Design Kitchen & Home

คอนโดมิเนียมฟังก์ชันที่ซ่อนอยู่ในบ้านชั้นเดียว


คอนโดมิเนียมฟังก์ชันที่ซ่อนอยู่ในบ้านชั้นเดียว

บ้านน้อยหลังนี้อยู่ในอาณาบริเวณเดียวกับบ้านหลังใหญ่ของครอบครัว ซึ่งแรกเริ่มเดิมทีเป็นบ้านที่คุณตาคุณยายอาศัยอยู่มาทั้งชีวิต ถูกรีโนเวตขึ้นใหม่โดยแนวคิดของคุณแม่และคุณน้ำผึ้ง-จารุวรรณ โชติเทวัญ (รองกรรมการผู้จัดการใหญ่สายบริหาร บริษัท สหฟาร์ม อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด) ปรับเปลี่ยนพื้นที่ใช้สอยภายในบ้านให้มีรูปแบบที่อยู่อาศัยเหมือนคอนโดมิเนียม

คุณน้ำผึ้ง-จารุวรรณ โชติเทวัญ

ทำบ้านที่ให้อารมณ์แบบคอนโดมิเนียม

“ด้วยความที่น้ำผึ้งไปเรียนอังกฤษตั้งแต่เด็ก คุ้นเคยกับการอยู่คอนโดฯ อยู่ในพื้นที่เล็กๆ รู้สึกอบอุ่น มองเห็นกันและกัน เลยบอกคุณแม่ว่าอยากซื้อคอนโดฯ คุณแม่เลยมีไอเดียให้ทำบ้านคุณตาคุณยายให้มีลักษณะเป็นแบบคอนโดฯ แต่ภายนอกยังคงเป็นบ้านชั้นเดียว เราจึงตัดสินใจรีโนเวตให้เป็นสไตล์ที่ชอบ จัดเลย์เอาต์ภายในใหม่อย่างที่อยากได้ น้ำผึ้งทำการบ้านเองทุกอย่างตั้งแต่การเลือกเฟอร์นิเจอร์ ห้องนอน ห้องครัว รวมถึงสวน พอตั้งใจจะรีโนเวตบ้านก็เริ่มหา Reference ทั้งจากนิตยสาร อินเทอร์เน็ต เพราะเรามีแบบในใจที่อยากได้อยู่แล้ว

“ปรับเปลี่ยนโครงสร้างค่อนข้างเยอะเพราะเดิมทีไม่ใช่สไตล์นี้เลย น้ำผึ้งชอบสไตล์ลักซ์ชัวรี คุมโทนด้วยสีครีม ทอง และกระจก ส่วนรูปแบบของบ้านน้ำผึ้งอยู่กับลูกสองคน เราอยากเห็นเขาทำอะไร อยู่ตรงไหน เพราะปกติเวลาอยู่บ้านใหญ่มักจะอยู่กันคนละมุม แต่สำหรับบ้านหลังนี้มีขนาดเนื้อที่ใช้สอยที่พอดี”

นำหลักการจัดเลย์เอาท์ของคอนโดมาใช้

ด้วยรูปแบบของพื้นที่ภายในคอนโดมิเนียมเป็นโอเพนสเปซ ไม่กั้นผนัง แต่ละส่วนมีการใช้งานที่เชื่อมโยงและต่อเนื่องกัน ดังนั้นนี่คือโจทย์หลักที่คุณน้ำผึ้งให้กับทางสถาปนิก ซึ่งข้อดีของการออกแบบให้เป็นสเปซในลักษณะนี้ช่วยทำให้พื้นที่ภายในบ้านดูกว้างมากขึ้น จุดไหนที่ดูอึดอัดก็ปรับโครงสร้างใหม่โดยทุบกำแพงออก เพิ่มช่องแสงด้วยการเปลี่ยนหน้าต่าง เรียกว่าเป็นการจัดฟังก์ชันเพื่อให้ตรงกับความต้องการมากที่สุด

เมื่อเราเดินเข้ามาภายในบ้านจะเจอกับ Foyer ก่อนเป็นอันดับแรก ซึ่งตรงนี้คุณน้ำผึ้งบอกว่าเป็นส่วนที่ทำขึ้นใหม่ ต้องการให้มีรูปแบบที่คล้ายกับกลาสเฮาส์ เป็นจุดพักคอยก่อนจะเข้าสู่พื้นที่ภายในบ้าน ตกแต่งสไตล์ลักซ์ชัวรีที่ซ่อนไว้ด้วยความทันสมัยในธีมสีขาวและดำ เบรกด้วยโซฟาสีชมพูพาสเทลซึ่งเป็นสีที่คุณน้ำผึ้งชอบ

พื้นที่ถัดมาเป็นสเปซขนาดใหญ่ประกอบไปด้วยห้องนั่งเล่นที่อยู่ทางฝั่งขวา และห้องนอน ส่วนทางฝั่งซ้ายเป็นโต๊ะทานข้าวมองไปเห็นสวนหย่อมภายนอก โดยโต๊ะทานข้าวเชื่อมต่อกับห้องครัว

ออกแบบห้องครัวเต็มที่เผื่อใช้งานในอนาคต

“หากย้อนเวลากลับไปในช่วงที่น้ำผึ้งกำลังรีโนเวตบ้าน ตอนนั้นยังไม่ได้ทำอาหารจริงจัง วางแผนไว้แค่เป็นครัวสำหรับโชว์ที่ไม่ได้ใช้งานหนัก แต่เราออกแบบและวางแผนเผื่อไว้ในอนาคต หากต้องการใช้งานก็สามารถตอบโจทย์ได้ครบ ซึ่งสุดท้ายน้ำผึ้งก็ได้ใช้ครัวนี้ในการทำอาหารมากขึ้น เพราะพอเราทำแบรนด์พอลดีย์ (Pauldy) ก็เริ่มศึกษาการทำอาหารจากที่ต่างๆ ได้ทดลองทำเรื่อยๆ ลูกบอกว่าเราทำอาหารอร่อย เหมือนมีกำลังใจในการทำอาหารมากขึ้น ค่อยๆ พัฒนาฝีมือตลอด จนตอนนี้กลายเป็นไลฟ์สไตล์ ในช่วงหยุดอยู่บ้านก็จะทำอาหารให้ลูกทาน แล้วก็ถ่ายคลิปลงออนไลน์ไปด้วย

“แบรนด์พอลดีย์เป็นแบรนด์ที่ต่อยอดจากสหฟาร์ม ทำเพื่อการส่งออกร้อยเปอร์เซ็นต์ เราเลยอยากให้คนไทยได้บริโภคของดีมีประโยชน์จึงทำแบรนด์นี้ขึ้นมา เราเลี้ยงไก่ต่อตารางเมตรน้อยลง ทำให้พื้นที่ในฟาร์มกว้างกว่าเดิม ดังนั้นไก่จะมีพื้นที่ให้เดินเล่น ผ่อนคลาย เราให้ไก่กินสมุนไพรเป็นอาหาร เปิดเพลงให้ไก่ฟัง สิ่งที่ได้คือเนื้อไก่คุณภาพดี เราจึงใช้ช่องทางออนไลน์สำหรับให้ความรู้กับผู้บริโภค สามารถนำข้อมูลหรือเมนูสาธิตของเราไปใช้ทำอาหารได้ แม้กระทั่งคนที่ทำอาหารไม่เป็นก็สามารถทำทานเองได้ง่ายๆ ที่บ้าน ซึ่งน้ำผึ้งก็ได้ใช้ครัวนี้สำหรับการถ่ายทำไปในตัว”

ถึงแม้ฟังก์ชันใช้สอยภายในบ้านจะออกแบบให้มีลักษณะคล้ายกับพื้นที่ภายในคอนโดมิเนียม แต่คุณน้ำผึ้งก็ยังให้ความสำคัญกับเรื่องฮวงจุ้ยด้วยเช่นกัน ตั้งแต่ตำแหน่งของห้องนอนมาสเตอร์เบดรูม ทิศทางลม แสง ตำแหน่งน้ำไฟในห้องครัว เป็นต้น

นอกจากฟังก์ชันครัวที่ตอบโจทย์การใช้งานได้เป็นอย่างดีแล้ว สไตล์การออกแบบยังสอดคล้องไปกับคอนเซ็ปต์โดยรวมในแบบ ลักซ์ชัวรี กำหนดหน้าบานชุดครัวสีครีม เพิ่มลูกเล่นด้วยเส้นอะลูมิเนียมสีทองตรงหน้าบานเพิ่มความหรูหรา รวมถึงยังมีตู้แขวน ลิ้นชัก และตู้ใต้เคาน์เตอร์ที่รองรับการจัดเก็บข้าวของเครื่องใช้ได้จำนวนมาก

“ห้องครัวและห้องทานข้าวไว้ตรงส่วนหลังของบ้าน สองอย่างนี้ต้องสอดคล้องกัน บางคนอาจจะชอบห้องครัวห้องหนึ่ง ห้องทานข้าวแยกไปอีกห้องหนึ่ง แต่สำหรับน้ำผึ้งแล้วชอบให้สองส่วนนี้เชื่อมถึงกัน เพราะระหว่างที่เราทำอาหาร ก็ยังคุยกับลูกได้ ตรงกลางเป็นไอส์แลนด์สำหรับเตรียมทำอาหาร หรือวางอาหารที่พร้อมจัดเสิร์ฟไปยังโต๊ะทานข้าว”

ตำแหน่งของโต๊ะทานข้าวถูกวางไว้ใกล้กับหน้าต่างบานใหญ่ที่เชื่อมโยงกับสวนหย่อมภายนอก ข้อดีของการวางหน้าต่างไว้บริเวณนี้ไม่เพียงได้รับแสงสว่างจากธรรมชาติ แต่ยังช่วยในเรื่องของทิศทางลม อีกทั้งยังช่วยเปิดมุมมองให้เห็นสวนสไตล์อังกฤษขณะนั่งทานอาหาร ได้สัมผัสกับต้นไม้ที่มีทั้งขนาดใหญ่และเล็กซึ่งปลูกสลับสับหว่างให้สวนดูมีจังหวะและสเปซที่สวยงามมีมิติ กลายเป็นฉากทิวทัศน์เขียวชอุ่มขนาดใหญ่ที่เกิดขึ้นระหว่างสมาชิกในครอบครัวมีปฏิสัมพันธ์ และกิจกรรมที่พวกเขาทำร่วมกันอย่างมีความสุข

เจ้าของ คุณจารุวรรณ โชติเทวัญ
พื้นที่ใช้งานครัว 35 ตารางเมตร


You Might Also Like...