ด้วยไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนไปของคนในปัจจุบัน การเลือกอยู่อาศัยในบ้านขนาดกะทัดรัดหรือคอนโด คงเป็นอะไรที่ตอบโจทย์และคล่องตัวมากกว่า วันนี้ @Kitchen จึงขอนำเสนอไอเดียจัดพื้นที่เล็กให้รู้สึกสบาย กว้างขวาง หลากหลายสไตล์ ไม่ว่าจะเป็นสไตล์มินิมอล โมเดิร์น ก็สวยงามตอบโจทย์แน่นอน
1.จัดพื้นที่ให้สอดคล้องกับการใช้งาน
เริ่มต้นจากสำรวจการใช้งานและไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัย จำนวนสมาชิก แบ่งพื้นที่ว่าส่วนส่วนไหนเป็นไพรเวตโซน ส่วนไหนเป็นพื้นที่ที่ทุกคนใช้งานร่วมกัน เพื่อการออกแบบที่สอดคล้องกับการใช้งานมากที่สุด โดยไม่ต้องทำห้องให้เกินความจำเป็นจะทำให้มีพื้นที่ส่วนกลางมากขึ้น
2.หนึ่งสเปซใช้งานได้หลากหลาย
เมื่อพื้นที่เรามีอยู่อย่างจำกัด การออกแบบสเปซแต่ละส่วนให้เป็นได้มากกว่าหนึ่งอย่าง นอกจากจะช่วยประหยัดเนื้อที่แล้ว ยังใช้งานได้หลายฟังก์ชันอีกด้วย ยกตัวอย่างเช่น พื้นที่ห้องครัวเราอาจจะออกแบบให้มีไอส์แลนด์กลางห้องหรือดีไซน์เคาน์เตอร์ให้เป็นทั้งที่เตรียมของและนั่งทานข้าวได้ด้วย โดยที่ไม่จำเป็นต้องมีโต๊ะทานอาหารก็ได้ หรือจะใช้สเปซห้องครัวเป็นทั้งห้องนั่งเล่นและรับแขกไปในตัว อาจจะต้องออกแบบพื้นที่ให้กว้างกว่าเดิมเพื่อรองรับการใช้งานรูปแบบต่างๆ และเว้นระยะสัญจรให้ใช้งานได้คล่องตัวฃ
3.มีพื้นที่จัดเก็บให้มากพอ
บ้านเล็กของเราจะดูกว้างขึ้นถ้าเราจัดการกับข้าวของต่างๆ ให้เป็นระเบียบเรียบร้อย โดยเฉพาะคนช่างเก็บ(แบบเรา) อย่างแรกเราแนะนำให้เลือกจัดเก็บของแบบแนวตั้ง เช่น เลือกใช้ตู้เก็บของทรงสูง บิลต์อินชั้นวางของติดผนังแบบเปิด อาจจะแบ่งเป็นช่องคละขนาดเพื่อให้ใส่ของได้หลายประเภท หรือจะออกแบบผนังที่ซ่อนฟังก์ชันเก็บไว้ด้านในเพื่อให้ดูกลมกลืนสวยงาม ไม่รกสายตา จะช่วยทำให้ห้องดูโล่งขึ้น
โดยเฉพาะในส่วนของห้องครัวที่ต้องเน้นเรื่องการจัดเก็บเป็นพิเศษ เนื่องจากมีอุปกรณ์ เครื่องใช้ต่างๆ มากมาย ควรออกแบบให้มีตู้แขวนเหนือเคาน์เตอร์ครัว จะสูงจรดเพดานหรือเว้นช่องด้านบนไว้สำหรับวางของด้วยก็ได้ ข้อดีของตู้จรดเพดานคือจะมีที่เก็บเยอะขึ้น ส่วนการเว้นระยะจะช่วยให้ครัวดูโปร่ง เพิ่มช่องและลิ้นชักเก็บของใต้เคาน์เตอร์และไอส์แลนด์ สำหรับเก็บหม้อ กระทะ ถ้วย จาน ชามต่างๆ และอย่าลืมแบ่งหมวดหมู่ให้เป็ระเบียบ
4.เปลี่ยนกำแพงให้เป็นพื้นที่โล่ง
ด้วยขนาดพื้นทีที่เล็กอยู่แล้ว การที่เราแบ่งห้องด้วยกำแพงจะยิ่งสร้างความอึดอัดมากขึ้นอีก เราแนะนำให้ทำห้องเฉพาะส่วนที่เป็นไพรเวตโซนอย่างห้องนอนและห้องน้ำ และในส่วนของห้องครัว ห้องนั่งเล่น และส่วนรับประทานอาหาร เราสามารถออกแบบให้เปิดโล่งถึงกัน นอกจจากจะใช้งานได้ต่อเนื่อง ยังดูโปร่งสบาย ไม่อับทึบ และยังให้ความรู้สึกเหมือนเป็นลิฟวิงรูมขนาดใหญ่ที่ทุกคนได้ใช้เวลาด้วยกันอีกด้วย
5.แสงสว่างนั้นสำคัญ
การเลือกใช้ประตูและหน้าต่างกระจกบานใหญ่ หรือออกแบบให้มีช่องแสงในห้องที่ดูมืด อับทึบ เพื่อให้มีแสงสว่างจากธรรมชาติเข้าสู่ภายในบ้านและคอนโดเพียงพอ จะช่วยให้ห้องดูกว้างและปลอดโปร่งมากขึ้น
6.เลือกใช้โทนสีอ่อนๆ
ตกแต่งห้องด้วยโทนสีที่มองแล้วสบายตา ให้ความรู้ละมุนไม่สร้างความอึดอัด อย่างสีขาว สีเหลืองอ่อน สีฟ้าพาสเทล สีครีม สีเทา แต่สำหรับใครที่ชื่นชอบโทนสีแบบเท่ๆ ดูสุขุมอย่างสีดำ สีน้ำเงินเข้ม เราสามารถมิกซ์แอนด์แมตช์โทนสีเหล่านี้เข้าด้วยกัน แต่อาจจะแบ่งเปอร์เซนต์ให้กับสีโทนอ่อนมากกว่าสีโทนเข้ม หรือเลือกจับคู่สีร้อน-เย็น เพื่อไม่ให้ดูหนักจนเกินไป
7.เพิ่มพื้นที่สีเขียว
การที่เราได้มองออกไปเห็นวิวทิวทัศน์ด้านนอก จะช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย ไม่เหมือนว่าเรากำลังนั่งอยู่ในห้องที่อึมครึม อีกทั้งยังเป็นการดึงธรรมชาติจากภายนอกเข้าสู่ภายตัวบ้าน เพราะฉะนั้นการแต่งเติมบ้านและคอนโดของเราด้วยสวนเล็กๆ หรือจัดวางกระถางต้นไม้ตามมุมต่างๆ ก็ช่วยเพิ่มความมีชีวิตชีวาให้กับพื้นที่เล็กๆ ของเราได้ไม่น้อยเลยทีเดียวจริงไหมล่ะ