หลังจากแต่งงานนอกจากคุณปูนกับคุณกายจะเริ่มต้นก่อร่างสร้างครอบครัวแล้ว ยังก่อร่างสร้างบ้านหลังนี้ขึ้นมาเพื่อขยับขยายที่อยู่อาศัยให้ตอบโจทย์ลงตัวกับการใช้ชีวิตของทั้งคู่มากขึ้น โดยมีโจทย์ว่าอยากได้บ้านสไตล์นอร์ดิก เรียบง่าย เน้นเปิดรับแสงสว่างจากธรรมชาติ มีฟังก์ชันใช้งานแบ่งเป็นสัดส่วนชัดเจนระหว่างไพรเวตโซนกับพื้นที่รับรองแขก ส่วนบรรยากาศภายในคุณปูนบอกว่าอยากให้โปร่งโล่ง อยู่สบาย จึงเลือกใช้โทนสีขาว ครีม เทา ผสมผสานงานไม้ที่จะเข้ามาช่วยเติมความอบอุ่นให้กับบ้านอีกด้วย
“ที่ตรงนี้เป็นของเราเองซึ่งด้านหลังติดกับบ้านคุณแม่อยู่แล้ว หลังจากแต่งงานเลยขยับขยายสร้างบ้านหลังนี้ขึ้นมา เราอยากได้บ้านที่โล่งๆ โปร่งๆ ชอบแสงธรรมชาติ และก่อนหน้าที่จะทำบ้านเราขับรถกันไปในนครปฐม เจอแบบบ้านหลังหนึ่งแล้วชอบ บังเอิญได้เจอกับสถาปนิกที่ออกแบบพอดี เราเลยให้มาออกแบบบ้านให้ ดีไซน์ของบ้านจะคล้ายกันแต่เรามีเรฟเฟอเรนซ์เพิ่มเติมให้ทางสถาปนิกด้วยว่าอยากได้บ้านแบบไหน สไตล์ประมาณนี้ๆ” คุณปูนเริ่มต้นเล่าให้ฟัง
ตัวบ้านภายนอกออกแบบเป็นสไตล์นอร์ดิก โดดเด่นด้วยเส้นสายที่มองแล้วสวยงาม เรียบง่าย สะอาดตา เลือกใช้หน้าต่างและกระจกบานใหญ่เพื่อให้แสงสว่างส่องเข้ามาในบ้านได้อย่างเต็มที่ ขณะเดียวกันก็สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ภายนอกได้ด้วย “จริงๆ ถ้ามองจากด้านนอก บ้านเราจะเป็นสไตล์นอร์ดิก แต่ถ้าเข้ามาด้านในจะเห็นว่าเราไม่ได้เจาะจงว่าต้องเป็นสไตล์ไหน เราเลือกจากสิ่งที่ชอบมากกว่า เน้นอะไรที่ดูเรียบๆ อยู่ได้นาน ดูแลทำความสะอาดง่าย ส่วนที่เลือกใช้กระจกค่อนข้างเยอะเพราะเราชอบแสงธรรมชาติ ถ้าถามว่ากังวลเรื่องความร้อนไหม เราติดม่านกับฟิล์มกันความร้อน ถึงจะไม่ช่วย 100% แต่ก็ยังช่วยลดความร้อนให้บ้านได้ประมาณหนึ่ง”
นอกจากเรื่องดีไซน์แล้วโจทย์อีกอย่างที่คุณปูนบอกกับทางสถาปนิกคือ อยากให้แบ่งพื้นที่ใช้งานของบ้านให้เป็นสัดส่วนชัดเจน “เราแบ่งบ้านออกเป็น 2 ฝั่ง มีคอร์ตยาร์ดตรงกลางไว้เป็นมุมนั่งเล่นเอาต์ดอร์และเชื่อมโยงพื้นที่ให้ใช้งานได้ต่อเนื่องกัน ฝั่งที่ไว้สำหรับรับรองแขกมีห้องนอน 2 ห้อง กับห้องนั่งเล่น ส่วนอีกฝั่งจะเป็นบ้านหลังหลักที่เราอยู่ ชั้นล่างมีห้องนั่งเล่น กินข้าว ครัว ชั้นบนเป็นห้องนอนกับห้องทำงาน”
แปลนของบ้านถ้าเดินเข้ามาจากประตูด้านหน้าจะเจอกับส่วนลิฟวิงที่ใช้เป็นมุมรับแขกด้วยในตัว ดีไซน์ผนังกั้นส่วนเป็นบานกระจกสามารถพับเปิดปิดได้ ตรงกลางออกแบบเป็นโถงสูงเปิดมุมมองให้บ้านดูโปร่งไม่อึดอัด โดยมีโต๊ะกินข้าวตัวยาวจัดวางไว้เสมือนเป็นเฟอร์นิเจอร์ชิ้นเอกของบ้าน “ไอเดียกระจกกั้นเราบอกสถาปนิกว่าอยากให้ห้องนั่งเล่นคอนเน็กต์กันกับโต๊ะกินข้าว บางทีก็อยากเปิดโล่งให้น้องหมา (มะลิ) วิ่งเล่นในบ้านได้ เลยทำเป็นหน้าบานพับ เวลาเปิดสุดจะได้อยู่ตรงมุมห้องดูเรียบร้อยกลมกลืนไปกับส่วนอื่นๆ ของบ้าน แต่ถ้าอยากใช้งานแค่โซนใดโซนหนึ่งก็เลื่อนปิดได้”
ถัดไปเป็นส่วนของครัว “ครัวเรากำหนดตำแหน่งตามที่ซินแสดูให้ โจทย์หลักๆ คืออยากทำสกายไลต์ให้แสงส่องเข้ามาในครัว โดยส่วนตัวเราชอบสกายไลต์ เพียงแค่มันไม่เหมาะกับอากาศเมืองไทยที่ค่อนข้างร้อน และเรากลัวเรื่องรั่วซึมด้วยเลยทำแค่บางส่วน ไม่ได้ทำทั้งหมด ฟังก์ชันใช้งานเราไม่ได้ทำครัวหนัก ไม่ค่อยได้ทำอาหาร ตื่นเช้าออกไปทำงานกลับบ้านมาก็มืดแล้ว ส่วนใหญ่จะแค่อุ่นกับเตรียมอาหารมากกว่า แต่เราจะทำกาแฟเป็นประจำทุกวันเลยออกแบบให้มีไอส์แลนด์ตรงกลาง จะได้มีพื้นที่วางของ ดริปกาแฟ ด้านหน้าก็เป็นเคาน์เตอร์บาร์ไว้นั่งเล่น กินข้าวง่ายๆ ส่วนดีไซน์ครัวก็ยังเน้นความเรียบง่าย ดูโมเดิร์น เลือกใช้โทนสีขาว เทา ปูผนังด้วยกระเบื้องลายหินอ่อน แบบครัวตอนแรกตรงผนังจะเป็นกระเบื้องลายหินอ่อนเต็มแผ่น แต่พอทำเสร็จเรียบร้อยเราไปเจาะผนังทำให้กระเบื้องร้าวเป็นทางยาว เลยแก้ปัญหาด้วยการตัดส่วนที่ร้าวออกแล้วปิดด้วยลามิเนตสีเทาแทน” คุณปูนอธิบายเพิ่มเติม
ถึงภาพรวมของบ้านคุณปูนจะเน้นความเรียบง่าย แต่ในความเรียบง่ายนั้นเต็มไปด้วยรายละเอียดและความใส่ใจโดยเฉพาะการเลือกใช้วัสดุต่างๆ “บ้านหลังนี้ถือเป็นบ้านหลังแรกของเราทั้งคู่ และด้วยความที่ตัวเราเองขายวัสดุก่อสร้างอยู่แล้ว เวลาทางสถาปนิกสเปกของมาให้เราก็จะพยายามหาของที่มีมาเทียบกันแล้วนำมาใช้ เราเลือกวัสดุเองทั้งหมด สิ่งที่ใส่ใจเป็นพิเศษคือกระเบื้องกับสุขภัณฑ์ กระเบื้องเราต้องดูว่าคงทนหรือเปล่า ทำความสะอาดได้ง่าย ใช้ไปนานๆ แล้วสีจะซีดไหม หรือแม้กระทั่งส่วนที่มองไม่เห็นอย่างปูนกาวก็มีผลกับความแข็งแรงของบ้านเหมือนกัน ควรจะใช้แบบไหนดี
“จากโจทย์ทั้งหมดพื้นชั้นล่างลงตัวที่กระเบื้องแกรนิตโต้ซึ่งจริงๆ ใช้สำหรับภายนอก ผิวกระเบื้องจะไม่เงาและไม่แมตช์จนเกินไป ทำความสะอาดง่าย โดยเราให้ทางซัพพลายเออร์ช่วยหาและนำเข้ามาเพราะในเมืองไทยยังมีไม่มาก นอกจากใช้กับบ้านแล้วก็นำมาขายในร้านด้วย คิดว่าน่าจะมีลูกค้าที่ชอบแบบเราเหมือนกัน ส่วนที่เลือกสีเทาส่วนตัวรู้สึกว่าถ้าเป็นสีขาวบ้านจะดูสว่างเกินไป โทนสีประมาณนี้น่าจะโอเคกว่า สำหรับชั้นบนพื้นในห้องนอนจะเป็นไม้จริง พื้นด้านนอกกับทางเดินเป็นไม้เอ็นจิเนียร์ ส่วนสุขภัณฑ์ด้วยร้านเราเป็นตัวแทนของ Kohler กับ American Standard เลยเลือกสุขภัณฑ์ของทั้งสองแบรนด์มาใช้”
และเมื่อบ้านเสร็จเรียบร้อย “เรารู้สึกแฮปปี้นะ เหมือนที่นี่คือบ้านของเราจริงๆ ไม่รก มีพื้นที่ให้น้องหมา กลับจากทำงานเราก็วิ่งเล่นกับเขาในบ้านเลย อย่างคอร์ตตรงกลางเราก็คิดมาแล้วว่าถ้าออกแบบจะช่วยให้ลมโฟลว์ เปิดประตูตรงนี้แล้วเดินออกไปนั่งเล่นได้ โดยเฉพาะช่วงหน้าหนาวที่อากาศเย็นสบาย ไลฟ์สไตล์วันหยุุดส่วนใหญ่เราก็จะอยู่บ้านกันทั้งวัน มุมใช้งานบ่อยที่สุดก็คือลิฟวิง พี่กายอยู่ห้องนั่งเล่น ปูนนั่งอยู่ตรงโต๊ะกินข้าว แต่เราก็ยังมองเห็นกัน พูดคุยกันได้” คุณปูนบอกทิ้งท้าย
