Design Kitchen & Home

Living in my Lovely Home แต่งบ้านสไตล์วินเทจในแบบที่เราชอบ


เชื่อว่าทุกคนมีบ้านและครัวในฝันเป็นของตัวเอง เช่นเดียวกันกับคุณอ้อม-อัจฉรา ธรรมรส ที่บอกกับเราว่าการได้ตื่นมาชงกาแฟตอนเช้าหรือได้นั่งพักผ่อนอย่างสบายใจ ท่ามกลางบรรยากาศของบ้านซึ่งตกแต่งในสไตล์ที่เราชอบนั้นเป็นอะไรที่มีความสุขที่สุดแล้ว โดยบ้านหลังนี้คุณอ้อมออกแบบตกแต่งเองทั้งหมด มีกลิ่นอายความเป็นวินเทจที่ให้ความรู้สึกอบอุ่นๆ ทว่ามีความเท่นิดๆ แบบลอฟต์ๆ ผสมผสานอยู่ด้วย แตกต่างแต่ลงตัวและน่าอยู่มากเลยทีเดียว

ด้วยความคุ้นเคยกับพื้นที่โซนบางนา คุณอ้อมจึงปักหมุดไว้ในใจว่าจะมองหาบ้านที่อยู่ในทำเลแถวนี้ “เดิมอ้อมทำงานอยู่แถวบางนาและย้ายไปทำงานในเมืองแถวๆ พร้อมพงษ์ ตอนที่จะซื้อบ้านหลังแรกก็คิดว่าอยากอยู่โซนนี้ นอกจากรู้สึกคุ้นเคยแล้วยังชอบที่อยู่ใกล้ๆ กับเมกาบางนา มีที่ซื้อของ มีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ค่อนข้างครบ ถึงจะไกลหน่อยก็ไม่เป็นไร เพราะเรายังสามารถเดินทางโดยรถไฟฟ้าได้

“ก่อนจะตัดสินใจซื้อบ้านหลังนี้อ้อมไปดูมาหลายโครงการเหมือนกันจนมาเจอที่นี่เป็นโครงการ The Village ตัวบ้านดีไซน์จะให้ความรู้สึกวินเทจๆ ซึ่งเราชอบสไตล์ประมาณนี้อยู่แล้ว นอกจากนี้ยังเป็นทาวน์โฮมที่ออกแบบกำแพงบ้านให้ไม่ติดกัน ผนังบ้านข้างๆ จะทำหน้าที่เสมือนเป็นรั้ว ทำให้เรามีพื้นที่เหลืออีกฝั่งไว้ปลูกต้นไม้ทำสวนได้ด้วย ถึงจะเป็นทาวน์โฮมแต่ยังรู้สึกเป็นส่วนตัว” คุณอ้อมเล่าถึงที่มาที่ไปของบ้านหลังนี้ให้เราฟัง

ขนาดพื้นที่ทั้งหมดของบ้าน 134 ตารางเมตร แบ่งออกเป็น 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 1 ห้องอเนกประสงค์ ถึงจะไม่ใหญ่มากแต่ค่อนข้างลงตัวกับสมาชิก 2-3 คน “อ้อมอยู่บ้านคนเดียวเป็นหลัก จะมีคุณแม่กับแฟนมาอยู่ด้วยบ้าง ภายในบ้านเลยไม่ได้มีฟังก์ชันอะไรที่ซับซ้อนมากนัก เน้นจัดสรรพื้นที่ให้ใช้งานได้สะดวกคล่องตัวมากกว่า

ชั้นล่าง เดิมเป็นสเปซโล่งๆ กับมีห้องอเนกประสงค์ที่ทางโครงการออกแบบไว้ให้ เรามาทำประตูกั้นเอง ใช้งานเป็นห้องทำงานและนั่งเล่นได้ในตัว คือเราไม่อยากเจาะจงว่าเป็นส่วนรับแขกหรือนั่งดูหนังอย่างใดอย่างหนึ่ง ด้วยพื้นที่มีจำกัดเลยออกแบบให้ใช้งานได้ 2 ฟังก์ชันในห้องเดียว ส่วนการตกแต่งจะเป็นสไตล์ลอฟต์ๆ ต่างไปจากภาพรวมของบ้าน อ้อมเป็นคนขี้เบื่อ และลอฟต์ก็เป็นอีกสไตล์ที่เราชอบเหมือนกัน เลยคิดว่าห้องทำงานแต่งเป็นโทนนี้แล้วกัน ผนังแต่ละด้านจะไม่เหมือนกันเลย ด้านนี้เป็นลายอิฐ 3 มิติ ถัดไปเป็นลอฟต์ ส่วนอีกด้านทาสีขาวติดคิ้วบัวให้ยังมีกลิ่นอายวินเทจผสมผสานอยู่นิดๆ”

ถัดไปเป็นส่วนรับประทานอาหารและห้องครัว “เราไม่ได้ต่อเติมครัวนอกบ้านเพราะไม่ได้ใช้งานครัวหนักหรือทำอาหารจริงจัง อีกอย่างคือกลัวเรื่องบ้านทรุดจึงตัดสินใจทำครัวในบ้าน ต้องบอกก่อนว่าทุกอย่างภายในบ้านอ้อมเป็นคนเลือกและออกแบบเอง นอกจากสไตล์หรือที่ชอบแล้วยังต้องดูเรื่องฟังก์ชันให้ตรงกับการใช้งานจริงๆ ของเราด้วย            

“อย่างครัวเราเริ่มจากหา Reference ว่าอยากได้แบบไหน ฟังก์ชันใช้งานเป็นอย่างไร ทำอาหารหนักแค่ไหน ซึ่งไลฟ์สไตล์เราไม่ได้เป็นคนทำอาหารอยู่แล้วจึงออกแบบเป็นครัวบิลต์อินสไตล์วินเทจ เลือกใช้โทนสีเทา สีขาว และงานไม้เป็นหลัก สบายตา ดูอบอุ่นๆ ฟังก์ชันไม่เน้นพื้นที่ส่วนปรุง เลือกใช้เป็นเตาไฟฟ้ารองรับการทำอาหารง่ายๆ และเลือกซิงก์ขนาดใหญ่แบบ 2 หลุม เพราะน่าจะเน้นล้างมากกว่า (หัวเราะ)”

นอกจากฟังก์ชันใช้งานครัวแล้วยังดีไซน์ให้มีเคาน์เตอร์บาร์เล็กๆ ไว้ชงกาแฟเตรียมเครื่องดื่มอีกด้วย “ตอนแรกเราทำส่วนที่เป็นเคาน์เตอร์รูปตัว L (แอล) เข้ามุมก่อน จากนั้นก็ทำส่วนเคาน์เตอร์บาร์ด้านหน้าเพิ่มเติม ออกแบบยกสเตปให้สูงขึ้นเล็กน้อยเพื่อให้สะดวกเวลาวางของและใช้งาน เป็นเหมือนมุมคาเฟ่ในบ้าน ไว้ชงกาแฟดื่มเองง่ายๆ โดยส่วนตัวอ้อมชอบไปคาเฟ่ ชอบดื่มกาแฟอยู่แล้ว พอมีสถานการณ์โควิด-19 เราก็ไม่ค่อยได้ไปไหนเท่าไร เลยคิดว่ามีมุมนี้ไว้เป็นเหมือนคาเฟ่ในบ้านตัวเองก็ดีเหมือนกัน ส่วนพื้นที่จัดเก็บเราออกแบบให้มีตู้ใต้เคาน์เตอร์กับชั้นวางของติดผนัง ที่เก็บแก้ว ที่แขวนอุปกรณ์ต่างๆ เท่านี้ก็เพียงพอสำหรับครัวของเราแล้ว”

สำหรับมุมทานข้าวนั้นยังคงกลิ่นอายของสไตล์วินเทจเช่นเดียวกัน เพียงแต่เพิ่มลูกเล่นด้วยเก้าอี้หลายดีไซน์ “ถึงจะอยู่คนเดียวเป็นหลักแต่อ้อมเลือกโต๊ะทานข้าวขนาดใหญ่ แมตช์กับเก้าอี้ดีไซน์ต่างๆ ให้มีความหวานและเท่ผสมผสานกัน ส่วนที่เลือกโต๊ะขนาดใหญ่เนื่องจากเวลาครอบครัวมาจะได้มีพื้นที่ไว้ซัพพอร์ต เรียกได้ว่าเป็นทั้งส่วนรับรองแขกและนั่งทานข้าวด้วยกันได้ นอกจากนี้ยังบิลต์อินตู้เก็บรองเท้าเพิ่มเติมด้วย ก่อนหน้านี้อ้อมเก็บรองเท้าไว้ใต้บันได หยิบใช้งานไม่สะดวกเท่าไร ด้วยสเปซเรามีน้อยจึงบิลต์อินโดยออกแบบเป็นตู้เต็มพื้นที่ ด้านบนสามารถเก็บของที่ไม่ค่อยใช้งานได้ด้วย

ชั้นบน ห้องนอนแต่ละห้องตกแต่งไม่เหมือนกันเลย แบ่งเป็นห้องนอนมาสเตอร์ของเรา ห้องนอนแม่ และห้องนอนแขกซึ่งตอนแรกเราทำเป็นห้องนอนแม่ แต่ตกแต่งค่อนข้างตามใจตัวเอง มีสีสันนิดหน่อย เวลาแม่มานอนด้วยก็จะบอกว่านอนได้ แต่เราคิดว่าเขาคงไม่ชอบเท่าไร จึงตกแต่งอีกห้องให้ใหม่เป็นสไตล์มินิมอล เน้นโทนสีขาวกับงานไม้ เรียบๆ ดูมีความเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น ส่วนห้องเดิมก็ไว้รับรองแขกแทน

“สำหรับห้องนอนส่วนตัวของอ้อมไม่ได้ตกแต่งอะไรมากนัก เน้นความเรียบง่าย ให้ความรู้สึกสบายๆ แบ่งฟังก์ชันให้มีมุมนั่งทำงาน แต่งตัว มี Walk-in Closet สำหรับจัดเก็บเสื้อผ้า ของใช้กระจุกกระจิกให้เป็นระเบียบเรียบร้อย” คุณอ้อมอธิบายเพิ่มเติมระหว่างที่พาเราโฮมทัวร์ห้องต่างๆ

นอกจากนี้คุณอ้อมยังบอกกับเราทิ้งท้ายว่า “อ้อมมองว่าการที่เราออกแบบตกแต่งเองทั้งหมดอาจจะไม่ใช่บ้านที่สวยที่สุดก็ได้ แต่ต้องเป็นบ้านที่อยู่สบายที่สุด ซึ่งนี่เป็นบ้านหลังแรกของเรา พอทำเสร็จแล้วก็ค่อนข้างตอบโจทย์ บางเรื่องบางอย่างอาจจะยังไม่โอเค 100% แต่ไม่เป็นไร เพราะเรายังไม่เคยรู้ ไม่เคยทำมาก่อน มีปัญหาอะไรก็ค่อยๆ แก้ ค่อยๆ ปรับ ยกตัวอย่างเช่นการติดตั้งซิงก์ควรมีสวิตช์เซอร์วิสด้วย เราไม่รู้ก็ติดตั้งไปเลย พอมารู้ทีหลังก็…อ๋อ! ต้องมีแบบนี้นะ ควรเป็นอย่างนี้จะได้ดูแลง่าย อย่างการใช้งานส่วนอื่นๆ ในบ้านก็เหมือนกัน ทุกอย่างมีอายุการใช้งาน ต้องมีการดูแลซ่อมแซมตลอดเวลา อะไรที่ใช้งานไม่สะดวกเราก็ต้องปรับให้ลงตัวมากขึ้น”            

สำหรับใครที่อยากแต่งบ้านเองหรือชอบสไตล์การแต่งบ้านและห้องครัวของคุณอ้อม สามารถติดตามและดูไอเดียต่างๆ ได้ทางเพจบ้านแต่งเอง Facebook : aom.makemehome และช่องทางยูทูบ TAAOM


You Might Also Like...