เราจะพาทุกคนไปดูโปรเจ็กต์รีโนเวตบ้านทาวน์เฮาส์อายุกว่า 30 ปีที่คุณโมส-พันธุ์ยุพา ดาวจรัสแสงชัย เจ้าของเพจ Mom Diary ตั้งใจแปลงโฉมแบบว่าทั้งทุบ ทั้งเจาะ ทั้งก่อ ทั้งตกแต่งใหม่เพื่อให้สมาชิกในครอบครัวใช้งานได้สะดวกคล่องตัว ปลอดภัย และน่าอยู่กว่าที่เคย
“บ้านหลังนี้อายุประมาณ 30 ปี ก็ทรุดโทรมไปตามกาลเวลา บวกกับพ่อของโมสเขาจะชอบซ่อมนู่นนี่นั่น จะมีพวกเครื่องมืออุปกรณ์ต่างๆ อะไหล่รถวางทับกันไว้เยอะๆ และเป็นบ้านที่เลี้ยงแมวไว้หลายตัว หลังจากเราต่อเติมตกแต่งบ้านตัวเองมา 2 หลังแล้ว มีประสบการณ์พอสมควร เลยคิดว่าอยากจะรีโนเวตบ้านให้พ่อกับแม่ ซึ่งเราก็ออกแบบเองทั้งหมดเหมือนเดิม จริงๆ พอเป็นงานรีโนเวตโมสว่ายากกว่าการทำหรือตกแต่งบ้านใหม่ เพราะงานซ่อมแซมมีรายละเอียดค่อนข้างเยอะ หนักอยู่เหมือนกันนะ (หัวเราะ) แต่ข้อดีคือเราจะรู้ว่าก่อนหน้านี้ขาดอะไรและอยากเพิ่มเติมตรงส่วนไหน” คุณโมสเริ่มต้นเล่าให้เราฟังอย่างเป็นกันเอง
โจทย์คืออยากได้บ้านที่เก็บของได้เยอะ “เราอยากให้บ้านมีพื้นที่เก็บของได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ถึงแม้ว่าจะเพิ่มอะไรเข้าไปก็ยังดูเป็นระเบียบเรียบร้อยอยู่ เดิมใช้เฟอร์นิเจอร์ลอยตัวเราก็ปรับให้เป็นตู้บิลต์อินที่ดูกลมกลืนไปกับผนัง ก่อนหน้านี้ไม่ค่อยได้มาบ้านหลังนี้เพราะเราแพ้แมว พอรีโนเวตบ้านใหม่เลยพยายามทำทุกอย่างให้เป็นสัดส่วน เช่น บ้านแมว ที่เก็บอาหาร มุมให้อาหาร เป็นต้น”
ตามไปดูรายละเอียดการรีโนเวตตั้งแต่ส่วนหน้าบ้านกันเลย “เราเริ่มจากทุบหน้าบ้านเพื่อขยายพื้นที่โรงรถให้กว้างขึ้นแต่เหลือสเปซด้านหนึ่งไว้ทำเป็นมุมทำงานเล็กๆ จากนั้นต่อด้านข้างออกมาประมาณ 70เซนติเมตรเพื่อทำเป็นตู้เก็บของ เลือกใช้วัสดุกันน้ำและออกแบบให้สูงจากพื้นเพื่อป้องกันน้ำขัง น้ำไม่ระบาย เวลาล้างรถหรือฝนตกน้ำท่วมจะได้ไม่ต้องกังวล ประสบการณ์สอนเราไว้ค่ะ (หัวเราะ) อย่างในตู้ก็มีทั้งตู้โล่งๆ ตู้ที่มีชั้นวางของจะได้เก็บของได้หลายขนาด ส่วนตู้มุมขวาสุดเราซ่อนปั๊มน้ำกับชั้นวางรองเท้าไว้ดูเรียบร้อย และสามารถเปิดเซอร์วิสได้ตลอดเวลา”
ถัดเข้ามาในส่วนของลิฟวิงรูม “เราอยากให้บ้านมีแสงสว่างมากขึ้นเลยเปลี่ยนเป็นประตูกระจกบานเลื่อนที่มีขนาดกว้างกว่าเดิม และเปิดปิดได้สะดวก ด้านข้างดีไซน์เป็นช่องแสงเล็กๆ ที่สามารถมองออกไปเห็นด้านนอกได้ ส่วนสเปซที่เราเว้นไว้ก็ทำเป็นโต๊ะทำงานเล็กๆ แบบเข้ามุมซึ่งลงตัวพอดีอย่างที่คิดไว้เลย ส่วนนี้คือพ่อบอกไว้ตั้งแต่แรกว่าอยากมีที่ไว้นั่งทำงานและน้องจะได้ใช้งานได้ด้วย เฟอร์นิเจอร์จะเลือกดีไซน์และออกแบบให้สูงจากพื้นจะได้สะดวกเวลาใช้โรบอตทำความสะอาด”
ขยับขยายพื้นที่และเก็บห้องนอนใต้บันไดไว้ “เราขยายห้องใต้บันไดแล้วเบิ้ลผนังออกมาทำเป็นตู้เก็บของ มีคนถามเยอะเหมือนกันว่าสามารถนอนได้จริงไหม คือเมื่อก่อนเราก็นอนห้องนี้ พอจะรีโนเวตก็คิดว่าจะปรับอย่างไรให้ห้องกว้างขึ้น เลยขยับตรงนี้นิดตรงนั้นหน่อย ข้างในมีตู้เก็บของ โต๊ะทำงานเล็กๆ และเตียงนอน โดยเราเปลี่ยนบันไดใหม่ออกแบบให้มีขนาดแคบลงเพื่อที่จะขยายสเปซใต้บันไดออกไป และเว้นช่องไว้สำหรับวางตู้เย็น ส่วนห้องน้ำเราขยายให้กว้างขึ้นแล้วแยกส่วนเปียกส่วนแห้ง ใช้งานได้สะดวกและปลอดภัยมากขึ้น”
ปรับฟังก์ชันและเพิ่มแสงสว่างให้ห้องครัว “เราตั้งใจออกแบบเว้นพื้นที่ตรงบันไดไว้วางตู้เย็น เพราะในครัวจะได้มีสเปซมากขึ้น ส่วนห้องครัวเรามีทุบผนังออกนิดหนึ่งแล้วเปลี่ยนวงกบหน้าต่างใหม่ ซึ่งสิ่งที่เรายังให้ความสำคัญเหมือนเดิมคือต้องมีแสงสว่างจากธรรมชาติเพียงพอ เราเลยเจาะช่องแสงด้านบนแล้วออกแบบให้มีหน้าต่างตรงมุมล้างจาน มองออกไปเห็นวิวทิวทัศน์ด้านนอก ซึ่งตรงนี้แม่ก็เห็นตรงกันกับเราพอดี ตอนช่วงเย็นๆ บอกเลยว่าแสงที่ส่องเข้ามาสวยมากจริงๆ นอกจากนี้แม่ก็จะขอซิงก์ใหญ่ๆ ล้างจานได้สะดวก ส่วนเตาไม่ต้องใหญ่มากเพราะเขาทำอาหารคนเดียว
“ก่อนหน้านี้ใช้เป็นเตาแก๊ส 2 หัว ครัวจะดูแน่นๆ หน่อย บวกกับมีหลายครั้งที่บ้านเกือบจะไฟไหม้เหมือนกัน บางทีแม่อุ่นอาหารไว้แล้วก็ลืม เราเลยเปลี่ยนเป็นเตาไฟฟ้าที่มีระบบตั้งเวลาและตัดไฟได้ ปลอดภัยเวลาใช้งาน และถึงจะเป็นครัวเล็กแต่ยังไงก็ต้องจัดเก็บได้เต็มพื้นที่เราออกแบบให้มีลิ้นชักและช่องใส่ของใต้เคาน์เตอร์ ตู้แขวน และตู้สูงที่ใส่ของได้จุใจ แบ่งเป็นหมวดหมู่เหมือนร้านขายของชำเลย”
สำหรับห้องครัวนี้คุณโมสยังคงคอนเซ็ปต์มินิมอลที่ให้มู้ดแอนด์โทนเรียบง่าย อบอุ่นๆ และสบายตาด้วยหน้าบานสีขาวนวลๆ ตัดกับทอปเคาน์เตอร์ลายไม้โทนเข้มเพื่อให้มีความเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น เพิ่มลูกเล่นด้วยกระเบื้องกรุผนัง ทั้งยังออกแบบให้มีช่องสำหรับใส่เครื่องซักผ้าดูกลมกลืนไปกับชุดครัว ประหยัดเนื้อที่และใช้งานได้สะดวก นอกจากคุณโมสจะตกแต่งครัวได้น่ารักน่าใช้งานแล้วยังใช้พื้นที่ได้อย่างคุ้มค่า ที่สำคัญคือปรับฟังก์ชันครัวเก่าให้เป็นครัวใหม่ที่ใช้งานได้สะดวกคล่องตัวมากขึ้นอีกด้วย
มีทั้งพื้นที่ส่วนตัวและส่วนกลางของบ้าน “ชั้นบนเดิมมี 2 ห้องนอนอยู่แล้วแต่เราต่อขยายให้กว้างขึ้น ห้องนอนด้านหน้าเราต่อออกไปให้มากที่สุดเท่าที่จะใช้เสาหลักของโครงสร้างเดิมได้ จากนั้นเราแบ่งพื้นที่ครึ่งหนึ่งให้เป็นระเบียงไว้ให้พ่อนั่งเล่นเล็กๆ จากเดิมที่เป็นประตูไม้เปิดออกไปจะกินเนื้อที่ก็เปลี่ยนเป็นประตูกระจกบานเลื่อนแทน ส่วนห้องนอนของแม่ทางด้านหลัง คือแม่จะชอบแสงธรรมชาติเหมือนกันเราเลยออกแบบให้มีหน้าต่าง 3 บาน ห้องนอนแม่ก็จะสว่าง ให้ความรู้สึกสบายๆ นอกจากนี้เรายังขยายห้องน้ำชั้นบนให้กว้างขึ้น เลือกใช้วัสดุพื้นที่มีความปลอดภัยสำหรับผู้สูงอายุ แยกส่วนแห้ง ส่วนเปียก และทำช่องแสงเพิ่มตรงบันไดเพื่อเพิ่มแสงสว่างให้บ้านไม่ดูมืดจนเกินไป
“ก่อนหน้านี้ด้วยความที่เรามีลูก 2 คน หลานๆ ก็เป็นเหมือนยาใจของตากับยาย แต่เราแพ้แมวเลยไม่ค่อยได้มาหาบ่อยๆ เขาก็อยากให้ลูกหลานมาเล่นมาใช้เวลาด้วยกันที่บ้าน น้องชายก็จะอยู่บ้านหลังนี้เป็นหลัก น้องสาวจะไปๆ มาๆ จากเดิมที่แต่ละคนก็จะอยู่ในสเปซของตัวเอง พอเรารีโนเวตบ้านใหม่ทำให้มีพื้นที่ส่วนกลางมากขึ้น ทุกคนก็มานั่งเล่นนั่งคุยกันอยู่ตรงโซฟาบ้าง โต๊ะกินข้าวบ้าง มีมุมรับแขกที่ใช้งานได้คล่องตัว บอกเลยว่าตอนทำบ้านเราเหนื่อยมาก แต่พอเสร็จเรียบร้อยเราก็มีความสุขมากเหมือนกันนะ”
