ขยายเวลาความอร่อย ‘สำรับสำหรับไทย’ โดยเชฟปริญญ์ ผลสุข ที่ห้องอาหารสไปซ์ มาร์เก็ต โรงแรมอนันตรา

ขยายเวลาความอร่อยสำหรับโปรเจ็คต์พิเศษ ห้องอาหารสไปซ์ มาร์เก็ต โดย ‘สำรับสำหรับไทย’ ซึ่งทางโรงแรมอนันตรา สยาม กรุงเทพ ร่วมกับ เชฟปริญญ์ ผลสุข แห่งร้านอาหารสำรับสำหรับไทย ผู้รังสรรค์ความอร่อยระดับมิชลินสตาร์ มาเป็นผู้ดูแลคอร์สเมนูสำรับอาหารไทยตำรับดั้งเดิมเพิ่มเติมด้วยลูกเล่นแห่งยุคสมัย ให้บริการที่ห้องอาหารสไปซ์ มาร์เก็ตอีกครั้งตั้งแต่วันนี้ – สิ้นเดือนมกราคม 2565

แฟนๆ ร้านสำรับสำหรับไทย ร้านอาหารไทยชื่อดังย่านเจริญกรุงซึ่งมีดีกรีความจองยากระดับไม่ธรรมดา เมื่อรู้ข่าวว่าเชฟปริญญ์มาร่วมโปรเจ็คต์พิเศษกับโรงแรมอนันตรา สยาม กรุงเทพ เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมาคงตื่นเต้นไม่น้อย แม้ว่าด้วยมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดจะทำให้โปรเจ็คต์ต้องพักไปชั่วคราว แต่ตอนนี้เชฟปริญญ์และทีมงานพร้อมแล้วที่จะกลับมาและขยายเวลาเสิร์ฟความอร่อยของสำรับอาหารชุดใหม่สำหรับช่วงปลายฤดูฝนเข้าสู่ฤดูหนาวนี้ให้แก่แขกที่มาเยือน โดยแต่ละเมนูเชฟเลือกใช้ผักผลไม้ตามฤดูกาลซึ่งคัดสรรจากแหล่งผลิตท้องถิ่นที่ดีที่สุด อาทิ กระท้อน ลูกตาล ลองกอง บีทรูธใบเหลียง ใบชะคราม และมังคุดคัด มาเป็นส่วนประกอบ ผสานกับเครื่องเทศและพริกไทยเพิ่มความเผ็ดร้อนเพื่อให้ความอบอุ่นแก่ร่างกาย

อิงสูตรจากตำราอาหารสมัยโบราณ

อาหารของเชฟปริญญ์อ้างอิงสูตรจากตำราอาหารสมัยโบราณเป็นหลัก อาทิ ตำราอาหารของท่านผู้หญิงเปลี่ยน ภาสกรวงศ์ เป็นรสชาติที่เรียกได้ว่าแทบจะสูญหายไปตามกาลเวลา เมื่อถึงมือเชฟปริญญ์ก็ยังรักษารสชาติแบบต้นตำรับไว้ให้คนรุ่นใหม่ได้ลิ้มลอง โดยเพิ่มวัตถุดิบและกรรมวิธีการปรุงแบบร่วมสมัยลงไปให้แต่ละจานมีความโดดเด่นยิ่งขึ้น

จานเด่นในสำรับนี้เริ่มจากของว่าง

เมี่ยงสละ ใช้กุ้งทั้งตัวรวมทั้งส่วนหัวที่มีมันกุ้ง น้ำเมี่ยงหอมกลิ่นสละแตะจมูกให้รสเปรี้ยวหวานชวนสดชื่น

ขนมเบื้องก้ามปูม้า ขนมเบื้องบางกรอบ ไส้เป็นเนื้อปูม้าและมะพร้าวปรุงรสหวานเค็ม ตามด้วย

ห่อหมกปลาจะละเม็ด ห่อด้วยใบเหลียงอ่อนสีเขียวสดใส ใช้พริกแกงจากเพชรบุรีให้รสชาติที่เผ็ดร้อนแต่ก็กินเพลินจนหยุดไม่ได้

เข้าสู่สำรับกับข้าวเสิร์ฟกับข้าวหอมมะลิใหม่หอมนุ่ม

ยำลองกองกับเป็ดย่าง เนื้อเป็ดย่างหนานุ่มในเครื่องยำรสจัดจ้านใส่ลองกองรสเปรี้ยวหวานเข้ากันได้ดีกับเนื้อเป็ด

ต้มส้มเนื้อแก้มวัว ซุปรสเปรี้ยวหวานไม่จัดแต่กลมกล่อมเข้ากับเนื้อแก้มวัวที่เคี่ยวจนนุ่มละลายในปาก ใส่ใบกะเพราหอมชวนกิน

หลนเจ่าปลากุเลาเค็ม เสิร์ฟกับใบชะครามและเคยทอดและผลไม้สดอย่างส้มโอและมะม่วงมัน

อีกไฮไลต์น่าลอง แกงตูมี่กุ้งกับมังคุดคัด แกงอิสลามที่ใช้พริกแกงและไม่ได้ใส่เครื่องเทศให้รสร้อนแรง เชฟเลือกใส่เนื้อกุ้งและมังคุดคัดจากนครศรีธรรมราชที่มีรสหวานมันเคี้ยวเพลินตัดรส

ปิดท้ายด้วย ปลาเก๋านึ่ง ในน้ำซอสสีแดงสวยจากบีตรูทซึ่งในตำราของท่านผู้หญิงเปลี่ยนเรียกว่าหัวผักกาดแดง กินกับน้ำจิ้มบ๊วยถั่วตัดคล้ายกับน้ำจิ้มสุกี้ในปัจจุบัน

ส่วนของหวานคือ ลูกตาลน้ำกะทิกับไอศกรีมกะทิและงาทอด รสชาติหอมหวานชื่นใจ

สำรับอาหารชุดนี้ เชฟปริญญ์บอกว่าปรุงขึ้นมาโดยเน้นรสชาติให้อร่อยแบบกลมกล่อม จะไม่มีจานไหนที่รสชาติจัดจ้านจนเกินไป เพราะในช่วงที่ผ่านมาหลายคนอาจยังคุ้นเคยกับรสชาติของอาหารที่ทำกินที่บ้านกัน และแพลนว่าจะมีการเปลี่ยนเมนูอีกครั้งในช่วงเดือนธันวาคมถึงมกราคม

ใครที่อยากลิ้มลองก็จองกันเข้ามาได้ห้องอาหารสไปซ์ มาร์เก็ต โดย ‘สำรับสำหรับไทย’
สำรองที่นั่งได้ที่ LINE: @anantarasiambkk หรือโทร 02-126-8866
ให้บริการเฉพาะมื้ออาหารค่ำ เวลา 17.00 – 22.00 น.
มีแบบ 7 คอร์ส ราคา 2,300++ บาท และ 10 คอร์ส ราคา 2,800++ บาท (ไม่รวมค่าบริการ 10% )