบานะ (การจัดดอกไม้ของญี่ปุ่น) การเลี้ยงดูตามธรรมชาติหล่อหลอมให้เธอเข้าใจความงามของธรรมชาติ และความสง่างามของสุนทรียศาสตร์แบบญี่ปุ่น