ในงาน Thai Art Toy Fest: สยามเด็กเล่น ทำให้เราได้เห็นศิลปินไทยรุ่นใหม่และสตูดิโออาร์ตทอยไทยที่สร้างสรรค์ผลงานอาร์ตทอยเนี้ยบนิ้งไม่แพ้ต่างชาติ หนึ่งในบรรดาอาร์ตทอยที่ทำให้เราใจบางไปกับความน่ารัก ก็คือคาแรกเตอร์ Liko Liko (ลิโก ลิโก้)
น่าเสียดายที่คุณไม่ได้เห็นอาร์ตทอยกับตา ซึ่งเป็นคาแรกเตอร์ของสิงโตหน้าบันไดวัดโพธิ์ มีทั้งหมด 6 ตัว กับอีก 1 ซีเคร็ต เพราะตอนที่เราไปสัมภาษณ์ยังอยู่ในขั้นตอนการผลิตและสั่งพรีออร์เดอร์ ซึ่งจัดส่งพร้อมกันในช่วงปลายเดือนตุลาคม เป็นอาร์ตทอยไทยที่เต็มไปด้วยรายละเอียด ไม่ว่าจะเป็นทรงผมลวดลายเหมือนลายน้ำในภาพวาดไทยโบราณ รวมถึงสร้อยคอดอกพุดน้ำบุศย์ รวมถึงชุดของสิงโตธาตุน้ำที่เป็นกางเกงลายช้าง ซึ่งอาร์ตทอยนี้ออกแบบโดยคุณเกรียงไกร กงกะนันทน์ จาก Bearwake ค่ายอาร์ตทอยน้องใหม่ของไทย ที่ก่อตั้งโดยคุณทรงธรรม เจริญทอง (คุณอ๊อบ) ผู้ขับเคลื่อนในการสนับสนุนและส่งเสริมศิลปินไทย ซึ่งเขากำลังเดินตามฝันที่ยิ่งใหญ่แถมตั้งเป้าความสำเร็จภายใน 3 ปีที่จะทำให้ประเทศไทยมีแฟลกชิปสโตร์ซึ่งรวบรวมอาร์ตทอยจากศิลปินไทยโดยเฉพาะ
แค่จินตนาการว่าในอนาคตบ้านเราจะมีช็อปที่เป็นค่ายของคนไทยเองมันต้องเจ๋งมากแน่ๆ วันนี้เราเลยขอชวนคุณออฟมานั่งพูดคุยถึงแนวคิดในการทำธุรกิจด้านนี้ ทั้งที่ก่อนหน้าเขาออกตัวว่าไม่เคยรู้จักอาร์ตทอย ไม่รู้จักป๊อปมาร์ท แต่อะไรทำให้เขาสนใจและเชื่อมั่นว่าสิ่งที่เขาตั้งใจทำมันจะเกิดขึ้นได้แน่นอน
แนวคิดที่เริ่มจากความสงสัย
“มันเริ่มจากความสงสัยของผมว่าอาร์ตทอยคืออะไร ทำไมมีแต่คนวิ่งกรูเข้ามาเพื่อจะซื้อของพวกนี้รวมถึงแฟนผมด้วย หลังจากที่ผมคว้า Crybaby มา 1 บ็อกซ์ทั้งๆ ที่ตัวผมเป็นคนห้ามเขาเองว่าไม่ให้ซื้อเพราะราคาสูง ซึ่งตอนนั้นยังไม่รู้หรอกว่าข้างในเป็นอะไร เพราะมีคนวิ่งกรูเข้ามาซื้อเยอะมาก หลังจากที่ผมซื้ออาร์ตทอยกลับมาลูกผมก็หยิบเล่น เขาจดจำคาแรกเตอร์ของอาร์ตทอยได้ เขารู้จักลาบูบู้ ซึ่งสิ่งเหล่านี้มันไม่ใช่การ์ตูนเหมือนเมื่อก่อนที่เรารู้จักโดเรมอน หรือตัวการ์ตูนอื่นๆ เขาคือเจนฯ ใหม่ ความชอบมันเปลี่ยนไป แล้วเราสามารถนำไปต่อยอดได้ ผมมองจุดนี้เป็นโอกาสในการทำธุรกิจ
“หรืออย่างในวันนั้นผมนัดคุยธุรกิจกับคนจีนแล้วจู่ๆ เขาก็พูดว่าเมืองไทยกำลังจะจัดงานใหญ่เกี่ยวกับอาร์ตทอย ผมเริ่มคิดว่าทำไมบทสนทนาตอนนั้นถึงมีอาร์ตทอยโผล่เข้ามา ผมก็เริ่มสงสัย แล้วก็จำได้ว่ามีพี่คนหนึ่งที่เขาทำงานอาร์ตซึ่งก็คือคุณเกรียงไกรนี่ล่ะ ผมโทรหาเขาแล้วขอไอเดียว่า อะไรคืออาร์ตทอย เขาใส่ไอเดียเข้ามาเต็มเลย แต่เขาคิดภาพไม่ออกว่าจะไปต่อหรือไม่ไปต่อ แต่งาน 3D ออกมาเป็นโมเดลหมดแล้ว ผมก็เริ่มเห็นมีตัวละคร มี Opportunity จากนั้นผมไปเซ็นทรัลเวิลด์เพื่อไปดูงานเอ็กซ์โป แล้วคิดกับตัวเองว่านี่มันคือตลาดอะไร…ผมก็เริ่มเดินไปบูทนั้นบูทนี้ไปฟังสิ่งที่คนเขาพูดกัน เชื่อไหม…ผมฟังไม่รู้เรื่องเลย…ทำไมมันถึงมีเรื่องที่เราไม่รู้ด้วย…
“เราเริ่มเห็นกระแสของป๊อปมาร์ท เขามี Licensing เยอะไปหมด แล้วคุณเกรียงไกรก็เริ่มส่งข้อมูลของศิลปินท่านอื่นๆ ที่เป็นศิลปินไทยให้ผม ผมก็เริ่มอินแล้วคิดต่อว่าทำไมเมืองไทยถึงไม่มีอะไรแบบนี้บ้าง เรามีศิลปินมากหน้าหลายตา ผลงานก็สวยด้วยแต่ทำไมมันถึงไม่เกิด ตอนนั้นผมเริ่มตัดสินใจแล้วว่าจะทำธุรกิจด้านนี้ ประจวบเหมาะกับมีเรื่องของซอฟต์พาวเวอร์เข้ามาเต็มไปหมดเลย คิดว่าน่าจะเป็นไปได้ เราจึงเริ่มจากการทำ Liko Liko เป็นอาร์ตทอยไทยชิ้นแรก
“ผมชอบผลงานของคุณเกรียงไกร เมื่อก่อนผลงานตัวนี้ไม่ใช่แค่อาร์ตทอย แต่มันคือ Sculpture ที่เขาออกแบบมาเป็นรูปปั้นสิงโต ผมได้ฟังสตอรีของเขาแล้วรู้สึกว่าเป็นไอเดียที่ขายได้ ไม่ใช่แค่วาดเฉยๆ แล้วทำอาร์ตทอย ผมว่าแบบนั้นมันไม่เกิด แต่อะไรที่มีสตอรีผมว่าสามารถไปได้”
Liko Liko อาร์ตทอยที่เต็มไปด้วยรายละเอียดและความหมายในเชิงสร้างสรรค์
“คุณเกรียงไกรหยิบยกเอารูปสลักสิงโตที่อยู่ในวัดโพธิ์มาถ่ายทอดสู่งานอาร์ตทอย เขาไปวัดแล้วเห็นสิงโตอยู่ตรงบันได คิดว่าทำไมสิงโตตัวนี้ไม่สามารถนำมาสื่อเป็นงานศิลปะได้ เลยนำสิงโตมาต่อยอดเป็นงานอาร์ตทอย แต่เพิ่มองค์ประกอบหลายๆ อย่างเข้าไป เช่น สร้อย ลูกบอล สร้างไอเดียขึ้นมาให้กับคาแรกเตอร์ของลิโก ลิโก้ ซึ่งเป็นเทวดาผู้พิทักษ์สิงโตหน้าวัดโพธิ์ มีลักษณะผสมผสานความแข็งแกร่งและมิตรภาพ ทรงผมมีลวดลายเหมือนลายน้ำในภาพวาดไทยโบราณ จี้คอได้รับแรงบันดาลใจจากดอกพุดน้ำบุศย์ ไม้มงคลที่เพิ่มความงดงาม และมีความหมายในเชิงวัฒนธรรม สร้างสรรค์ มีพลังบวก
“ลิโก ลิโก้มีนิสัยขี้เล่น รักสนุก ชอบนอนกลางวัน และยิ้มอยู่เสมอ รอยยิ้มแสดงถึงเอกลักษณ์ของความเป็นมิตรและการต้อนรับที่อบอุ่นของคนไทย ลูกบอลทองคำที่ถือเป็นสัญลักษณ์แห่งโชคลาภ และความมั่งคั่ง แสดงถึงการปกป้องและการให้พร
“ใน 1 บ็อกซ์มีทั้งหมด 6 ตัว ไม่รวมซีเคร็ต โดยอาร์ตทอยแต่ละตัวแบ่งเป็นธาตุ ธาตุน้ำ ธาตุดิน ธาตุลม ธาตุไฟ ธาตุไฟฟ้า ธาตุวิญญาณ และธาตุทอง (ซีเคร็ต) อาร์ตทอยเราใช้ท่าทางเดียวกันทั้งหมดแต่เปลี่ยนการแต่งตัว และเน้นเรื่องของโทนสี เพื่อให้มันเกิดความหลากหลาย เนื่องจากอาร์ตทอยมีจุดเด่นในเรื่องของสีที่ต่างกันรวมถึงคาแรกเตอร์แต่ละตัว ดวงตาก็ถูกปรับเปลี่ยนให้แตกต่างตามลักษณะของแต่ละธาตุ
“สิ่งที่เราออกแบบได้คือเรื่องของธาตุซึ่งเหมาะกับผู้คน เราเลยออกคอนเซ็ปต์ที่เกี่ยวกับธาตุขึ้นมา ซึ่งได้ผลตอบรับดีโดยเฉพาะกับคนญี่ปุ่น รวมถึงฟีดแบ็กจากร้านอาหารที่ติดต่อขอซื้อไปวางไว้ที่ร้าน เพราะเข้ากับคาแรกเตอร์ และรู้สึกว่าเป็นกระแส รวมถึงเชื่อในเรื่องโชคลาภ เหมาะกับการตั้งในร้าน หรืออย่างบางบริษัทขอซื้อไปเป็นสิบๆ กล่อง เพราะอยากเอาไปวางไว้ที่บริษัท อยากมีสิงโตตั้งไว้ในแต่ละชั้นตามคำซินแสบอก ผมว่าเป็นเรื่องของความเชื่อส่วนบุคคล แต่ละธาตุมีคำอธิบายบอกรายละเอียดอยู่บนการ์ดอะลูมิเนียมซึ่งมีต้นทุนที่สูง แต่เรามองว่ามันเป็นของสะสมที่สามารถเก็บพร้อมไปกับตัวอาร์ตทอย”
อาร์ตทอยลำดับ 2 ความลับที่ยังเปิดเผยไม่ได้
“ตัวที่ 2 เป็นอาร์ตทอยขนาด 200% เราทำออกมาแค่ 500 ตัว แต่จะเป็นอะไรอยากให้ลองติดตามกันครับ เราพยายามทำให้มีการมูฟเมนต์ของแบรนด์ ตัวแรกต้องเป็นตัวชูก่อน จากนั้นค่อยๆ ปล่อยงานเบอร์ 2 แล้วก็มีงานลำดับที่ 3 ออกมา อาจจะเป็น Liko Liko เวอร์ชัน 2 ที่ผลิตเป็นแบบตุ๊กตาที่ตัวเป็นขน หน้าเป็นพีวีซีแบบลาบูบู้ หรือเป็นสินค้าอื่นๆ”
ฝันใหญ่ไปถึงแฟลกชิปสโตร์ของคนไทย
“สิ่งที่ผมจะทำต่อคือ ตอนนี้เราดึงศิลปินท่านอื่นๆ มาแล้วให้การสนับสนุนศิลปินไทย ไม่มีต่างชาติแน่นอน แล้วเราก็จะเป็นซอฟต์พาวเวอร์ของไทย นี่คือสิ่งที่ผมคุยแล้วตกผลึกว่าผมจะทำ ผมว่าเป็นไอเดียที่ดีมากๆ พอยิ่งทำมันยิ่งได้รับโอกาส โอกาสที่ผมได้เข้ามาทำธุรกิจตรงนี้ มีสมาคม CEA (สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์) เขาก็พาเราไปดูงานที่ประเทศญี่ปุ่น มีการแนะนำต่อยอด ทำให้เรายิ่งรู้จักผู้คนมากขึ้น รู้จักศิลปินท่านอื่นๆ เพิ่มขึ้น บางคนไม่ได้อยากทำแค่อาร์ตทอย บางคนอยากมีคาแรกเตอร์เป็นสินค้า เพราะเดี๋ยวนี้ป๊อปมาร์ทไม่ได้ขายแค่อาร์ตทอยแต่นำมาทำเป็นสินค้า ถ้ามองภาพอีกสัก 2 ปีแล้วมีแฟลกชิปสโตร์ที่เป็นของคนไทยแล้วในนั้นมีแต่ศิลปินไทยผมว่าน่าภูมิใจมาก ผมฝันไปถึงตรงนั้น ยิ่งผมมีประสบการณ์การทำงานกับห้างสรรพสินค้าเยอะ รู้สึกว่าอะไรคือจุด Optimize การมีสโตร์กับการไม่มีสโตร์ แน่นอนว่าถ้ามีสโตร์ คือการสร้างแบรนด์ สร้างมาร์เกตติงซึ่งในวันนั้นผมต้องมีทีมที่แข็งแกร่งแล้ว
“ตอนนี้ค่อยเป็นค่อยไป เริ่มจากกลุ่มเล็กๆ จากการรวมกันของศิลปิน แล้วทำสมาคมให้กว้างในรูปแบบของออนไลน์ จากนั้นค่อยไปลงออฟไลน์ แต่ผมเชื่อว่ารัฐบาลต้องให้การสนับสนุนแล้วช่วยกันผลักดัน ผมต้องการมีแฟลกชิปสโตร์ในห้างภายใน 2-3 ปีนี้ ถ้ามันติดแล้วมันไปต่อได้ยาวเลย
“ภาพในหัวของผมคือ อยากเดินเข้าไปในแฟลกชิปสโตร์ที่ในนั้นมีแต่ผลงานของศิลปินไทย ผมว่าเป็นอะไรที่น่าภูมิใจ จากที่คนเคยจำ Liko Liko ก็จะเริ่มจำความเป็น Bearwake ได้ในที่สุด” คุณออฟกล่าวทิ้งท้าย
ติดตามผลงานอื่นๆ ได้ที่ www.facebook.com/Bearwaketoys
Instagram : bearwaketoys