สาหร่าย “เถ้าแก่น้อย” ขยับตัวกระตุ้นตลาดขนมขบเคี้ยวอีกครั้ง จับมือ “สุกี้ตี๋น้อย” ร้านอาหารชื่อดังที่มีฐานแฟนคลับเหนียวแน่นทั่วประเทศ ออกสาหร่ายรสชาติใหม่ ดึง Signature ของทั้ง 2 แบรนด์ ผสมผสานรวมกันออกมาเป็น สาหร่ายทอดเถ้าแก่น้อย 2 รสชาติใหม่
รสน้ำจิ้มสุกี้ และ รสชาบูน้ำดำ สาหร่ายแผ่นทอดกรอบที่มาพร้อมรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์
ในคอนเซ็ปท์ “กรอบไหนก็ใช่ หอมอร่อยไม่ต้องรอ” พร้อมจัดจำหน่ายแล้วทั่วประเทศ
คุณอิทธิพัทธ์ พีระเดชาพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เถ้าแก่น้อย ฟู๊ดแอนด์มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงการจับมือในครั้งนี้ว่า “จากการเติบโตอย่างต่อเนื่องของตลาดสาหร่ายในประเทศไทยที่ขยายตัวกว่า 9% ในช่วงปีที่ผ่านมา ซึ่งสูงกว่าการเติบโตของตลาดขนมในภาพรวม สะท้อนถึงความนิยมในการบริโภคสาหร่ายของผู้บริโภคชาวไทยที่เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน “เถ้าแก่น้อย” ในฐานะผู้นำตลาดสาหร่ายอันดับ 1 ของประเทศ มุ่งเดินหน้าพัฒนารสชาติใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง Collaboration คือหนึ่งในกลยุทธ์ที่สำคัญซึ่งประสบความสำเร็จเป็นอย่างยิ่ง โดยมุ่งเน้นไปที่การร่วมมือกับร้านอาหารยอดนิยม และแบรนด์ SME ที่กำลังเป็นกระแส ไม่ว่าจะเป็นร้าน After Yum, น้ำพริกป้าแว่น ซึ่งเป็นโปรเจคในช่วงปีที่ผ่านมา ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี และในปีนี้ เราได้ร่วมกับร้านสุกี้ชาบูชื่อดังอย่าง “สุกี้ตี๋น้อย” เพื่อค้นหารสชาติใหม่ ๆ ที่ตอบโจทย์ความนิยมของผู้บริโภคในยุคปัจจุบัน นำมาผสมผสานกับผลิตภัณฑ์สาหร่ายเถ้าแก่น้อย สร้างสรรค์สินค้าที่แปลกใหม่ รสชาติอร่อย มีคุณภาพดี และในตลอดหลายปีที่ผ่านมาร้าน สุกี้ตี๋น้อย นับว่าเป็นร้านอาหารที่ได้รับความนิยมไม่เสื่อมคลาย
“เถ้าแก่น้อย x สุกี้ตี๋น้อย” เปิดตัวด้วยผลิตภัณฑ์ใหม่ โดยการนำ Signature ที่สะท้อนตัวตนของทั้ง 2 แบรนด์ รังสรรค์เป็นสาหร่ายทอด “เถ้าแก่น้อย” รสชาติพิเศษจาก “สุกี้ตี๋น้อย” ใน 2 รสชาติใหม่ คือ รสน้ำจิ้มสุกี้กรอบ อร่อย รสชาติจัดจ้าน เข้มข้น ถึงเครื่องน้ำจิ้มสุกี้ และ รสน้ำซุปสุกี้น้ำดำ รสชาติกลมกล่อม หวาน เค็ม กำลังดี หอมกลิ่นซีอิ๊ว ตอกย้ำการเป็น “สแน็คคู่ใจ” ที่อยู่ในทุกช่วงเวลาของคุณ ไม่ว่าจะมี lifestyle หรือทำอะไร ก็สามารถหยิบมากินได้แบบไม่สะดุดได้อย่างแน่นอน และความร่วมมือครั้งนี้นับเป็นก้าวสำคัญของทั้งสองแบรนด์ โดย “เถ้าแก่น้อย” หวังเจาะกลุ่มลูกค้าใหม่ที่เป็นแฟนของ “สุกี้ตี๋น้อย” และกลุ่มผู้บริโภคที่หลงใหลในอาหารประเภทสุกี้
และชาบู เพื่อขยับเข้าสู่อุตสาหกรรมร้านอาหารมากขึ้น” คุณอิทธิพัทธ์ กล่าว
