ใครเป็นแฟนราเมงเราอยากให้เก็บร้านนี้เอาไว้ในลิสต์ราเมงที่อร่อยในลำดับต้นๆ เพราะไม่อยากให้พลาดราเมงที่มีเอกลักษณ์และพิถีพิถันในเรื่องของการทำเส้นแบบสดๆ รวมถึงน้ำซุปที่ผ่านการเคี่ยวนานกว่า 12 ชั่วโมง จนได้รับรางวัล Michelin Bib Gourmand จากนิวยอร์ก เรียกว่าเป็นราเมงร่วมสมัยที่ยังคงเอกลักษณ์วัฒนธรรมการทำแบบญี่ปุ่นแท้ๆ แต่เขายกต้นแบบจาก Tonchin Ramen ที่นิวยอร์กมาแบบไม่มีผิดเพี้ยน
ตกแต่งบรรยากาศภายในอบอุ่นสไตล์โคซี่ มีให้เลือกนั่ง 2 ชั้น ถ้ามาคนเดียวก็สามารถนั่งบริเวณหน้าเคาน์เตอร์บาร์ ดูเชฟกำลัง cooking ได้ในระยะใกล้ แต่ถ้ามาเป็นกลุ่มครอบครัว หรือเพื่อนฝูงจะนั่งตรงชั้นล่างหรือชั้นบนที่มีความเป็นส่วนตัวขึ้นมาอีกนิด
เมนูซิกเนเจอร์มาแล้วไม่ควรพลาดก็คือ ราเมงโตเกียวทงคัตสึ มีจุดเด่นอยู่ตรงเส้นซึ่งนอกจากจะเป็นเส้นสดแล้วยังเป็นเส้นหยักเพื่อให้เส้นไปดักจับตัวน้ำซุปกระดูกหมูที่มีความมัน ยังช่วยเพิ่มอรรถรสให้การกินราเมงพิเศษมากขึ้น มาพร้อมกับหมูชาชูและหมูที่ผ่านการซูวีด 6-7 ชั่วโมง
โตเกียวทรัฟเฟิลโชยุ กระซิบว่าเมนูนี้มีเฉพาะสาขาในไทยเท่านั้น ด้วยน้ำซุปพิเศษที่ทางญี่ปุ่นครีเอตโดยเลือกใช้โชยุพรีเมียมจากจังหวัดแห่งหนึ่งในญี่ปุ่นนำมาผสมผสานกับทรัฟเฟิล ยิ่งชูให้ราเมงชามนี้มีรสชาติที่กลมกล่อมมากยิ่งขึ้น กินคู่กับท็อปปิงที่จัดเสิร์ฟมาในชามกินแล้วอร่อยเข้ากันสุดๆ
มิโซะราเมง อีกหนึ่งเมนูขายดีอันดับต้นๆ ด้วยรสชาติของน้ำซุปที่มีความเข้มข้นและกลมกล่อม มาพร้อมทอปปิ้งที่จัดมาแน่นๆ ไม่ว่าจะเป็นหมูชาชู ข้าวโพด และไข่ต้ม
นอกจาก 2 เมนูที่เราแนะนำแล้วยังมีราเมงอื่นๆ ให้เลือกอีกเพียบ ถูกใจราเมงรสชาติแบบไหน เส้นตรงหรือเส้นหยัก หรือจะสั่งเมนูกินเล่นเพิ่มน้ำหนักอีกสักหน่อย เพราะมันช่างเย้ายวนหัวใจแถมกระตุ้นต่อมความอยาก
เมนูพิเศษ Special Noko Ebi Tsukemen มาพร้อมทอปปิ้งชุดใหญ่ที่มีคุณภาพระดับสูง ซึ่งมีกรรมวิธีในการทำที่พิถีพิถัน ซึ่งเมนูนี้เสิร์ฟแค่ 20 ชามต่อวันเท่านั้น
เป็นราเมงชามใหญ่เครื่องแน่นแบบนี้มิน่าล่ะถึงมีลูกค้ามาอุดหนุนกันไม่ขาดสาย ใครชอบราเมงแวะไปลองกันได้ เพราะเขามีสาขากระจายตัวอยู่ทุกมุมเมืองในราคาหลักร้อยกลางๆ ที่ใครๆ ก็สามารถเข้าถึงได้ง่าย
สามารถไปลิ้มลองความอร่อยกันได้ที่ Tonchin Ramen ทุกสาขาใกล้บ้าน
ชั้น 1 The Mercury Ville @ Chidlom
ชั้น G Siam Paragon
ชั้น 3 Central Westgate
ชั้น 3 La Villa (BTS Ari)
ชั้น G The EmSphere
