เราอาศัยอยู่ในลักษณะภูมิประเทศที่เป็นเขตร้อนชื้น ดังนั้นการออกแบบบ้านที่ดีควรทำให้ผู้อาศัยอยู่สบายมากที่สุด ในขณะเดียวกันก็ต้องคำนึงถึงสภาพแวดล้อมโดยรอบด้วย พยายามรักษาระบบนิเวศน์เดิมไม่ให้เสียไปหรือไม่ก็สร้างขึ้นใหม่เพื่อให้มนุษย์และธรรมชาติอยู่ร่วมกันได้อย่างกลมกลืน
ปกติแล้วการสร้างบ้านในเขตร้อนชื้นควรประกอบด้วยพื้นที่ 3 รูปแบบ คือ Outdoor พื้นที่กลางแจ้ง โดนแดด โดนฝน ใช้ทำกิจกรรมได้ตามที่ผู้อาศัยต้องการ Semi-Outdoor คือพื้นที่ที่อยู่ในร่มเงา เป็นพื้นที่สำหรับการเปลี่ยนผ่านระหว่างภายนอกและภายใน นอกจากช่วยปรับและเชื่อมความรู้สึกของผู้อาศัยแล้ว ระหว่างภายในและนอกบ้านให้เป็นมุมพักผ่อน และพื้นที่ Indoor เป็นพื้นที่ภายในที่ไม่โดนแดดเลย เมื่อ 3 องค์ประกอบถูกนำมารวมไว้ด้วยกันบวกกับการออกแบบบ้านที่ดี คำนึงเรื่องของแสง และทิศทางลมก็จะทำให้อากาศภายในเกิดการไหลเวียนนั่นเอง
ส่วนพื้นที่ที่เป็น Semi-Outdoor เราสามารถสร้างสรรค์ให้เกิดประโยชน์ได้ตามความต้องการของผู้อาศัย ซึ่งพื้นที่ในส่วนนี้เป็นพื้นที่ที่คนใช้งานมากที่สุดในช่วงเวลากลางวัน
1. ออกแบบให้มีพื้นที่นอกชานรอบบ้าน ใช้เป็นทางเดินเชื่อมระหว่างตัวบ้านแล้วยังใช้เป็นพื้นที่เอนกประสงค์ได้อีกด้วย
2. เชื่อมต่อระหว่างพื้นที่ภายในห้องครัวและ Semi-Outdoor ด้วยการหาโต๊ะกลมและเก้าอี้เล็กๆ ทำเป็นมุมจิบน้ำชายามบ่าย
3. มุมพักผ่อนที่เชื่อมระหว่างห้องทานอาหารด้วยการทำเป็นมุมนั่งเล่น จัดหาเฟอร์นิเจอร์ที่เป็นหวายเทียมมาตกแต่ง สามารถนั่งชมธรรมชาติรอบด้านได้สบาย
4. รอบบ้านเต็มไปด้วยพื้นที่สีเขียว จึงออกแบบให้มี Semi-Outdoor สำหรับชมสวน เพื่อใช้เป็นมุมทานอาหารและจัดปาร์ตี้
5. คอนโดมิเนียมก็สามารถมีมุม Semi-Outdoor ได้ ใช้ประตูบานพับเพื่อเชื่อมต่อระหว่างพื้นที่ภายนอกกับภายใน ตกแต่งด้วยโซฟาสไตล์โมเดิร์นไว้นั่งชมวิวกลางกรุง
6. นอกชานที่ทำยื่นต่อออกไปจากห้องครัวและมุมทานอาหาร ด้านหลังเป็นสวนครัว กลายเป็นมุมพักผ่อนสบายๆ ที่สามารถนั่งได้ตลอดทั้งวัน
7. เพิ่มมุมพักผ่อนตรง Semi-Outdoor เป็นสระว่ายน้ำแล้วออกแบบให้เป็นเคาน์เตอร์ครัวเล็กๆ สำหรับจัดปาร์ตี้ ปิ้งบาร์บีคิวริมสระ ตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์เอาท์ดอร์แบบง่ายๆ