เริ่มต้นปีกันด้วยความน่ารักอบอุ่นไปกับไอเดียแต่งบ้านหลังที่สองของคุณแม่โมส เจ้าของเพจ Mom Diary ครั้งนี้คุณพ่อแนคออกมาเปิดประตูต้อนรับพวกเราพร้อมกับน้องพิกเซลพี่ชายสุดหล่อ และน้องพิกเจอร์ลูกสาวคนเล็กที่มาเพิ่มเติมความสดใสให้กับครอบครัวดาวจรัสแสงชัย และเพื่อต้อนรับสมาชิกใหม่ คุณโมสจึงตัดสินใจซื้อบ้านอีกหลังในโครงการเดียวกัน ซึ่งบอกกับเราว่า “แอบมองบ้านแปลงนี้มานานแล้วแต่ด้วยขนาดที่ไม่ใหญ่มากนักตอนแรกเราเลยซื้ออีกหลังแทน ผ่านไปปีสองปีก็ยังไม่มีใครมาซื้อ พอดีกับที่เราอยากจะขยับขยายครอบครัว เลยคิดว่ายังไงบ้านหลังนี้คงต้องเป็นของเราแล้วล่ะ”
“บ้านหลังที่ 2 อยู่ถัดจากบ้านหลังแรกไปประมาณ 4-5 หลัง คุณโมสปั่นจักรยานคันเล็กๆ มาพร้อมตะกร้าใส่ของให้ความรู้สึกเหมือนแม่บ้านญี่ปุ่นมากเลยทีเดียว “ตอนเรามีลูกคนเดียวก็ยังไม่ได้คิดอะไรมาก แต่พอมีลูกคนที่ 2 เลยอยากจะขยับขยาย เตรียมวางแผนอนาคตไว้ให้ลูกๆ เลยคิดว่าอยากมีบ้านอีกสักหลัง คือถ้าวันหนึ่งลูกโตแล้วย้ายออกไปก็อยากให้อยู่ใกล้ๆ กัน
คุณโมส คุณแนค น้องพิกเซล และน้องพิกเจอร์ กับมุมนั่งเล่นในบ้าน
แต่งแต้มสีสันให้บ้านด้วยโทนสีเขียวมะกอก สบายตาและดูอบอุ่น
“ในโครงการจะมีบ้านอยู่หลังหนึ่งที่เราแอบดูไว้นานแล้ว เป็นแปลงพิเศษที่มีพื้นที่เหลือด้านข้างแล้วเขาออกแบบให้มีบ้านหลังเล็กๆ เหมือนเป็นเรือนรับรองอยู่ด้วย เราชอบตรงนี้มากเลย เห็นแล้วอยากทำเป็นคาเฟ่ในบ้าน แต่ขนาดของบ้านเป็นไทป์เล็ก ตอนนั้นเลยตัดสินใจซื้ออีกหลังแทน จนเวลาผ่านไปก็ยังไม่มีใครมาซื้อบ้านหลังนี้ เลยลองทำเรื่องกู้ดู ถ้าผ่านเราก็คิดในใจว่ายังไงบ้านหลังนี้คงต้องเป็นของเราแล้วล่ะ”
ดีไซน์ขอบประตูโค้งเพื่อเพิ่มลูกเล่นให้กับบ้าน
ห้องครัวใช้งานได้ต่อเนื่องกับมุมทานข้าวและลิฟวิงรูม
สำหรับการตกแต่งคุณโมสยังคงคอนเซ็ปต์มินิมอลแต่ผสมผสานความคลาสสิกเข้ามา เป็นมู้ดแอนด์โทนที่อบอุ่นและเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น “เรามีภาพอยู่ในหัวตั้งแต่ยังทำเรื่องกู้อยู่เลย (หัวเราะ) ว่าตรงไหนอยากทำอะไร ตกแต่งสไตล์ไหน โทนสีประมาณนี้ อะไรที่เราอยากทำเพิ่มในบ้านหลังแรกก็เอามาทำที่นี่ เพราะหลังนู้นไม่มีพื้นที่เหลือแล้ว ทุกอย่างเต็มไปหมด เริ่มจากเปลี่ยนประตู-หน้าต่างเป็นแบบที่เราชอบ ส่วนใหญ่จะเป็นหน้าบานกระจกเพราะอยากได้แสงจากธรรมชาติ ออกแบบดีไซน์ให้มีช่องประตูโค้งบ้าง
“ส่วนมู้ดแอนด์โทนจะต่างจากบ้านหลังแรกตรงที่มีกลิ่นอายของความคลาสสิกผสมผสานเข้ามา เลือกใช้โทนที่ให้ความรู้สึกอบอุ่นกว่าหลังแรกอย่างสีน้ำตาลเข้มและมีสีเขียวมะกอกเข้ามาแจมนิดๆ ให้บ้านดูมีสีสันบ้าง ในส่วนของพื้นที่ในบ้านและฟังก์ชันต่างๆ คุณโมสบอกกับเราเพิ่มเติมว่า “หลังนี้เราไม่ได้ต่อเติมอะไรเพราะยังไม่ได้ย้ายเข้ามาอยู่บ้านนี้เป็นหลัก เลยพยายามจัดสรรสเปซภายในบ้านให้ตรงกับการใช้งานของเราก่อน ส่วนชั้นล่างจะเป็นลิฟวิง มีมุมทานข้าว ห้องครัว ชั้น 2 แบ่งเป็นห้องนอนใหญ่ ห้องนอนเล็ก และห้องดูหนัง”
ออกแบบเคาน์เตอร์เป็นรูปตัว L ชิดผนัง ติดตั้งเครื่องใช้ไฟฟ้าเข้ากับชุดครัว ใช้งานได้สะดวก
กรุกระเบื้องผนังให้ครัวดูมีลูกเล่นสวยงามและเช็ดทำความสะอาดง่าย
ด้านในตู้แขวนเหนือซิงก์ออกแบบให้มีที่คว่ำจาน สะดวกและดูเรียบร้อย
“อย่างห้องครัวเราก็ไม่ได้ทำเพิ่มเหมือนหลังแรก เป็นส่วนที่โครงการกั้นห้องไว้ให้อยู่แล้ว เราก็มาคิดว่าจากพื้นที่ใช้สอยที่มีอยู่จะสามารถทำอะไรได้บ้าง ซึ่งชุดครัวนี้เราก็ออกแบบเองทั้งหมดเหมือนเดิม เป็นครัวเล็กที่ใช้งานได้จริง จะค่อนข้างต่างจากครัวบ้านนู้นที่แบ่งเป็นครัวหลังบ้านกับครัวแพนทรีในบ้าน แต่ครัวนี้เราติดตั้งเตาอินดักชัน เครื่องดูดควัน ซิงก์ รวมถึงอุปกรณ์ต่างๆ เข้ากับชุดครัว มีมุมกาแฟ และเว้นที่ไว้สำหรับวางตู้เย็นเล็กๆ ทุกอย่างจบครบในครัวเดียว สามารถใช้งานได้สะดวก ถ้าในอนาคตลูกๆ โตหรือเราย้ายมาอยู่บ้านหลังนี้กันค่อยต่อเติมทีหลังก็ได้ แต่ถ้าไม่ทำอะไรเพิ่มโมสว่าก็ใช้งานได้ตอบโจทย์คล่องตัวแล้วนะ
เลือกใช้ซิงก์ล้างจานขนาดเล็กแต่มีความลึกเพื่อให้ใช้งานได้ถนัดมากขึ้น
ออกแบบให้มีตู้แขวนจรดเพดานไว้จัดเก็บทั้งอุปกรณ์ครัวและของใช้อื่นๆ
ติดตั้งเตาอินดักชันและเครื่องดูดควันขนาดกะทัดรัดไว้ทำอาหารง่ายๆ
“ส่วนฟังก์ชันยังคงเน้นการจัดเก็บ เราออกแบบให้มีตู้แขวนจรดเพดานไว้จัดเก็บทั้งอุปกรณ์ครัวและของอื่นๆ ที่เราไม่ค่อยได้ใช้งาน และมีชั้นวางของติดผนังไว้วางของตกแต่งกับของที่หยิบใช้งานบ่อยๆ ครัวจะได้ดูโปร่ง เคาน์เตอร์ออกแบบเป็นรูปตัว L เข้ามุม ทอปเป็นลามิเนตกันน้ำลายไม้สีน้ำตาลออกเทาเข้มๆ ตัดกับหน้าบานสีขาวนวลๆ ชุดครัวนี้จะดูขรึมๆ สไตล์ฝรั่งต่างไปจากครัวบ้านหลังแรกที่จะมีกลิ่นอายแบบญี่ปุ่นๆ และเรายังให้ความสำคัญเรื่องของแสงจากธรรมชาติ โมสเลยเปลี่ยนประตูในห้องครัวจากหน้าบานทึบเป็นประตูกระจกแล้วติดฟิล์มกันคราบสกปรกและช่วยพรางสายตา แล้วพอเราเปลี่ยนประตูบรรยากาศในครัวก็เปลี่ยนไปด้วย สว่างขึ้นและดูไม่อึดอัด
เพิ่มที่จัดเก็บในครัวด้วยชั้นวางของติดผนัง
เว้นช่องไว้สำหรับจัดวางตู้เย็นเล็กๆ ในครัว
“นอกจากนี้โมสก็จะพยายามเลือกอุปกรณ์ที่มีขนาดกะทัดรัด บิลต์อินเข้ากับชุดครัวให้เรียบร้อยมองแล้วไม่รกสายตา บางอย่างที่เราใช้งานไม่ถนัดในครัวบ้านนู้นก็นำมาปรับกับครัวนี้ ซิงก์จะเลือกที่มีความลึกมากขึ้น เครื่องดูดควันจะเป็นแบบที่ดึงออกมาได้ ใช้งานเสร็จก็เก็บ เพราะครัวเล็กเราเลยต้องเลือกอะไรที่ใช้พื้นที่คุ้มค่าและดูไม่เกะกะ อย่างโต๊ะทานข้าวเราเลือกดีไซน์โต๊ะกลมที่สามารถพับเป็นโต๊ะสี่เหลี่ยมชิดผนังได้ ตอนที่เห็นคือชอบมากเป็นของแบรนด์ Mitten Studio เพราะบ้านหลังนี้ไม่ได้ใหญ่มากเราพับเก็บได้เวลาต้องการใช้พื้นที่ทำอย่างอื่น”
ที่แขวนติดผนังสำหรับแขวนตะหลิว ทัพพี หรืออุปกรณ์ที่ใช้งานบ่อยๆ
ช่องและลิ้นชักใต้เคาน์เตอร์สามารถจัดเก็บได้เต็มพื้นที่ ช่วยให้ครัวเล็กดูเป็นระเบียบเรียบร้อย
พูดถึงพื้นที่ในบ้านกันมาพอสมควรแล้ว มาถึงมุมคาเฟ่กันบ้างกับบ้านหลังจิ๋วที่ทำให้คุณโมสตกหลุมรักบ้านแปลงนี้ตั้งแต่แรกเห็น “ก่อนจะมีลูกโมสเคยเปิดคาเฟ่ เหมือนเป็นความฝันอีกอย่างของเรา แต่พอมีลูกเลยต้องปิดไปก่อน เราอยากให้เวลากับการเลี้ยงลูกให้เต็มที่ ซึ่งสิ่งนี้ก็ยังอยู่ในใจเรามาตลอด เป็นสิ่งที่เราชอบที่ยังอยากทำ พอทางโครงการเขาออกแบบแปลงนี้ให้มีบ้านหลังเล็กๆ ด้านข้างด้วยโมสเลยทำให้เป็นเหมือนคาเฟ่ในบ้าน คาเฟ่ทิพย์ (หัวเราะ) เพราะยังไม่มีคนขาย
โต๊ะทานข้าวที่ออกแบบเป็นโต๊ะกลมแต่สามารถพับเป็นโต๊ะสี่เหลี่ยมชิดผนังได้ ประหยัดเนื้อที่และใช้งานได้คล่องตัว
“ด้านในเราออกแบบให้มีเคาน์เตอร์บาร์ มีมุมนั่งเล่นกับห้องน้ำในตัว เผื่อว่าวันหนึ่งจะเปิดคาเฟ่ขายง่ายๆ เฉพาะคนในหมู่บ้าน มีเครื่องดื่มกับเมนูอาหารเช้าง่ายๆ ขายได้ไหมยังไม่รู้แต่ทำกินกันเองได้แน่นอน เพราะอุปกรณ์พร้อมมาก ตอนนี้ทุกอย่างใกล้เสร็จเรียบร้อยแล้ว คือเราไม่ได้ทำอะไรกับโครงสร้างเลยแค่เปลี่ยนประตูกับหน้าต่างแล้วปูกระเบื้องผนังด้านหน้าใหม่ จริงๆ มุมนี้ยังเป็นอีกมุมของบ้านไว้เปลี่ยนบรรยากาศมานั่งเล่นกันเพลินๆ บางวันก็ปั่นจักรยานจากบ้านนู้นมาบ้านนี้ เอาของใส่ตะกร้ามาปิ้งย่างทำอะไรกินกันสบายๆ”
บ้านหลังเล็กด้านข้างที่คุณโมสออกแบบเป็นคาเฟ่ (ทิพย์) บอกเลยว่า So Cute
แอบกระซิบบอกแฟนๆ ของ Mom Diary ไว้ก่อนเลยนะคะว่าครั้งต่อไปเราจะพาทุกคนไปบุกบ้านคุณพ่อคุณแม่ของคุณโมส กับโปรเจ็กต์รีโนเวตบ้านทาวน์เฮาส์หลังเก่าให้กลับมามีชีวิตชีวาและน่าอยู่กว่าที่เคย Before & After จะเป็นอย่างไร รอติดตามกันได้เลยค่ะ
