Kitchen & Home Pet Club

2 คน 4 แมว ที่ช่วยฮีลใจกันและกัน


ครั้งนี้เราจะพาทุกคนไปพูดคุยกับคุณแพรว-อภิญญา มณีรัตนะพร และคุณนิ้ง-นภัสนันท์ เอกวรงค์ สองทาสแมวที่โดนน้องแมวตกแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัว ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้ทั้งคู่คุ้นเคยกับการเลี้ยงสุนัขมาโดยตลอด มิหนำซ้ำยังกลัวแมวข่วนอีกต่างหาก แล้วอะไรคือเหตุผลที่ทำให้พวกเขาหันมาเลี้ยงแมว แถมยังเป็นแมวจร จากเริ่มเลี้ยง 1 ตัว กลายเป็น 2 ตัว 3 ตัว และ 4 ตัว เรียกว่าเปลี่ยนอารมณ์ความรู้สึกที่มีต่อแมวไปโดยสิ้นเชิง เพราะตอนนี้สำหรับพวกเขาแล้ว…แมวทุกตัวบนโลกใบนี้น่ารักไปหมด

เหตุผลที่ไม่อยากเลี้ยงแมวเพราะกลัวแมวข่วน

ด้วยพื้นฐานของครอบครัวเราเลี้ยงสุนัขมาโดยตลอด เลยมีความชอบสุนัขมากกว่า บวกกับกลัวการเลี้ยงแมวเพราะแมวมักจะข่วน เลยเป็นเหตุผลที่ทำให้เราไม่คิดจะเลี้ยงแมว ซึ่งหลังจากสุนัขที่เราเลี้ยงจากไปก็ไม่มีอารมณ์จะเลี้ยงอะไรอีก จนเราได้มาเจอกับเจเจ

เจเจ แมวจรจากเยาวราช

เราเจอเจเจเมื่อประมาณ 7 ปีที่แล้ว เขาตกลงมาจากหลังคาของร้านราดหน้าย่านเยาวราช เราเลยรับเขามาเลี้ยง นี่เลยเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เราได้เลี้ยงแมว ก่อนหน้านี้เราเคยเลี้ยงสัตว์หลายประเภท แต่ไม่รอดเพราะอาจจะไม่เข้าใจพื้นฐานเขา แต่สำหรับแมวเป็นสัตว์บกที่เราสามารถเข้าใจว่าเขาต้องการอะไรไม่ต่างจากสุนัข พอรับมาเลี้ยงก็เริ่มจากพาเขาไปฉีดวัคซีน ทำหมัน เราพยายามทำให้สัตว์เลี้ยงของเราแข็งแรงมากที่สุด

แครอทแมวจรจากสยาม

หลังจากที่เราเลี้ยงเจเจมาได้สักพัก ก็ไปเจอกับแครอท เป็นแมวตัวที่ 2 ที่เก็บมาเลี้ยง ตอนนั้นเราทำร้าน Fat Kids Store อยู่ที่สยาม เหมือนช่วงเวลาที่เราเปิดร้านมักจะเจอกับแมวตลอด อย่างตอนที่เจอเจเจกำลังทำร้าน Hungry Bear Pancake

วันนั้นแพรวกำลังเดินไปซื้อเสื้อที่สยามให้นิ้ง ก็ไปเจอกับแครอทที่กำลังนั่งอยู่โดยบังเอิญ พี่รปภ.บอกว่าให้เอากลับไปเลย เพราะยังมีลูกแมวอีก 4 ตัวอยู่แถวนั้น แต่เราสามารถช่วยเขาได้แค่ตัวเดียว ก็เลยอุ้มแครอทกลับไปด้วย เอามาทำความสะอาด ด้วยความที่เขาเป็นแมวจรเขาก็จะเลอะเทอะนิดหนึ่ง เช็ดหน้าเช็ดตาให้เขา แต่เช็ดเท่าไหร่ก็เช็ดไม่ออก…สรุปคือมันคือหนวด เช็ดนานมากคิดว่าเลอะ (หัวเราะ) แครอทเป็นแมวตัวเมียที่มีหนวด

เจเจ VS แครอท

เมื่อมีแมวตัวที่ 2 อย่างแครอทโผล่เข้ามาในบ้าน เจเจคือเจ้าถิ่นที่อยู่มาก่อน แต่กลายเป็นว่าทั้งเจเจและแครอทกลับเป็นแมวที่รักกันมาก แครอทอาจจะคิดว่าเจเจเป็นแม่เขา เจเจอายุประมาณ 7 ขวบ ลักษณะนิสัยของเขาเป็นแมวที่มีความเป็นผู้ใหญ่ ในขณะที่แครอทอายุประมาณ 5 ขวบ นิสัยดุนิดหนึ่ง ซึ่งเขาก็จะไม่ถูกกับแมวตัวที่ 3 ตัวที่ 4 ที่มาทีหลัง

น้องเฮง แมวผู้รอดชีวิต

ผ่านไปประมาณ 5 ปีที่เราเลี้ยงเจเจกับแครอทมาสักพักก็คิดว่าแมว 2 ตัวสำหรับเรามากพอแล้ว แต่แล้วตัวที่ 3 ก็ตามมา เหตุเกิดจากวันที่เราไปเจอน้องเฮง คือวันที่ไปทำบุญ ไปช่วยเขาลวกก๋วยเตี๋ยวแจก แล้วแพรวเขาบอกว่าเห็นอะไรผ่านไปแว่บๆ เราก็มองตามปรากฏว่าเห็นลูกแมว เริ่มจากเอาลูกชิ้นให้มันกิน แพรวบอกว่าตามันเป็นอะไรก็ไม่รู้ เห็นไม่ชัดนะคะเพราะเขาวิ่งไปหลบตรงใต้ถุน

สักพักนึงเรากำลังจะกลับก็ขึ้นคิดว่า ถ้าเขาออกมาเราก็จะได้เจอกันนะ แล้วเฮงก็ออกมาตากแดดผึ่งลมตรงช่องแสง เลยทำให้เราได้เจอกับเขา แต่ตอนที่เราเจอเขาคือแย่มาก เขาน่าจะไปติดกาวดักหนูมา เราเลยเอาเขาใส่กล่องแล้วรีบพาไปหาหมอ หมอประเมินอาการวันต่อวัน กาวติดทั้งบริเวณตัวและตาจนกาวมันละลายเข้าไปทำให้เสียตาไปข้างหนึ่ง เขาโดนกาวไปครึ่งตัวเลยตั้งแต่ตา คอ เท้า หาง ถ้าเราไม่เจอ ไม่ได้ช่วย เขาตายแน่นอน ทั้งผอมและติดเชื้อด้วย หมอบอกว่าให้เราทำใจไว้เพราะอาจจะไม่รอด เราเลยตั้งชื่อให้เขาว่าน้องเฮง เขาจะได้เฮงๆ

ช่วงแรกต้องพาน้องเฮงไปหาหมอ 3 เดือน จากเดือนแรกที่ไปทุกวัน อาการค่อยๆ ดีขึ้น ระยะเวลาที่ต้องไปหาหมอก็น้อยลง พอรักษาจนหายดีแล้วก็ไปที่ศูนย์ตาสำหรับสัตว์เลี้ยงโดยเฉพาะ เพราะหมอที่คลินิกแนะนำให้ไป เพื่อไปดูว่าตาของน้องเฮงยังมีท่อน้ำตาอยู่ไหมก็ต้องทำการอัลตราซาวนด์ดู และต้องผ่าตัดอะไรหรือเปล่า ทุกคนที่ได้เจอน้องเฮงอยากช่วยเขาหมด ซึ่งเขาใจดีมาก ไม่คิดค่าใช้จ่ายเลย ทำให้ฟรีทั้งหมด ที่ศูนย์เขาบอกว่าคุณหมอคนแรกทำได้ดี เพียงแต่ตอนนี้ยังไม่ได้เย็บตาน้อง เราต้องคอยเช็ดขี้ตาให้เขาทุกวัน เพราะยังมีท่อน้ำตาอยู่ เฮงเป็นแมวที่น่ารักที่สุด พอเขาหายเราก็ยังไม่กล้าเอามาเจอกับพี่ๆ เนื่องจากยังไม่ได้ตรวจโรค เพราะเขายังเล็กมาก อีกอย่างคุณหมอกลัวติดเชื้อในกระแสเลือด เราเลยเลี้ยงเขาไว้ในห้องขนม ในขณะที่พี่ๆ อยู่ในห้องนอน จนกระทั่งเฮงโตประมาณ 5 เดือนก็เลยเอาไปเลี้ยงรวมกับพี่ๆ แต่ไม่ค่อยถูกกับพี่ๆ เท่าไหร่ เข้ากันยากหน่อยเพราะไม่ได้เจอกันตั้งแต่เล็ก

เห็นเขาเป็นแบบนี้ แต่น้องเฮงเป็นแมวที่ใช้ชีวิตได้ตามปกติเลย เพียงแต่ถ้าเราเข้าหาเขาในด้านที่ตาบอดเขาจะตกใจนิดหน่อย แล้วเขาก็เป็นแมวที่ทำให้เราเจอสถานที่แห่งนี้ ทำให้เกิดเป็นร้าน APA Café & Brunch น้องเฮงเป็นแมวที่น่ารักมาก ไม่เคยข่วน ไม่เคยทำร้ายเราให้มีแผลเลย

ข้าวโพด แมวในโอ่ง

ตอนแรกคุยกันว่าเลี้ยวแมว 3 ตัวพอแล้วนะ มันเริ่มเยอะไปแล้ว ภูมิแพ้เริ่มจะมา เพราะเรานอนด้วยกันทั้งหมด แต่แล้ววันหนึ่ง…ญาติแพรวเขาพาแมวไปที่คลินิกก็เลยเจอข้าวโพด คือคนที่เจอข้าวโพดเขาได้ยินเสียงแมวร้อง แล้วไปเจอข้าวโพดอยู่ในโอ่ง เป็นแมวเด็กมาก ตายังไม่ลืมเลย เขาเลยอุ้มไปคลินิกแต่คลินิกไม่รับ เพราะยังเด็กเกินไป แล้วเขาก็นั่งรออย่างมีความหวังว่าจะเจอใครสักคนที่สามารถเอาแมวตัวนี้ไปเลี้ยงได้ เพราะบ้านเขาเลี้ยงสุนัขพันธุ์ใหญ่เอาแมวไปเลี้ยงไม่ได้ จนกระทั่งได้เจอกับญาติของแพรวที่กำลังพาแมวไปหาหมอที่คลินิกพอดี เขาโทรหาแพรวว่ารับแมวไปเลี้ยงไหม ทั้งๆ ที่ตอนนั้นก็ปฏิเสธไปแล้ว เขาก็โน้มน้าวต่อว่า น่ารักมากเลยนะ ขนหยิกด้วย น่าจะเป็นแมวพันธุ์นอก  

เขาบอกว่าเอาไปอนุบาลก่อนก็ได้ ให้เขาโตกว่านี้แล้วค่อยหาบ้านให้เขา ซึ่งเราตั้งมายด์เซ็ตไว้แบบนี้ว่าจะหาบ้านให้ จากนั้นก็พามาที่ร้าน ด้วยความที่ยังเป็นแมวเด็กเขาจะร้องกินนมบ่อยมาก เวลาลูกค้าเข้าร้านเราก็จะบอกลูกค้าทุกคนว่ากำลังหาบ้านให้นะคะ แต่ตอนนี้อนุบาลให้ก่อนประมาณ 3 วัน หลังจากนั้นวันที่ 4 ก็บอกลูกค้าอีกว่าหาบ้าน แล้วแพรวก็หันมามองหน้าบอกว่าไม่หาแล้ว แต่จะเลี้ยงไว้เองเลย

เราเลี้ยงข้าวโพดรวมกับพี่ๆ เลย ตอนเลี้ยงข้าวโพดเราลุ้นกันทุกวันว่าเมื่อไหร่ตาจะเปิด พอเขาเริ่มลืมตาเราก็กรี๊ดกัน สนุกมาก เราได้เห็นทุกๆ พัฒนาการเติบโตของข้าวโพด ด้วยความที่เขายังเด็กเราต้องดูแลเขาตลอด อุ้มลงมาอยู่ด้วยกันที่ร้าน เขาเลยคุ้นชินกับผู้คน ส่วนอีก 3 ตัวอยู่ที่บ้าน เขาสามารถดูแลตัวเองได้ เพราะเขาไม่ถนัดกับการได้พบเจอคนเยอะๆ เท่าไหร่  

เยียวยาหัวใจกันและกัน

เหตุการณ์ในช่วงโควิดที่ผ่านมาค่อนข้างมีผลกับชีวิตของเราพอสมควร นอกจากเราจะได้ช่วยน้องเฮงแล้ว เขาก็ช่วยเราเหมือนกัน เขาเป็นแมวที่ช่วยเยียวยาหัวใจเรามาก รู้สึกมีความสุขและอิ่มเอม การเลี้ยงแมวจรก็มีความน่ารักในแบบของเขา อย่างเพื่อนๆ ที่เขาเลี้ยงแมวพันธุ์สวยๆ บอกว่า บ้านเราเป็นมูลนิธิหรือเปล่า แต่เราแค่คิดว่าแมวจรก็มีความน่ารัก เราได้ช่วยชีวิตเขา ได้เปลี่ยนชีวิตเขา ให้เขามีชีวิตที่ดีขึ้น เราก็รู้สึกดีไปกับเขาแค่นั้นก็เพียงพอแล้ว ถามว่าอยากได้แมวสวยๆ มาเลี้ยงไหม เขาก็น่ารักนะ แต่แมวที่เราเลี้ยงก็น่ารักมากพอแล้ว


You Might Also Like...