Villa Pateh บูติกโฮเทลฟีล ‘บ้านเพื่อน’ สัมผัสวิถีชุมชนเสน่ห์เมืองตรัง

หากพูดถึงจังหวัดตรัง หลายคนคงนึกถึงเมืองสงบที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ของวัฒนธรรมเก่าแก่ และความงามของท้องทะเลฝั่งอันดามัน Villa Pateh จึงถูกสร้างขึ้นเป็นบูติกโฮเทล ไม่จำเป็นต้องเป็นที่พักหรูหรา แต่คือสถานที่ที่ช่วยเติมเต็มความรู้สึก เหมือนได้มานอนที่บ้านเพื่อน นอกจากจะได้ซึมซับธรรมชาติแล้ว ยังซ่อนเรื่องราวของเมืองตรังผ่านการออกแบบที่ได้รับแรงบันดาลใจจาก บ้านเจ้าเมืองตรังหลังเก่า ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมโบราณที่สะท้อนถึงความรุ่งเรืองของชุมชนในอดีต

เรื่องราวของ Villa Pateh มีเสน่ห์ในเชิงแนวคิดอย่างยิ่ง เพราะเริ่มต้นจากจินตนาการที่ท้าทาย หากท่านพระยารัษฎานุประดิษฐ์มหิศรภักดี (คอซิมบี้) อดีตเจ้าเมืองตรัง จะสร้างบ้านพักตากอากาศไว้ต้อนรับมิตรสหายริมทะเลอันดามัน บ้านนั้นจะเป็นเช่นไร? โจทย์นี้ถูกตีความเป็นสถาปัตยกรรมที่สะท้อนรสนิยมของผู้นำท้องถิ่น แต่ขณะเดียวกันก็ต้องกลมกลืนกับวิถีชีวิตชาวบ้าน

ผลลัพธ์คือการนำ สถาปัตยกรรมบาว่า (Bawa) แนวคิดสถาปัตยกรรมเขตร้อนที่เน้นความ โล่ง โปร่ง สบาย มาผสานกับรายละเอียดของ บ้านเก่าท่านคอซิมบี้ และความเรียบง่ายของวิถีสิเกา อาคารถูกออกแบบให้มีใต้ถุนยกสูงตามแบบเรือนใต้รับลมธรรมชาติ ใช้วัสดุพื้นถิ่น เช่น ไม้ยางพารา และ ใบเตยปาหนัน ในงานตกแต่ง รวมถึงการนำ ประตู-หน้าต่างไม้เก่า ยุคอาณานิคมมาใช้ เพื่อย้ำความทรงจำของเมืองท่าในอดีต

Embracing the Local

สิ่งที่ทำให้ Villa Pateh โดดเด่นคือคอนเซ็ปต์ “Embracing the Local” หรือการโอบกอดท้องถิ่นอย่างแท้จริง ที่นี่ไม่ได้สร้างขึ้นเพื่อแยกตัว แต่เพื่อ “อยู่ร่วม” กับชุมชนตั้งแต่การว่าจ้างช่างฝีมือท้องถิ่นไปจนถึงการเลือกวัตถุดิบและของตกแต่ง

  • ของตกแต่งที่มีเรื่องเล่า: ภายในโรงแรมเต็มไปด้วยของสะสมส่วนตัว เฟอร์นิเจอร์หวายโบราณที่หามาอย่างใส่ใจ และผลงานจากชุมชน เช่น ของใช้ที่ทำจากยางพารา หรือโอ่งเก่าของชาวบ้าน ทุกชิ้นล้วนมีเรื่องราว ไม่ใช่แค่ของตกแต่ง แต่คือส่วนหนึ่งของชีวิต
  • ชื่อที่มาจากวัฒนธรรม: ชื่อของโรงแรม “Villa Pateh” มาจากภาษามลายูแปลว่า “ขุนนาง/เจ้าเมือง” ห้องพักก็ถูกตั้งชื่อตามลำดับยศในราชสำนักมลายูตามวรรณคดีเรื่อง อิเหนา เช่น Ratu (กษัตริย์), Raden (เจ้าชาย), และ Inu (หลานชาย) เป็นการให้เกียรติและเชื่อมโยงกับชุมชนมุสลิมที่อยู่รอบข้างอย่างลึกซึ้ง

ความสุขจากการ ‘มาบ้านเพื่อน’ ที่ตรัง

ประสบการณ์การพักที่นี่แตกต่างจากโรงแรมทั่วไป ที่นี่ไม่ได้เน้นแค่เรื่องของการพักผ่อน แต่โฟกัสไปที่ “วิถี” และ “อารมณ์”

ห้องพักที่เต็มไปด้วยคาแรกเตอร์ ห้องพักของที่แบ่งออกเป็น 7 ห้อง 4 รูปแบบ (Ratu, Raden, Inu) ถูกออกแบบในแนว Local Tropical

Ratu (ราตู) มู้ดครอบครัวอบอุ่น/แก๊งเพื่อน: ห้องพักขนาดใหญ่ ประกอบด้วย หนึ่งห้องนอน หนึ่งนั่งเล่น มู้ดคือกลุ่มครอบครัว หรือเพื่อนนอนรวมกัน

Raden (ระเด่น) มู้ดอาร์ต/สุนทรีย์: แบ่งออกเป็นสองตึก การตกแต่งภายในห้องคล้ายคลึงกัน แบ่งพื้นที่ส่วนกลางต่างกัน เช่น ตึกหนึ่งบริเวณชั้นล่างเน้นงาน Craft Workshop ทำว่าว/สานเตยปาหนัน ส่วนชั้นล่างอีกตึกออกแบบเป็นมุมนั่งเล่น พักผ่อน ส่วนชั้นบนสามารถนั่งฟังเพลงจาก แผ่นเสียงไวนิล สุดคลาสสิก ให้คุณเลือกมู้ดได้ตามความชอบ

INU (อีนู ) มู้ดเรียบง่าย/ดูแล: ชั้นล่างออกแบบให้เข้าถึงง่าย สำหรับผู้สูงอายุหรือคนที่ต้องการความสะดวกสบายสูงสุด ในขณะที่ชั้นบนเป็นห้องพักที่เหมาะสำหรับกลุ่มเพื่อน สามารถนอนรวมกันได้ 4 คน

Villa Pateh ไม่ได้เป็นเพียงที่พักเงียบสงบที่รอต้อนรับผู้มาเยือน แต่คือโปรเจกต์ที่ทำด้วยหัวใจ ทุกดีเทลสะท้อนเสน่ห์ของตรังในมุมที่อยากให้คุณสัมผัสเหมือนเพื่อนพาเที่ยว และเมื่อเช็คเอาท์ออกไป สิ่งที่คุณจะพกกลับบ้านไม่ใช่แค่ความทรงจำ แต่คือเรื่องเล่าและแรงบันดาลใจดีๆ ที่ต่อยอดการเดินทางครั้งใหม่

Co-Founder: ประเวศ มณีศิริ/ จตุพล พูลภักดี/ วุฒิชัย จินดาประชา
Architect: วรพันธุ์ คล้ามไพบูลย์
Branding:
โอภาส ลิมปิอังคนันต์

Villa Pateh
ตำบลบ่อหิน อำเภอสิเกา จังหวัดตรัง

wassukon

wassukon

ไม่ได้จบโดยตรงด้านออกแบบ แต่ฝันอยากเป็นสถาปนิกแล้วโลกก็เหวี่ยงให้มาเขียนงานด้านออกแบบเป็นสิบปี ตอนนี้เลยมีโลกส่วนครัวมากกว่าโลกส่วนตัวไปแล้ว