Kitchen & Home Pet Club

เปิดบ้านคนเลี้ยงแมว ที่เปลี่ยนโลกของแมวจร


ด้วยความน่ารัก ขี้อ้อน และอ้อมกอดที่อบอุ่นทำให้แมวเป็นสัตว์ที่ครองใจมนุษย์ และหลายคนตกเป็นทาสแมวอย่างไม่มีเงื่อนไข และนี่คืออีกหนึ่งเรื่องราวของคนเลี้ยงแมวที่เปลี่ยนโลกได้ คุณจีจี้-ฉัตริน ตั้งสมบัติสันติ และคุณอุ้ม-ภัณฑิรา พานิชอำนวยเจ้าของร้าน Once Upon A Tree Cafe คาเฟ่ย่านเสรีไทยที่ในอีกหนึ่งมุมของพวกเขาคือการรับเลี้ยงแมวจร โดยเลี้ยงแบบระบบปิดภายในพื้นที่บ้าน

จุดเริ่มต้นการเป็นทาสแมว

ก่อนหน้านี้คุณจี้และคุณอุ้มเริ่มต้นจากการเลี้ยงกระต่าย 2 ตัว วันหนึ่งที่กำลังนั่งทำงานก็เห็นโพสต์ใน The Voice Foundation (มูลนิธิเดอะวอยซ์) โครงการ Adopt น้องแมว ทำให้เจอกับเจ้าไลอ้อน ซึ่งเดิมน้องชื่อ หัวโต ที่ประสบอุบัติเหตุมาและกำลังหาคนอุปการะ “ตอนนั้นโดนรถชนมาอาการหนักมาก น้องตาบอดและกรามหัก พอเห็นรูปก็รู้สึกถูกชะตาจึงรับน้องมาเลี้ยงเป็นตัวแรก ตั้งแต่แรกเลยน้องกินข้าวเองไม่ได้ จี้ต้องคอยป้อนอาหารผ่านไซริงอยู่หลายเดือน จนปัจจุบันน้องแข็งแรงดีแล้ว ตอนนั้นที่เจอน้องอายุ 5 ปี และจี้เอาน้องมาเลี้ยงประมาณ 3 ปีแล้ว”

เลี้ยงแมวก็เปลี่ยนโลกได้

จีจี้ : ก่อนหน้านี้จี้กับอุ้มอยู่บ้านอีกหลังหนึ่งซึ่งไม่มีเฟอร์นิเจอร์ที่ซัพพอร์ตแมวเลย พอจี้เลี้ยงน้องก็มีแมวจรโผล่มาอีกก็เลยกลายเป็นว่าเราก็หาซื้อบ้านเพื่อให้น้องแมวอยู่ เพราะที่เดิมอะไรก็ไม่พร้อมสำหรับแมว ซึ่งใจเราเต็มที่อยากดูแลน้องมากแต่สถานที่ไม่เอื้ออำนวยเลย มีแค่กระบะทรายกับกั้นโซนแค่นั้นเอง ตอนนั้นมี 2 ตัว คือไลอ้อนกับไทเกอร์ (เพิ่งเสีย) ตอนเจอไทเกอร์มีคนมาปล่อยไว้ตรงหน้าร้านกาแฟของจี้ ตอนนั้นน้องน้ำลายฟูมปากก็รีบพาไปโรงพยาบาล จากนั้นก็เลี้ยงดูเขามาโดยศึกษาเรื่องการดูแลน้อง จี้ไปเรียนกับคุณหมอคลินิกแถวบ้าน เขาสอนทั้งการป้อนข้าวและดูแลน้องเบื้องต้น ก็ได้ความรู้มาเยอะ ปัจจุบันเรามีแมวที่อยู่ในความดูแลทั้งหมด 15 ตัว แต่ละตัวนิสัยต่างกัน การเลี้ยงก็จะต่างกัน

อุ้ม : เราจะช่วยกันดูแลน้องๆ ถ้าอุ้มงานยุ่งจี้เขาก็จะดูแลเป็นหลัก หลักในการเลี้ยงของเราคือการเพิ่มความใส่ใจแมวแต่ละตัว เพราะนิสัยไม่เหมือนกัน ยิ่งเป็นแมวจรที่มีที่มาต่างกัน บางตัวจะมีปมฝังใจ อาจจะขี้กลัว เราก็ต้องให้ความรู้สึกปลอดภัยกับเขา เวลาจะรับเลี้ยงแมวแต่ละตัวเราสองคนต้องปรึกษากันด้วยว่าโอเคไหม เพราะต้องช่วยกันดูแล ซึ่งทั้งอุ้มและจี้ก็ทำงานเราจึงต้องมีแพลนตารางสำหรับดูแลแมวตั้งแต่ตัวแรกที่เลี้ยงเลย

จีจี้ : หัวใจของการเลี้ยงแมวคือเลี้ยงแบบที่เรารู้สึกว่าอยากเป็นโลกทั้งใบให้เขา เพราะก่อนหน้านี้เราไม่รู้ว่าน้องแต่ละตัวเจออะไรมาบ้างตั้งกี่ปีกว่าจะมีความสุข เราก็อยากให้ช่วงเวลาที่เขาอยู่กับเราแฮปปี้จนถึงวาระสุดท้ายของเขาเลย นี่คือคิดแค่ว่าก่อนหน้านี้เขาลำบาก พอเขามาอยู่กับเราก็อยากให้เขาสบายที่สุด เพราะแมวไม่สามารถพูดได้ ไม่สามารถทำอะไรเองได้ เราก็ต้องมีหน้าที่ซัพพอร์ตตรงนี้เพราะเราเลือกที่จะเลี้ยงดูเขาแล้ว ก็จะทำให้ดีที่สุด

สำหรับเคสการช่วยเหลือแมวเราทำในลักษณะเป็นกระบอกเสียง เช่น มีคนติดตามเราในโซเชียล เราก็จะช่วยประกาศหาบ้านให้น้อง หรือช่วยซัพพอร์ตค่าอาหาร หรือถ้ารับเลี้ยงน้องแล้วเราก็แถมกระสอบข้าวแมว พาน้องไปทำหมัน ฉีดวัคซีนให้เสร็จก่อนที่จะไปอยู่บ้านใหม่โดยเราก็คัดบ้านที่สามารถดูแลน้องได้จริงๆ ปัจจุบันแมวจรมีจำนวนเยอะมาก มีหลายคนก็ติดต่อมาให้ช่วย หรืออย่างไปเจอน้องอยู่ใต้ท้องรถเราก็เอาเขามาฉีดวัคซีน หาหมอ และประกาศหาบ้าน หลายเคสที่ทำแบบนี้ ถ้ายังหาไม่ได้เราก็เอาน้องมาอนุบาลก่อนเพื่อรอบ้านใหม่ให้เขา

เคสที่ประทับใจที่สุดคือไลอ้อน ถือเป็นแมวตัวแรกและเป็นแมวที่พิการตาบอด รู้สึกภูมิใจมากที่ดูแลน้องมาจนถึงวันนี้ เพราะก่อนหน้านี้จี้ไม่เคยเลี้ยงสัตว์มาก่อน นอกจากเป็นแมวตัวแรกยังเป็นใบเบิกทางให้จี้กล้าเลี้ยงแมวเพิ่ม เพราะไลอ้อนเป็นเคสที่หนักมากแล้วทำไมเราจะเลี้ยงตัวอื่นไม่ได้ จริงๆ จี้ยังมีคุณน้าที่คอยซัพพอร์ตและเป็นไอดอล ท่านเลี้ยงแมวประมาณ 50-60 ตัว จี้ก็เลยปรึกษาน้าตอนที่จะรับไลอ้อนมาเลี้ยง เขาก็บอกว่าเอามาเลยไม่ยาก น้าจะเป็นคนคอยให้กำลังใจ ให้คำปรึกษา เพราะเขาก็ไม่อยากให้มีแมวจรโดดเดี่ยวอยู่ข้างนอก หัวอกเดียวกันรับเลี้ยงแมวจร ทำบ้านให้แมวอยู่ เลี้ยงดูเรื่องอาหารอย่างเต็มที่

Pet Humanization เสมือนเป็นสมาชิกในครอบครัว

จีจี้ : สิ่งที่เราได้จากการเลี้ยงน้องคือฮีลใจมาก เวลากลับมาจากทำงานเหนื่อยๆ ได้กอดได้ดมเขาเรียกว่าเสพแมวเราก็รู้สึกฟิน จริงๆ เราไม่ได้มองเขาเป็นแมวด้วยซ้ำแต่เรามองเขาเป็นลูก ได้ดูแลได้รักได้กอด สำหรับจี้ชีวิตดียิ่งกว่าตอนไม่มีแมวเสียอีก พอมีมาแล้วก็เหมือนเป็นการมาเติมเต็มชีวิตเราให้มีความสุขมากขึ้น 

จริงๆ ก็อยากให้สนับสนุนการรับแมวจรมากกว่าไปซื้อมา เพราะมีแมวจรหลายตัวเลยที่เขารอคนที่จะดูแลหาบ้านอยู่ และก็อยากรณรงค์ให้พาน้องไปทำหมันเพื่อช่วยลดปริมาณแมวจรด้วย แมวเกือบทั้งหมดที่อยู่กับจี้เราจะทำหมันให้ มีน้องบางตัวที่รับมาเพิ่งหายป่วย คือต้องรอให้เขาแข็งแรงถึงไปทำหมันได้

สร้างอาณาจักรให้น้อง กับบ้านแมวสไตล์มินิมอล

จีจี้ : การทำบ้านแมวมีจุดเริ่มต้นมาจากแมวบางตัวไม่ถูกกันทำให้ต้องเลี้ยงแยก หรือถ้ามีแมวป่วย เพิ่งผ่าตัดมาเราก็อยากจะมีห้องแยกไว้ให้น้อง เพราะแมวบางตัวเป็น Introvert เราต้องเรียนรู้นิสัยแมวแต่ละตัวว่าตัวไหนดื้อ ตัวไหนเรียบร้อย ตัวไหนชอบอยู่ตัวเดียว เราก็เลยทำเป็นห้องวีไอพีแยกมา ซึ่งสั่งทำพิเศษเป็นบิลต์อิน คือต้องการบ้านแมวที่มีความมินิมอล สีครีมสบายตา ให้ความรู้สึกว่าเรากับแมวอยู่ด้วยกันแล้วดูอบอุ่น แมวกับคนอยู่ร่วมกันได้

เราไม่ได้คิดว่านี่คือบ้านเรา แต่เราคิดว่านี่คือบ้านที่เราสร้างให้แมว เราอยู่กับแมว ฟังก์ชันข้างในแมวจะชอบนอนอยู่บนที่สูงก็มีดีไซน์ชั้นต่างๆ มีชั้นให้น้องนั่ง มีที่ลับเล็บ มีโซนกินข้าว โซนกระบะทราย เราจะเรียกว่าห้องวีไอพี นอกจากนี้ยังทำโซนกรงรับลมที่บริเวณด้านนอกระเบียงบ้านให้เขาได้ออกมาวิ่งเล่นในช่วงเช้าและเย็น ปัจจุบันเลี้ยงแมวทั้งหมด 15 ตัวก็ถือว่าโอเคแล้ว ถ้าเลี้ยงเพิ่มกลัวว่าแต่ละตัวอาจจะไม่ได้รับความรักเต็มที่ ถ้าหากอนาคตมีกำลังค่อยขยับขยาย แต่ตอนนี้จะเลี้ยงเท่าที่เราไหวก่อนเพื่อให้ความรักเขาทั่วถึง

ภารกิจในการดูแลน้องแมวในแต่ละวัน

จีจี้ : น้องๆ แก๊งนี้เขาโตแล้ว เช้ามาจี้ก็จะตักทราย ให้อาหาร และมีน้องแมว 5 ตัวที่เพิ่งคลอดจี้ก็จะเอาไปทำงานด้วย เพราะแม่น้องไม่แข็งแรงไม่สามารถให้นมได้ จี้ก็มีหน้าที่ป้อนนมน้องทุกวัน ส่วนตัวที่เหลือเวลาไม่อยู่บ้านปกติก็จะปล่อยให้น้องๆ อยู่ในห้อง เปิดแอร์ไว้ให้เขา ก็จะมีแบ่งแยกตัวไหนดื้อ หรือไม่สบายเราก็จะมีห้องวีไอพีให้น้องอยู่ ตัวไหนปกติดีก็ให้น้องอยู่ในห้องปกติ และสานฝันตัวเองทำห้องนอนที่เชื่อมกับห้องน้องแมว เพื่อที่จะเปิดมาเจอกันทุกวัน เพราะที่บ้านเก่าจะต้องแยก พอบ้านใหม่เราก็ทำเชื่อมถึงโซนน้องแมวเลย

การดูแลเรื่องสุขอนามัย

อุ้ม : การเลี้ยงแบบระบบปิดนั้นก็มีข้อดีคือแมวจะไม่ค่อยป่วย เราติดตั้งเครื่องกรองอากาศตามจุดต่างๆ ในบ้าน และมีการทำความสะอาดบ่อยๆ เวลาถูก็จะใช้แอลกอฮอล์ น้ำยาสำหรับน้องแมว และลงน้ำยาฆ่าเชื้อโรค ทรายแมวก็ต้องเลือกอย่างดีเพื่อกลบกลิ่นทำให้บ้านดูสะอาดไม่มีกลิ่นน้อง           

ฝากถึงคนรักแมว

เราสามารถเลี้ยงแมวได้เลย เพราะการเลี้ยงแมวไม่ได้ติดว่าพื้นที่บ้านจะใหญ่ จะเล็กแค่ไหน จี้ชอบประโยคหนึ่งที่มีคนบอกว่า เรารับเลี้ยงแมวจรโลกไม่ได้เปลี่ยนแต่โลกของแมวจรที่เปลี่ยน เพราะเราเป็นโลกทั้งใบให้เขา จี้จำประโยคนี้มาก็เลยทำให้มีแมว 10 กว่าตัวจนถึงวันนี้ บางคนไม่ได้มีเงินหรือมีบ้านใหญ่ๆ แต่สามารถช่วยเหลือน้องได้เลย ให้ความรักความอบอุ่นน้องทุกตัวได้เลย จริงๆ แมวไม่ได้คาดหวังที่จะอยู่ในพื้นที่ที่หรูอลังการ แมวสามารถอยู่ห้องเล็กๆ กับเราได้ ขอแค่เราเลี้ยงดูแลให้ความอบอุ่นเขา ก็เลยคิดอยู่อย่างเดียวว่าเราต้องเป็นโลกทั้งใบให้เขา นี่คือวลีที่จำไว้ขึ้นใจ    


You Might Also Like...